ร้านรับซ่อมของเก่าโทคิโมริ ย่านนิชิโกะ
Mikami Hayato | npc | 18 (ศิษย์เก่า)
ได้ยินคำตอบจากอีกฝ่ายแล้วเขาก็แน่นิ่งไป เหมือนคำตอบที่ได้รับจะน่าประหลาดใจสำหรับเขามากกว่าที่คิด
แต่มิคามิเข้าใจสิ่งที่คุโจอยากจะสื่อ ถึงได้หลุบตาลงอีกครั้ง โล่งใจขึ้นมาที่เขาใจคนตรงหน้าได้แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น
“แต่ก็”
“เพราะเป็นคุโจซัง นี่ครับ..?”
ได้ยินคำตอบจากอีกฝ่ายแล้วเขาก็แน่นิ่งไป เหมือนคำตอบที่ได้รับจะน่าประหลาดใจสำหรับเขามากกว่าที่คิด
แต่มิคามิเข้าใจสิ่งที่คุโจอยากจะสื่อ ถึงได้หลุบตาลงอีกครั้ง โล่งใจขึ้นมาที่เขาใจคนตรงหน้าได้แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น
“แต่ก็”
“เพราะเป็นคุโจซัง นี่ครับ..?”
เสียงทุ้มเบาเอ่ย
ไม่ใช่น้ำเสียงตะกุกตะกักร้อนรน เพียงแค่บางเบาเสียจนเสียงรอบข้างแทบจะกลบได้ง่ายๆหากไม่ตั้งใจฟัง
“เลือกไม่ถูกหรอครับ?“
แม้แต่คำตอบก็ไม่ได้มั่นใจหรอก เพราะดูจากการที่แขนเล็กๆนั่นกอดถุงแป้งที่เขาเลือกเอาไว้แบบนั้น มันคงไม่ใช่ของที่ไม่ต้องการหรอก
เลือกที่จะตอบสิ่งที่ผิด ดีกว่าตอบว่าไม่รู้น่ะนะ
เสียงทุ้มเบาเอ่ย
ไม่ใช่น้ำเสียงตะกุกตะกักร้อนรน เพียงแค่บางเบาเสียจนเสียงรอบข้างแทบจะกลบได้ง่ายๆหากไม่ตั้งใจฟัง
“เลือกไม่ถูกหรอครับ?“
แม้แต่คำตอบก็ไม่ได้มั่นใจหรอก เพราะดูจากการที่แขนเล็กๆนั่นกอดถุงแป้งที่เขาเลือกเอาไว้แบบนั้น มันคงไม่ใช่ของที่ไม่ต้องการหรอก
เลือกที่จะตอบสิ่งที่ผิด ดีกว่าตอบว่าไม่รู้น่ะนะ
เนื้อหมู
แครอท
มันฝรั่ง
“ ! “
มิคามิมองมาทางอีกคนพร้อมของพวกนั้น เหมือนจะอยากให้ลองเดาดูล่ะว่าเขาจะทำเมนูอะไร
เนื้อหมู
แครอท
มันฝรั่ง
“ ! “
มิคามิมองมาทางอีกคนพร้อมของพวกนั้น เหมือนจะอยากให้ลองเดาดูล่ะว่าเขาจะทำเมนูอะไร
เพราะแทนที่จะรำคาญแล้วเดินหนีเขาไปซะ คุโจคนนี้กลับยังยืนอยู่ตรงหน้าเขา และจ้องเข้ามาในตาเขาอยู่
ทำไมกันนะ
“..เหมือนจะทำให้ไม่พอใจ”
นั่นเป็นความคิดในหัวเขาที่เลือกตอบออกไปอย่างซื่อๆ
มิคามิไม่ได้รู้สึกแย่กับท่าทีอีกฝ่าย แต่เพราะเขาทำให้อีกฝ่ายมีท่าทีแบบนั้นต่างหาก
เพราะแทนที่จะรำคาญแล้วเดินหนีเขาไปซะ คุโจคนนี้กลับยังยืนอยู่ตรงหน้าเขา และจ้องเข้ามาในตาเขาอยู่
ทำไมกันนะ
“..เหมือนจะทำให้ไม่พอใจ”
นั่นเป็นความคิดในหัวเขาที่เลือกตอบออกไปอย่างซื่อๆ
มิคามิไม่ได้รู้สึกแย่กับท่าทีอีกฝ่าย แต่เพราะเขาทำให้อีกฝ่ายมีท่าทีแบบนั้นต่างหาก
คงเพราะปกติอีกฝ่ายมักจะถอนหายใจแล้วก็เป็นฝ่ายเดินหนีเขาไปเอง ด้วยคำถามนั้นถึงเลิกคิ้วสงสัย
แล้วเขาควรจะแย้งเรื่องอะไรล่ะ ขนมปังน่ะหรอ หรือต้องพูดอะไร ทำยังไงคุโจซังถึงจะอารมณ์ดีล่ะ
“ ... ”
“ ขอโทษ คุโจซัง ”
ถึงจะยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่เพราะอีกฝ่ายกำลังดูเหนื่อยหน่ายใจเพราะเขา คำนั้นจึงถูกเอ่ยออกมา
คงเพราะปกติอีกฝ่ายมักจะถอนหายใจแล้วก็เป็นฝ่ายเดินหนีเขาไปเอง ด้วยคำถามนั้นถึงเลิกคิ้วสงสัย
แล้วเขาควรจะแย้งเรื่องอะไรล่ะ ขนมปังน่ะหรอ หรือต้องพูดอะไร ทำยังไงคุโจซังถึงจะอารมณ์ดีล่ะ
“ ... ”
“ ขอโทษ คุโจซัง ”
ถึงจะยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่เพราะอีกฝ่ายกำลังดูเหนื่อยหน่ายใจเพราะเขา คำนั้นจึงถูกเอ่ยออกมา
เหมือนจะเดินสวนกับคนคุ้นหน้าคุ้นตาไป ตนจึงเหลียวหลังกลับมามอง แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็เหมือนอีกคนกำลังมุ่งตรงเข้าหาเสาไฟที่ตั้งเด่นเป็นสง่า
ซึ่งดูเหมือนกำลังจะชนเข้าจริงๆแล้วนะนั่น
“ ! ”
มิคามิรีบหันไปคว้าต้นแขนอีกคนไว้แรงพอที่จะทำให้ตัวหันมา เพราะก้าวไปอีกก้าวเดียวเดี๋ยวคงได้โหม่งเสาไปแล้ว
สีหน้าดูจะตกใจหน่อยๆแล้วมองสำรวจอีกคนทันทีว่าเป็นอะไรมั้ย
เหมือนจะเดินสวนกับคนคุ้นหน้าคุ้นตาไป ตนจึงเหลียวหลังกลับมามอง แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็เหมือนอีกคนกำลังมุ่งตรงเข้าหาเสาไฟที่ตั้งเด่นเป็นสง่า
ซึ่งดูเหมือนกำลังจะชนเข้าจริงๆแล้วนะนั่น
“ ! ”
มิคามิรีบหันไปคว้าต้นแขนอีกคนไว้แรงพอที่จะทำให้ตัวหันมา เพราะก้าวไปอีกก้าวเดียวเดี๋ยวคงได้โหม่งเสาไปแล้ว
สีหน้าดูจะตกใจหน่อยๆแล้วมองสำรวจอีกคนทันทีว่าเป็นอะไรมั้ย
คิดว่าเลือกดีแล้วแท้ๆเพราะตั้งใจเลือกที่ส่วนผสมดูดีกว่าราคาก็โอเค หรือไม่ถูกใจกันนะ
แต่ทั้งแววตาทั้งน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะไม่ว่าเขาที่เลือกผิดหรือถูก มันยิ่งทำคนตัวสูงสับสนกว่าเก่า
“ ... ”
เขาหลุบสายตาจากนัยน์ตาคู่สวยลงด้วยสีหน้าที่ดูหงอลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนจะกำลังรู้สึกผิดอยู่ล่ะ ถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกันแน่ก็เถอะ
คิดว่าเลือกดีแล้วแท้ๆเพราะตั้งใจเลือกที่ส่วนผสมดูดีกว่าราคาก็โอเค หรือไม่ถูกใจกันนะ
แต่ทั้งแววตาทั้งน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะไม่ว่าเขาที่เลือกผิดหรือถูก มันยิ่งทำคนตัวสูงสับสนกว่าเก่า
“ ... ”
เขาหลุบสายตาจากนัยน์ตาคู่สวยลงด้วยสีหน้าที่ดูหงอลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนจะกำลังรู้สึกผิดอยู่ล่ะ ถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกันแน่ก็เถอะ
แน่นอนว่าคำถามอีกฝ่ายทำมิคามิงงน่ะสิ แต่ถึงจะถามเขา เขาก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการทำขนมปัง แถมลูกเจ้าของร้านเบเกอรี่ก็น่าจะรู้มากกว่าเขานี่
สบแววตาที่ไม่อาจคาดเดานั่นจนเขาไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไร เลยยกสองถุงนั่นขึ้นมาพิจารณาอ่านฉลากมันทั้งคู่
ดูท่าจะตั้งใจเลือกเชียว
ก้มหน้าก้มตาสักพักเขาก็ตัดสินใจเลือกถุงในมือซ้ายยื่นให้อีกคน พร้อมสีหน้าที่ถามไถ่ว่าคิดว่ายังไงบ้าง
แน่นอนว่าคำถามอีกฝ่ายทำมิคามิงงน่ะสิ แต่ถึงจะถามเขา เขาก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการทำขนมปัง แถมลูกเจ้าของร้านเบเกอรี่ก็น่าจะรู้มากกว่าเขานี่
สบแววตาที่ไม่อาจคาดเดานั่นจนเขาไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไร เลยยกสองถุงนั่นขึ้นมาพิจารณาอ่านฉลากมันทั้งคู่
ดูท่าจะตั้งใจเลือกเชียว
ก้มหน้าก้มตาสักพักเขาก็ตัดสินใจเลือกถุงในมือซ้ายยื่นให้อีกคน พร้อมสีหน้าที่ถามไถ่ว่าคิดว่ายังไงบ้าง
ง่ายที่สุดในแบบของเขาล่ะนะ
ถือไว้ในมือข้างละถุงตรงหน้าคนตัวเล็กให้เลือกหยิบสะดวกๆ แน่นอนว่าในระดับที่อีกคนไม่ต้องแหงนหน้ามากน่ะนะ
ระหว่างรออีกคนเลือกเขาก็ได้มองสำรวจอีกฝ่ายสักหน่อย
จะว่าไปแล้ว ก็ยังดูเป็นคนที่ไม่พอใจอยู่ตลอดเวลาเลยแฮะ
ง่ายที่สุดในแบบของเขาล่ะนะ
ถือไว้ในมือข้างละถุงตรงหน้าคนตัวเล็กให้เลือกหยิบสะดวกๆ แน่นอนว่าในระดับที่อีกคนไม่ต้องแหงนหน้ามากน่ะนะ
ระหว่างรออีกคนเลือกเขาก็ได้มองสำรวจอีกฝ่ายสักหน่อย
จะว่าไปแล้ว ก็ยังดูเป็นคนที่ไม่พอใจอยู่ตลอดเวลาเลยแฮะ
(-• )=
( •-• )
หันขวับไปมองข้างหลังตัวเองแต่ไม่พบใคร แปลว่าหมายถึงเขาสินะ เจ้าของเส้นผมสีหวานจึงเดินเข้ามาหาต้นเสียงนั้นแต่โดยดี
มาหยุดอยู่ข้างๆ เขาแหงนหน้ามองสิ่งที่อยู่ชั้นบนสุดที่อีกคนดูจะหมายมั่นเอาไว้ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปแต่ก็ดันชะงัก
”...“
เพราะตรงนั้นเป็นระหว่างกลางของแป้งสองยี่ห้อ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากได้อันไหน เลยก้มหน้ามามองตาปริบ
“ ? ”
(-• )=
( •-• )
หันขวับไปมองข้างหลังตัวเองแต่ไม่พบใคร แปลว่าหมายถึงเขาสินะ เจ้าของเส้นผมสีหวานจึงเดินเข้ามาหาต้นเสียงนั้นแต่โดยดี
มาหยุดอยู่ข้างๆ เขาแหงนหน้ามองสิ่งที่อยู่ชั้นบนสุดที่อีกคนดูจะหมายมั่นเอาไว้ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปแต่ก็ดันชะงัก
”...“
เพราะตรงนั้นเป็นระหว่างกลางของแป้งสองยี่ห้อ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากได้อันไหน เลยก้มหน้ามามองตาปริบ
“ ? ”
“ ... ”
ความรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆสะกิดขึ้นมาในใจ ฮายาโตะเลยชะเง้อหน้านิดหน่อยเพื่อให้เห็นใบหน้าที่กำลังฮึ้บสุดแขนนั่นชัดเจน
อ่อ
ขนมปัง
สิ่งที่ขึ้นมาในหัวไม่ใช่ชื่อของอีกคนแต่เป็นสิ่งที่เขาจำเกี่ยวกับอีกคนซะอย่างนั้น
“ ... ”
ความรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆสะกิดขึ้นมาในใจ ฮายาโตะเลยชะเง้อหน้านิดหน่อยเพื่อให้เห็นใบหน้าที่กำลังฮึ้บสุดแขนนั่นชัดเจน
อ่อ
ขนมปัง
สิ่งที่ขึ้นมาในหัวไม่ใช่ชื่อของอีกคนแต่เป็นสิ่งที่เขาจำเกี่ยวกับอีกคนซะอย่างนั้น
“...”
ซื้อมาแล้วน่ะ วัตถุดิบทำมื้อเย็น
เพราะมาเจออีกฝ่ายตอนขากลับน่ะนะ แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่อีกฝ่ายจะทันเอ่ยอะไรเขาก็กระตุกแขนเสื้อคนน้องเบาๆ ขาก้าวนำไปแค่หนึ่งก้าวพลางหันกลับมาพเยิดหน้าไปทางนั้นเป็นการชักชวนให้ไปด้วยกัน
เผื่อว่าระหว่างทางจะไปเจออะไรเข้าอีกล่ะนะ
“...”
ซื้อมาแล้วน่ะ วัตถุดิบทำมื้อเย็น
เพราะมาเจออีกฝ่ายตอนขากลับน่ะนะ แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่อีกฝ่ายจะทันเอ่ยอะไรเขาก็กระตุกแขนเสื้อคนน้องเบาๆ ขาก้าวนำไปแค่หนึ่งก้าวพลางหันกลับมาพเยิดหน้าไปทางนั้นเป็นการชักชวนให้ไปด้วยกัน
เผื่อว่าระหว่างทางจะไปเจออะไรเข้าอีกล่ะนะ
ก็เท่าที่รู้จัก เด็กนี่ดูจะร้องไห้ง่ายเพราะขี้กลัวอยู่แล้วนี่นะ แต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามเข้มแข็งน่าดู
เขาหยุดมือที่กำลังปลอบนั่นแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าตัวเองออกมายื่นให้อีกฝ่ายแทนระหว่างนั้นก็มองรอบๆ เหมือนทางเส้นนี้จะเป็นทางไปร้านค้าตรงทางโน้น เขาชี้ไปฝั่งทางไปร้านค้าพลางเอียงคอนิดหน่อยเชิงถาม
ก็เท่าที่รู้จัก เด็กนี่ดูจะร้องไห้ง่ายเพราะขี้กลัวอยู่แล้วนี่นะ แต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามเข้มแข็งน่าดู
เขาหยุดมือที่กำลังปลอบนั่นแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าตัวเองออกมายื่นให้อีกฝ่ายแทนระหว่างนั้นก็มองรอบๆ เหมือนทางเส้นนี้จะเป็นทางไปร้านค้าตรงทางโน้น เขาชี้ไปฝั่งทางไปร้านค้าพลางเอียงคอนิดหน่อยเชิงถาม
ขณะเดินเข้าไปหายังไม่ทันได้เอื้อมมือสะกิด อีกคนก็ดันหันมาเสียก่อน ใบหน้าเคล้าน้ำตานั่นทำเขาชะงักไปหน่อย
“...”
เขาไม่ได้พูดอะไรอย่างเคย เพียงแค่หันมองรอบๆแล้วหันกลับมาเหมือนจะบอกว่าไม่มีอะไรแล้วล่ะ
ขณะเดินเข้าไปหายังไม่ทันได้เอื้อมมือสะกิด อีกคนก็ดันหันมาเสียก่อน ใบหน้าเคล้าน้ำตานั่นทำเขาชะงักไปหน่อย
“...”
เขาไม่ได้พูดอะไรอย่างเคย เพียงแค่หันมองรอบๆแล้วหันกลับมาเหมือนจะบอกว่าไม่มีอะไรแล้วล่ะ