Doc : https://bit.ly/48kRWBH
#KMI_Commu
((⚠️กำลังก่อสร้าง+ปั่นปักหมุด⚠️))
อืม ดีแล้วล่ะ ปล่อยให้เรื่องนี้มันอยู่ในใจของเขาคนเดียวก็พอ..
"อืม"
ตอบรับอีกคนและหันไปมองรอบตัวเช่นกัน คนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาก็กำลังลุกเช่นกัน
"เอาสิ แต่รอแปปนึง.."
กินมองมือของพวกเขาที่จับกันด้วยแววตาเสียดายอยู่สักครู่ ก่อนจะค่อยๆ ถอนมือออกและนำถุงมือมาสวมกลับดังเดิม
"ไปกันเถอะ"
อืม ดีแล้วล่ะ ปล่อยให้เรื่องนี้มันอยู่ในใจของเขาคนเดียวก็พอ..
"อืม"
ตอบรับอีกคนและหันไปมองรอบตัวเช่นกัน คนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาก็กำลังลุกเช่นกัน
"เอาสิ แต่รอแปปนึง.."
กินมองมือของพวกเขาที่จับกันด้วยแววตาเสียดายอยู่สักครู่ ก่อนจะค่อยๆ ถอนมือออกและนำถุงมือมาสวมกลับดังเดิม
"ไปกันเถอะ"
"นายนี่นะ.."
เว้นจังหวะไปชั่วครู่
"ไม่ใช่เพราะหนังไซไฟเกรดบีหรอกที่ทำให้เสียน้ำตา แต่เพราะ..."
เขาลดมือลงและหันไปมองตาอีกฝ่ายตรงๆ
"อยู่ที่ว่ามาดูกับใครต่างหาก"
ประโยคที่ดูเหมือนพูดกวนกลับ แต่ก็เหมือนคล้ายจะสารภาพอะไรบางอย่างกลายๆ
"นายนี่นะ.."
เว้นจังหวะไปชั่วครู่
"ไม่ใช่เพราะหนังไซไฟเกรดบีหรอกที่ทำให้เสียน้ำตา แต่เพราะ..."
เขาลดมือลงและหันไปมองตาอีกฝ่ายตรงๆ
"อยู่ที่ว่ามาดูกับใครต่างหาก"
ประโยคที่ดูเหมือนพูดกวนกลับ แต่ก็เหมือนคล้ายจะสารภาพอะไรบางอย่างกลายๆ
ฝ่ามือที่ผสานกันทั้งร้อนและชื้นเหงื่อ แต่จนกระทั่งภาพยนต์ฉายจบ เขาก็ยังไม่อยากปล่อยมือออก
"หนังเหรอ? อืม ก็ดีนะ.."
พูดตามตรงว่าเขาแทบไม่ได้ดูมันเลยสักนิด
ไม่รู้ว่าที่อีกฝ่ายถามมันหมายถึงเรื่องไหน แต่คนตัวสูงบ่ายเบี่ยงไม่ตอบทั้งความรู้สึกในตอนนี้แล้วก็เรื่องที่จับมือกันอยู่แล้วกัน
กินมองตรงไปที่จอที่ฉายเครดิตของหนัง ขอบตายังแดงจากการร้องไห้
"นายล่ะ..? เป็นไงบ้าง"
ฝ่ามือที่ผสานกันทั้งร้อนและชื้นเหงื่อ แต่จนกระทั่งภาพยนต์ฉายจบ เขาก็ยังไม่อยากปล่อยมือออก
"หนังเหรอ? อืม ก็ดีนะ.."
พูดตามตรงว่าเขาแทบไม่ได้ดูมันเลยสักนิด
ไม่รู้ว่าที่อีกฝ่ายถามมันหมายถึงเรื่องไหน แต่คนตัวสูงบ่ายเบี่ยงไม่ตอบทั้งความรู้สึกในตอนนี้แล้วก็เรื่องที่จับมือกันอยู่แล้วกัน
กินมองตรงไปที่จอที่ฉายเครดิตของหนัง ขอบตายังแดงจากการร้องไห้
"นายล่ะ..? เป็นไงบ้าง"
สัมผัสและอุณหภูมิจากมืออีกฝ่ายทำให้เขาอยากเก็บมันไว้ตลอดไป
ระหว่างที่ระบายความรู้สึก บางอย่างมันก็ชัดเจนมากขึ้น
เขาชอบฟุตาบะ...
ณ ตอนนี้เขามั่นใจยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
กินเงยหน้าเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะยืดตัวกลับมานั่งปกติเหมือนเดิม
"ขอบคุณที่ให้ยืมไหล่.."
รู้สึกเก้อเขินทันทีเมื่อปรับอารมณ์ให้คงที่ได้แล้ว
สัมผัสและอุณหภูมิจากมืออีกฝ่ายทำให้เขาอยากเก็บมันไว้ตลอดไป
ระหว่างที่ระบายความรู้สึก บางอย่างมันก็ชัดเจนมากขึ้น
เขาชอบฟุตาบะ...
ณ ตอนนี้เขามั่นใจยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
กินเงยหน้าเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะยืดตัวกลับมานั่งปกติเหมือนเดิม
"ขอบคุณที่ให้ยืมไหล่.."
รู้สึกเก้อเขินทันทีเมื่อปรับอารมณ์ให้คงที่ได้แล้ว
ไร้เสียงสะอื้น เขาเพียงแค่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเท่านั้น
"อืม ฉันกลัว... กลัวมาตลอด"
"ขอโทษที่ขัดจังหวะนายดูหนังนะ แต่ฉันขออยู่แบบนี้แปปนึงได้รึเปล่า..?"
เอ่ยขออีกฝ่ายด้วยเสียงสั่นเทาเบาๆ
ไร้เสียงสะอื้น เขาเพียงแค่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเท่านั้น
"อืม ฉันกลัว... กลัวมาตลอด"
"ขอโทษที่ขัดจังหวะนายดูหนังนะ แต่ฉันขออยู่แบบนี้แปปนึงได้รึเปล่า..?"
เอ่ยขออีกฝ่ายด้วยเสียงสั่นเทาเบาๆ
ได้รับรู้ถึงความอบอุ่นจากอุณหภูมิที่เขาไม่ได้สัมผัสจากใครมานานหลายปี
เขาเอ่ยตอบอีกฝ่ายไม่ออก คำพูดของอีกคนฝังลึกเข้าไปที่ความรู้สึกของเขา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดหวัง
กินก้มหน้าแล้วเอาหัวพิงกับไหล่ของฟุตาบะ
ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเขาเป็นคนร้องไห้ง่าย และครั้งนี้เขาอยากปลดปล่อยมันผ่านน้ำตา
กับคนข้างๆ
+
ได้รับรู้ถึงความอบอุ่นจากอุณหภูมิที่เขาไม่ได้สัมผัสจากใครมานานหลายปี
เขาเอ่ยตอบอีกฝ่ายไม่ออก คำพูดของอีกคนฝังลึกเข้าไปที่ความรู้สึกของเขา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดหวัง
กินก้มหน้าแล้วเอาหัวพิงกับไหล่ของฟุตาบะ
ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเขาเป็นคนร้องไห้ง่าย และครั้งนี้เขาอยากปลดปล่อยมันผ่านน้ำตา
กับคนข้างๆ
+
กินรีบพูดดักไว้ ก่อนที่จะค่อยๆ ถอดถุงมือสีดำคู่ใจออก เผยให้ฝ่ามือขาวซีดที่อยู่ในร่มผ้ามาตลอด
แต่มันขาวซีดแค่ครึ่งนึงเท่านั้น แต่ส่วนเหลือจนถึงปลายนิ้วทุกนิ้วกลับเป็นสีม่วงปนน้ำตาลคล้ำไหม้คล้ายแผลพุพองเมื่อโดนของร้อนจัดลวก
ไม่น่ามองเลยสักนิด..
ฝ่ามือสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นและตื่นกลัว เอื้อมไปกุมมือเล็กกว่าอย่างช้าๆ
ไม่กล้ามองหน้าเลย..
กินรีบพูดดักไว้ ก่อนที่จะค่อยๆ ถอดถุงมือสีดำคู่ใจออก เผยให้ฝ่ามือขาวซีดที่อยู่ในร่มผ้ามาตลอด
แต่มันขาวซีดแค่ครึ่งนึงเท่านั้น แต่ส่วนเหลือจนถึงปลายนิ้วทุกนิ้วกลับเป็นสีม่วงปนน้ำตาลคล้ำไหม้คล้ายแผลพุพองเมื่อโดนของร้อนจัดลวก
ไม่น่ามองเลยสักนิด..
ฝ่ามือสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นและตื่นกลัว เอื้อมไปกุมมือเล็กกว่าอย่างช้าๆ
ไม่กล้ามองหน้าเลย..
คนที่ขอจับมือกลับลังเล ถึงแม้จะมีความกล้า แต่ความกลัวก็มีมากเช่นกัน
มันมืดก็จริง.. แต่ถ้าอีกฝ่ายเห็นมันล่ะ?
จะตกใจรึเปล่า? จะรีบปล่อยมือเขาออกรึเปล่า? หรือไม่อยากมองมันเหมือนกับ'หมอนั่น'
เมื่อนานมาแล้วเขาเคยตัดสินใจผิดพลาด ครั้งนี้จะเป็นแบบนั้นอีกไหม?
ความคิดลบตีกันในหัว จนใบหน้าชื้นเหงื่อ
...
ขอแค่ครั้งสุดท้าย
+
คนที่ขอจับมือกลับลังเล ถึงแม้จะมีความกล้า แต่ความกลัวก็มีมากเช่นกัน
มันมืดก็จริง.. แต่ถ้าอีกฝ่ายเห็นมันล่ะ?
จะตกใจรึเปล่า? จะรีบปล่อยมือเขาออกรึเปล่า? หรือไม่อยากมองมันเหมือนกับ'หมอนั่น'
เมื่อนานมาแล้วเขาเคยตัดสินใจผิดพลาด ครั้งนี้จะเป็นแบบนั้นอีกไหม?
ความคิดลบตีกันในหัว จนใบหน้าชื้นเหงื่อ
...
ขอแค่ครั้งสุดท้าย
+
คงเป็นเพราะบรรยากาศของโรงหนังที่ทำให้เขารับรู้อีกฝ่ายมากกว่าปกติรึเปล่า?
ความมืดที่ปกคลุม มีเพียงแสงจากจอฉายที่ให้ความสว่าง แต่ถึงอย่างนั้นก็มองเห็นไม่ชัดเจนอยู่ดี
ความคิดชั่ววูบเกิดขึ้น แต่กลับไม่หายไปง่ายๆ
อยากสัมผัสมือนั้น...โดยไม่มีอะไรกั้น
"..."
+
คงเป็นเพราะบรรยากาศของโรงหนังที่ทำให้เขารับรู้อีกฝ่ายมากกว่าปกติรึเปล่า?
ความมืดที่ปกคลุม มีเพียงแสงจากจอฉายที่ให้ความสว่าง แต่ถึงอย่างนั้นก็มองเห็นไม่ชัดเจนอยู่ดี
ความคิดชั่ววูบเกิดขึ้น แต่กลับไม่หายไปง่ายๆ
อยากสัมผัสมือนั้น...โดยไม่มีอะไรกั้น
"..."
+
ทั้งที่เขาควรจะต้องตกใจเป็นปกติ แต่กลับดูผ่านไปเหมือนฉากธรรมดาฉากหนึ่ง
ใจลอยไปอยู่ข้างๆ หมดแล้ว
อยากมองหน้า แล้วก็...
อยากจับมือ
"นี่..ฟุตาบะ"
"ขอจับมือได้ไหม?"
ก้มหน้าไปกระซิบใกล้ๆ
ทั้งที่เขาควรจะต้องตกใจเป็นปกติ แต่กลับดูผ่านไปเหมือนฉากธรรมดาฉากหนึ่ง
ใจลอยไปอยู่ข้างๆ หมดแล้ว
อยากมองหน้า แล้วก็...
อยากจับมือ
"นี่..ฟุตาบะ"
"ขอจับมือได้ไหม?"
ก้มหน้าไปกระซิบใกล้ๆ
กินชะงักก่อนจะหันกลับไปมองจอฉายโดยไม่พูดอะไร อีกฝ่ายรู้ตัวเขาก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว
ใบหูขาวขึ้นสีไม่น้อย แต่ในความมืดคงไม่มีใครสังเกตเห็น
...
หนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ กินนั่งดูนิ่งๆ ไม่ได้หันไปมองหน้าคนข้างตัวอีก
เขาเพียงแค่รับรู้การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของอีกฝ่ายอย่างตอนหยิบน้ำหรือฟังเสียงพูดรีแอคเบาๆ
+
กินชะงักก่อนจะหันกลับไปมองจอฉายโดยไม่พูดอะไร อีกฝ่ายรู้ตัวเขาก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว
ใบหูขาวขึ้นสีไม่น้อย แต่ในความมืดคงไม่มีใครสังเกตเห็น
...
หนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ กินนั่งดูนิ่งๆ ไม่ได้หันไปมองหน้าคนข้างตัวอีก
เขาเพียงแค่รับรู้การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของอีกฝ่ายอย่างตอนหยิบน้ำหรือฟังเสียงพูดรีแอคเบาๆ
+
รู้สึกเหมือนได้ค้นพบมุมใบหน้าใหม่ๆ ของอีกฝ่ายเพิ่มอีก..
รู้สึกเหมือนได้ค้นพบมุมใบหน้าใหม่ๆ ของอีกฝ่ายเพิ่มอีก..
ได้ยินเสียงคำตอบดังขึ้นแววๆ ว่ามองเห็นปกติ คนตัวสูงรู้สึกโล่งใจ
ก่อนจะผงกหัวให้คนข้างหลัง แล้วนั่งยืดปกติตามเดิม
"ฟุตาบะ.. ขอโทษแล้วก็ขอบคุณนะที่ถามให้"
เขาก้มหัวไปกระซิบบอกกับอีกฝ่าย
+
ได้ยินเสียงคำตอบดังขึ้นแววๆ ว่ามองเห็นปกติ คนตัวสูงรู้สึกโล่งใจ
ก่อนจะผงกหัวให้คนข้างหลัง แล้วนั่งยืดปกติตามเดิม
"ฟุตาบะ.. ขอโทษแล้วก็ขอบคุณนะที่ถามให้"
เขาก้มหัวไปกระซิบบอกกับอีกฝ่าย
+
"ฉันกลัวบังคนข้างหลัง โรงหนังมันแคบกลัวว่าหัวฉันจะบัง"
คนตัวสูงที่นั่งหดตัวก้มหัวไปกระซิบตอบอีกฝ่ายเช่นกัน
พอโรงหนังแคบ เขาก็คิดว่าระยะห่างระหว่างเก้าอี้จะแคบตามไปด้วย
โรงหนังในเมืองเล็กๆ พื้นที่มันไม่ได้กว้างเท่าไหร่
กินเหมือนฉุกคิดได้ ถ้าหันไปถามคนข้างหลังจะง่ายกว่ารึเปล่า?
แต่หนังเริ่มฉายไปแล้ว เขาเกรงใจ
"ฉันนั่งได้ ไม่มีปัญหา.."
"นายนั่งได้ใช่ไหม?"
"ฉันกลัวบังคนข้างหลัง โรงหนังมันแคบกลัวว่าหัวฉันจะบัง"
คนตัวสูงที่นั่งหดตัวก้มหัวไปกระซิบตอบอีกฝ่ายเช่นกัน
พอโรงหนังแคบ เขาก็คิดว่าระยะห่างระหว่างเก้าอี้จะแคบตามไปด้วย
โรงหนังในเมืองเล็กๆ พื้นที่มันไม่ได้กว้างเท่าไหร่
กินเหมือนฉุกคิดได้ ถ้าหันไปถามคนข้างหลังจะง่ายกว่ารึเปล่า?
แต่หนังเริ่มฉายไปแล้ว เขาเกรงใจ
"ฉันนั่งได้ ไม่มีปัญหา.."
"นายนั่งได้ใช่ไหม?"
ไม่รู้ว่าเขากลัวเกินไปรึเปล่า แต่ระวังไว้หน่อยก็ดี
ก่อนจะหันไปมองเช็คอีกคนว่านั่งสบายดีรึเปล่า
ไม่รู้ว่าเขากลัวเกินไปรึเปล่า แต่ระวังไว้หน่อยก็ดี
ก่อนจะหันไปมองเช็คอีกคนว่านั่งสบายดีรึเปล่า
กินพยักหน้าและส่งเสียงเบาๆ ตอบรับ
คนดูที่ว่าน้อยอยู่แล้วนั่งกระจายไปรอบๆ ยิ่งทำให้ดูน้อยเข้าไปใหญ่
ไม่รู้ว่าหนังใกล้ออกโรงหรือว่าไม่สนุกกันแน่คนถึงได้คนน้อยขนาดนี้ คิดไปพลางระหว่างนั่งดูโฆษณา
ถ้าไม่สนุกเขาคงรู้สึกผิดแย่ ก็เป็นคนชวนมานี่..
ไม่นานหนังก็เริ่มฉายขึ้น จู่ๆ ก็มีคู่เพื่อนรีบมานั่งซ้อนแถวหลังลำดับเดียวกับพวกเขา ได้ยินเสียงพูดแววๆ ว่าทันพอดี
+
กินพยักหน้าและส่งเสียงเบาๆ ตอบรับ
คนดูที่ว่าน้อยอยู่แล้วนั่งกระจายไปรอบๆ ยิ่งทำให้ดูน้อยเข้าไปใหญ่
ไม่รู้ว่าหนังใกล้ออกโรงหรือว่าไม่สนุกกันแน่คนถึงได้คนน้อยขนาดนี้ คิดไปพลางระหว่างนั่งดูโฆษณา
ถ้าไม่สนุกเขาคงรู้สึกผิดแย่ ก็เป็นคนชวนมานี่..
ไม่นานหนังก็เริ่มฉายขึ้น จู่ๆ ก็มีคู่เพื่อนรีบมานั่งซ้อนแถวหลังลำดับเดียวกับพวกเขา ได้ยินเสียงพูดแววๆ ว่าทันพอดี
+