ᴘꜰᴘ - Sudarat Sancaiya
“จะทำอะไรก็หัดเนียนกว่านี้หน่อยสิ”
ไม่วายบ่นไปอีกหน
ทว่าเธอไม่มีสมาธิเวลาคุยกับเขานัก เมื่อเทียบกับก่อนหน้า
“จะทำอะไรก็หัดเนียนกว่านี้หน่อยสิ”
ไม่วายบ่นไปอีกหน
ทว่าเธอไม่มีสมาธิเวลาคุยกับเขานัก เมื่อเทียบกับก่อนหน้า
หล่อนจะเกลียดใครได้กัน
—ในเมื่อเธอให้อภัยคนอย่างพ่อได้
ก็แค่หวังให้เขาพินิจมันเสีย แล้วจึงจะเข้าใจ
“ฉันจะเกลียดเขาลงได้ยังไง“
“รู้อะไรไหม”
“ฉันแค่เสียใจ แล้วต่อมาก็โต้เถียงกับเขาต่อ“
“เหมือนกับฉันเสวนากับตัวเองไม่ผิด”
…
“อย่างคนตรงหน้าฉันนั่นแล”
เฮเลน่าท่าจะรู้นานแล้ว แค่ตะล่อมให้แน่ใจ ว่าเป็นเขา
หล่อนจะเกลียดใครได้กัน
—ในเมื่อเธอให้อภัยคนอย่างพ่อได้
ก็แค่หวังให้เขาพินิจมันเสีย แล้วจึงจะเข้าใจ
“ฉันจะเกลียดเขาลงได้ยังไง“
“รู้อะไรไหม”
“ฉันแค่เสียใจ แล้วต่อมาก็โต้เถียงกับเขาต่อ“
“เหมือนกับฉันเสวนากับตัวเองไม่ผิด”
…
“อย่างคนตรงหน้าฉันนั่นแล”
เฮเลน่าท่าจะรู้นานแล้ว แค่ตะล่อมให้แน่ใจ ว่าเป็นเขา
”เขาหยาบกระด้าง จอมเอาชนะ และเอาแต่ใจ“
หล่อนกระแทกเสียงตามจังหวะ ว่าพลางจ้องอีกคน
สีหน้าของสาวเจ้ายังคงเรียบนิ่งอย่างเคย
เหมือนอย่างตลอด
คงจะกดอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ไม่เปลี่ยน
”เขาหยาบกระด้าง จอมเอาชนะ และเอาแต่ใจ“
หล่อนกระแทกเสียงตามจังหวะ ว่าพลางจ้องอีกคน
สีหน้าของสาวเจ้ายังคงเรียบนิ่งอย่างเคย
เหมือนอย่างตลอด
คงจะกดอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ไม่เปลี่ยน
ให้ตาย
เจอแต่คนประหลาด
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะลองเชิงเสียหน่อย
“ขอโทษค่ะ”
“พอดีคุณคล้ายกับคนนึง ที่ฉันพึ่งพบไปเมื่อครู่”
หล่อนเอียงคอเล็กน้อย ขณะเรียวแขนก็ไขว้หลัง พลันดวงตาหรี่ลง รอคำตอบจากอีกคน
ให้ตาย
เจอแต่คนประหลาด
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะลองเชิงเสียหน่อย
“ขอโทษค่ะ”
“พอดีคุณคล้ายกับคนนึง ที่ฉันพึ่งพบไปเมื่อครู่”
หล่อนเอียงคอเล็กน้อย ขณะเรียวแขนก็ไขว้หลัง พลันดวงตาหรี่ลง รอคำตอบจากอีกคน
“ขอโทษค่ะ“
“ฉันมองไม่เห็น”
กว่าจะรู้ตัว ก็หลงเพ่งพินิจอยู่พักหนึ่ง
ให้ตาย
ไม่มีสมาธิเลย
แม้ทีแรกหล่อนจะมุ่งหน้าไปโรงนกฮูก
ทว่าคนตรงหน้ากลับชวนคุ้นเคยนัก
อะไรกัน
“ขอโทษค่ะ“
“ฉันมองไม่เห็น”
กว่าจะรู้ตัว ก็หลงเพ่งพินิจอยู่พักหนึ่ง
ให้ตาย
ไม่มีสมาธิเลย
แม้ทีแรกหล่อนจะมุ่งหน้าไปโรงนกฮูก
ทว่าคนตรงหน้ากลับชวนคุ้นเคยนัก
อะไรกัน
พลางพินิจมองหมวกฟักทองที่สวมอยู่
ท่าจะหนักอยู่ไม่ใช่หรือ
พลางพินิจมองหมวกฟักทองที่สวมอยู่
ท่าจะหนักอยู่ไม่ใช่หรือ
"เอ๋ เอ่อ...?"
คนป้อนหรือ? ตอนนี้ตนใส่หัวฟักทองอยู่ ดังนั้นคนป้อนอร่อย อาจจะหมายถึงฟักทองอร่อยกว่าหรือเปล่านะ? (แกทเชื่อมโยงเต็ม300 ให้1000--)
จับฟักทองบนหัวตัวเอง
"หะ หัวฟักทองอันนี้... กินไม่ได้นะ ครับ?"
+
"เอ๋ เอ่อ...?"
คนป้อนหรือ? ตอนนี้ตนใส่หัวฟักทองอยู่ ดังนั้นคนป้อนอร่อย อาจจะหมายถึงฟักทองอร่อยกว่าหรือเปล่านะ? (แกทเชื่อมโยงเต็ม300 ให้1000--)
จับฟักทองบนหัวตัวเอง
"หะ หัวฟักทองอันนี้... กินไม่ได้นะ ครับ?"
+
แลนทราซพูดขึ้นเสียงเบากว่าปกติเล็กน้อย เขาตั้งใจให้ได้ยินแค่สองคน ราวกับเป็นบทสนทนาที่เป็นความลับ
รอยยิ้มผุดขึ้นจางๆ เขาดูสนุกกับสิ่งที่ทำอย่างน่าประหลาด อาจเพราะคล้ายกับการเล่นใต้ผ้าห่ม?ในความทรงจำวัยเด็ก
แลนทราซพูดขึ้นเสียงเบากว่าปกติเล็กน้อย เขาตั้งใจให้ได้ยินแค่สองคน ราวกับเป็นบทสนทนาที่เป็นความลับ
รอยยิ้มผุดขึ้นจางๆ เขาดูสนุกกับสิ่งที่ทำอย่างน่าประหลาด อาจเพราะคล้ายกับการเล่นใต้ผ้าห่ม?ในความทรงจำวัยเด็ก
’เพราะหนูเป็นลูกของแม่ใช่ไหม‘
’เป็นลูกของผู้ชายที่คุณเกลียด’
—แววตา
คุณชิงชังดวงตาคู่นั้น อย่างที่คุณพร่ำโทษมาตลอดนับปี
วันนี้เป็นวันที่ 31
ขอแค่จดหมายสองสามฉบับ
ขอแค่ฉบับเดียว
แค่เป็นพ่อคนมันยากนักรึ
’เพราะหนูเป็นลูกของแม่ใช่ไหม‘
’เป็นลูกของผู้ชายที่คุณเกลียด’
—แววตา
คุณชิงชังดวงตาคู่นั้น อย่างที่คุณพร่ำโทษมาตลอดนับปี
วันนี้เป็นวันที่ 31
ขอแค่จดหมายสองสามฉบับ
ขอแค่ฉบับเดียว
แค่เป็นพ่อคนมันยากนักรึ
น่าขยะแขยง
เกลียดเสียจริง มันแผ่ซ่านไปทุกอณู ลำคอร้อนผ่าว มือเรียวกุมลำคอเอาไว้แน่น
ถอนหายใจ
หายใจเร็วเข้า- เฮเลน่า
+
น่าขยะแขยง
เกลียดเสียจริง มันแผ่ซ่านไปทุกอณู ลำคอร้อนผ่าว มือเรียวกุมลำคอเอาไว้แน่น
ถอนหายใจ
หายใจเร็วเข้า- เฮเลน่า
+
เพราะเป็นนกตัวสุดท้าย เป็นนกที่อ่อนแอ ปีกก็กางไม่ได้
ยังอ่อนแอ
เกินกว่าจะปกป้องตนเอง
เห็นแก่ตัว ที่รอดมาคนเดียว- สลักฝังลึกอยู่ในอกตราบปีกคู่งามกระพือออก มันแข็งแรงนัก
มากเกินไปเสียด้วย
+
เพราะเป็นนกตัวสุดท้าย เป็นนกที่อ่อนแอ ปีกก็กางไม่ได้
ยังอ่อนแอ
เกินกว่าจะปกป้องตนเอง
เห็นแก่ตัว ที่รอดมาคนเดียว- สลักฝังลึกอยู่ในอกตราบปีกคู่งามกระพือออก มันแข็งแรงนัก
มากเกินไปเสียด้วย
+
“ก็เป็นสำเนียง“ ถึงสุดท้ายหล่อนจะยื่นขนมที่ว่าบนฝ่ามืออีกคนแล้วก็ตาม
“ก็เป็นสำเนียง“ ถึงสุดท้ายหล่อนจะยื่นขนมที่ว่าบนฝ่ามืออีกคนแล้วก็ตาม
เฮเลน่า, เธอหวนเรียกตน ดึงสติออกมาจากห้วงความคิด
—โดฟ เธอคือโดฟ
ก่อนคำถามจากอีกคนจะเขย่าให้กลับสู่ความจริงเสียแล้ว “อันนี้เรียกว่า วซลโยต์นา ลูกอมรสเลม่อน“
”ส่วนนี่ทอฟฟี่ จะเหนียวหน่อย แต่มีรสหวาน“
หล่อนอธิบายพลางออกเสียงอย่างช่ำชอง
เฮเลน่า, เธอหวนเรียกตน ดึงสติออกมาจากห้วงความคิด
—โดฟ เธอคือโดฟ
ก่อนคำถามจากอีกคนจะเขย่าให้กลับสู่ความจริงเสียแล้ว “อันนี้เรียกว่า วซลโยต์นา ลูกอมรสเลม่อน“
”ส่วนนี่ทอฟฟี่ จะเหนียวหน่อย แต่มีรสหวาน“
หล่อนอธิบายพลางออกเสียงอย่างช่ำชอง
“ก็ทำได้ในหลายอย่าง“
”แค่ฉันเลือกไม่ทำ“ ว่าพลางสำรวจขนมที่อยู่ในถังฟักทอง
เรียวมือหยิบลูกอมสองถึงสามเม็ด บ้างก็เป็นภาษาจากทางบ้านเกิดของตน อย่างลูกอมรสเลม่อน หรือจะเป็นทอฟฟี่
ถึงพอจะมีขนมในโลกเวทมนต์ที่ได้มาจากคนอื่นอีกทีก็ตาม
“ก็ทำได้ในหลายอย่าง“
”แค่ฉันเลือกไม่ทำ“ ว่าพลางสำรวจขนมที่อยู่ในถังฟักทอง
เรียวมือหยิบลูกอมสองถึงสามเม็ด บ้างก็เป็นภาษาจากทางบ้านเกิดของตน อย่างลูกอมรสเลม่อน หรือจะเป็นทอฟฟี่
ถึงพอจะมีขนมในโลกเวทมนต์ที่ได้มาจากคนอื่นอีกทีก็ตาม
จวบจนอีกคนผละออกไปเอง พลางถอนหายใจสองถึงสามหน และการโต้เถียงกับเขาย่อมไม่ก่ออะไร
“—คาดหวังอยู่หรอ” หล่อนไม่ว่าไว้ เขาเองก็ไม่ต่างกันนัก
”ขนม“
”จะเอารึเปล่า“
ไม่วายแทรกถาม
ไม่แน่นัก.. เขาก็อาจอยากได้ขนมประจำเทศกาลอยู่
จวบจนอีกคนผละออกไปเอง พลางถอนหายใจสองถึงสามหน และการโต้เถียงกับเขาย่อมไม่ก่ออะไร
“—คาดหวังอยู่หรอ” หล่อนไม่ว่าไว้ เขาเองก็ไม่ต่างกันนัก
”ขนม“
”จะเอารึเปล่า“
ไม่วายแทรกถาม
ไม่แน่นัก.. เขาก็อาจอยากได้ขนมประจำเทศกาลอยู่