for #KMI_commu only
2-D doc | bit.ly/3ZZAxMN
pfp by masahiro
………
เดินกันได้ซักพัก พวกเขาก็มาถึงแมคหน้าสถานีรถไฟที่ห่างไม่ไกลจากตัวโรงหนัง
คนตัวเล็กชะเง้อหน้ามองจอเมนูพิเศษช่วงนี้ พลางครุ่นคิดไปด้วย
“หื้ม..”
“ระหว่างเบอเกอร์ปลาซันมะกับอันที่ใส่เห็ด กินจังว่าอันไหนน่าสนใจกว่ากันล่ะ?”
เมื่อตัดสินใจเองไม่ได้ก็หันไปถามคนที่มาด้วยกันซะเลย
………
เดินกันได้ซักพัก พวกเขาก็มาถึงแมคหน้าสถานีรถไฟที่ห่างไม่ไกลจากตัวโรงหนัง
คนตัวเล็กชะเง้อหน้ามองจอเมนูพิเศษช่วงนี้ พลางครุ่นคิดไปด้วย
“หื้ม..”
“ระหว่างเบอเกอร์ปลาซันมะกับอันที่ใส่เห็ด กินจังว่าอันไหนน่าสนใจกว่ากันล่ะ?”
เมื่อตัดสินใจเองไม่ได้ก็หันไปถามคนที่มาด้วยกันซะเลย
“ป่ะๆ^^”
ว่าแล้วก็ลุกเดินนำอีกคนไปก่อน
ระหว่างที่เดินนำไป ก็อดที่จะกำๆมือข้างที่จับกับอีกฝ่ายจนถึงเมื่อครู่ไม่ได้
..พอปล่อยแล้วกลับไม่ชินแฮะ
ได้แต่นึกในใจอยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับความรู้สึกที่ยังคงค้างอยู่ที่มือนั้น
+
“ป่ะๆ^^”
ว่าแล้วก็ลุกเดินนำอีกคนไปก่อน
ระหว่างที่เดินนำไป ก็อดที่จะกำๆมือข้างที่จับกับอีกฝ่ายจนถึงเมื่อครู่ไม่ได้
..พอปล่อยแล้วกลับไม่ชินแฮะ
ได้แต่นึกในใจอยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับความรู้สึกที่ยังคงค้างอยู่ที่มือนั้น
+
ใบหน้ายิ้มหรี่ตามองเหมือนจะจับผิดอีกคน แต่ไม่ทันไรก็ละสายตาไป
..นี่ชั้นดูเป็นคนน่าเปิดใจให้ฟังขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย? ความรู้ใหม่แฮะ?
นึกสงสัยในใจแต่ก็ปล่อยเลยตามเลย
ในขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นว่าคนอื่นๆก็เดินออกจากโรงกันไปเกือบหมดแล้ว
“โอ๊ะ? งั้นเราเองก็ลุกบ้างมั้ย?“
เจ้าตัวยกนาฬิกาข้อมือมาเช็คเวลา
“ไหนๆก็บ่ายสามแล้ว ไปนั่งแมคกันเถอะ^^”
ใบหน้ายิ้มหรี่ตามองเหมือนจะจับผิดอีกคน แต่ไม่ทันไรก็ละสายตาไป
..นี่ชั้นดูเป็นคนน่าเปิดใจให้ฟังขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย? ความรู้ใหม่แฮะ?
นึกสงสัยในใจแต่ก็ปล่อยเลยตามเลย
ในขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นว่าคนอื่นๆก็เดินออกจากโรงกันไปเกือบหมดแล้ว
“โอ๊ะ? งั้นเราเองก็ลุกบ้างมั้ย?“
เจ้าตัวยกนาฬิกาข้อมือมาเช็คเวลา
“ไหนๆก็บ่ายสามแล้ว ไปนั่งแมคกันเถอะ^^”
“นับว่าการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ล่ะมั้ง?”
หันมายิ้มโชว์เขี้ยวพร้อมกับสายตายียวนตามประสาเจ้าตัว
มือที่จับอยู่เองก็กระชับแน่นขึ้น
“ไม่นึกเลยนะเนี่ย~ ว่าหนังไซไฟเกรดบีแบบนี้จะทำเด็กหนุ่มม.ปลายเสียน้ำตาได้น่ะ~”
เมื่ออีกคนเลี่ยงคำตอบ เขาก็ขอกวนหน่อยละกัน
“นับว่าการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ล่ะมั้ง?”
หันมายิ้มโชว์เขี้ยวพร้อมกับสายตายียวนตามประสาเจ้าตัว
มือที่จับอยู่เองก็กระชับแน่นขึ้น
“ไม่นึกเลยนะเนี่ย~ ว่าหนังไซไฟเกรดบีแบบนี้จะทำเด็กหนุ่มม.ปลายเสียน้ำตาได้น่ะ~”
เมื่ออีกคนเลี่ยงคำตอบ เขาก็ขอกวนหน่อยละกัน
“ไม่เป็นไรๆ^^”
ฟุตาบะยิ้มโชว์เขี้ยว ดูพอใจกับท่าทีที่ดีขึ้นของอีกฝ่าย
..ทั้งที่ตกลงมาดูหนังด้วยเพราะกะจะเก็บรีแอคชั่นตลกๆของกินจังแท้ๆ
แต่ดันได้อะไรที่เหนือการคาดคิดไปเลยแฮะ..
ความรู้สึกของการที่ได้เป็นฝ่ายรับรู้ด้านที่อ่อนไหวของคนคนนึง เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด
แต่เขาก็ไม่ได้เกลียดมัน
…
ไม่ทันไร หนังก็จบลง พวกเขาทั้งคู่จับมือกันจนเครดิตตอนท้าย
“..เป็นไงบ้างกินจัง?“
“ไม่เป็นไรๆ^^”
ฟุตาบะยิ้มโชว์เขี้ยว ดูพอใจกับท่าทีที่ดีขึ้นของอีกฝ่าย
..ทั้งที่ตกลงมาดูหนังด้วยเพราะกะจะเก็บรีแอคชั่นตลกๆของกินจังแท้ๆ
แต่ดันได้อะไรที่เหนือการคาดคิดไปเลยแฮะ..
ความรู้สึกของการที่ได้เป็นฝ่ายรับรู้ด้านที่อ่อนไหวของคนคนนึง เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด
แต่เขาก็ไม่ได้เกลียดมัน
…
ไม่ทันไร หนังก็จบลง พวกเขาทั้งคู่จับมือกันจนเครดิตตอนท้าย
“..เป็นไงบ้างกินจัง?“
‘กลัว.. กลัวมาตลอด’
ไม่ว่ามันจะหมายถึงฉากในหนังไซไฟเกรด B ที่มาของรอยแผลบนมือ หรือประสบการณ์ที่อีกคนเจอมา
เขาก็ปล่อยให้อีกคนระบายความรู้สึกออกมา ณ ตรงนั้น
“..ตามสบายเลย”
กระซิบตอบอีกคน มือก็ยังคงกุมมือที่ใหญ่กว่าไว้แน่น
‘กลัว.. กลัวมาตลอด’
ไม่ว่ามันจะหมายถึงฉากในหนังไซไฟเกรด B ที่มาของรอยแผลบนมือ หรือประสบการณ์ที่อีกคนเจอมา
เขาก็ปล่อยให้อีกคนระบายความรู้สึกออกมา ณ ตรงนั้น
“..ตามสบายเลย”
กระซิบตอบอีกคน มือก็ยังคงกุมมือที่ใหญ่กว่าไว้แน่น
แต่สัมผัสที่อ่อนโยน ดูทะนุถนอม ละเอียดอ่อน ก็ไม่ต่างไปจากเดิมแต่อย่างใด
..ออกจะอุ่นขึ้นด้วยซ้ำ
คนตัวเล็กกว่าไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรต่อ สายตาก็กลับไปที่หน้าจอหนัง ถึงอย่างนั้นนิ้วมือเขาก็จับกระชับมือที่สั่นอยู่ของกินให้ที่กุมอยู่แน่นขึ้นกว่าเดิม
“..คิดมากเกินไปแล้วน่า”
“จะสะบัดออกทำไมล่ะ”
“กลัวอยู่ไม่ใช่รึไง”
แต่สัมผัสที่อ่อนโยน ดูทะนุถนอม ละเอียดอ่อน ก็ไม่ต่างไปจากเดิมแต่อย่างใด
..ออกจะอุ่นขึ้นด้วยซ้ำ
คนตัวเล็กกว่าไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรต่อ สายตาก็กลับไปที่หน้าจอหนัง ถึงอย่างนั้นนิ้วมือเขาก็จับกระชับมือที่สั่นอยู่ของกินให้ที่กุมอยู่แน่นขึ้นกว่าเดิม
“..คิดมากเกินไปแล้วน่า”
“จะสะบัดออกทำไมล่ะ”
“กลัวอยู่ไม่ใช่รึไง”
เป็นคำแรกๆที่ผุดขึ้นมาในหัวตอนที่ฟุตาบะรู้สึกถึงสัมผัสจากมืออีกคน
ชั่ววิแรกเขาไม่เข้าใจซักนิดว่าทำไมกินจังถึงกล่าวขอโทษเขา แต่พอปลายตาเหลือบไปเห็นสภาพของฝ่ามือขาวซีด ก็ทำให้ได้คำตอบในสิ่งที่เคยนึกสงสัย
ทั้งตอนงานวัฒนธรรมที่กินชักมือออก หรืออย่างตอนทัศนศึกษาที่กว่าอีกคนจะกล้าจับมือกับเขาก็ใช้เวลาไปมากโข
ฟุตาบะมองไปที่มือที่กุมมือเขาแบบหลวมๆโดยที่ก็ไม่พูดอะไร
+
เป็นคำแรกๆที่ผุดขึ้นมาในหัวตอนที่ฟุตาบะรู้สึกถึงสัมผัสจากมืออีกคน
ชั่ววิแรกเขาไม่เข้าใจซักนิดว่าทำไมกินจังถึงกล่าวขอโทษเขา แต่พอปลายตาเหลือบไปเห็นสภาพของฝ่ามือขาวซีด ก็ทำให้ได้คำตอบในสิ่งที่เคยนึกสงสัย
ทั้งตอนงานวัฒนธรรมที่กินชักมือออก หรืออย่างตอนทัศนศึกษาที่กว่าอีกคนจะกล้าจับมือกับเขาก็ใช้เวลาไปมากโข
ฟุตาบะมองไปที่มือที่กุมมือเขาแบบหลวมๆโดยที่ก็ไม่พูดอะไร
+
กระซิบตอบพร้อมกับยื่นมือไปวางไว้ตรงที่วางแขนระหว่างพวกเขาทั้งคู่
“เชิญตามสบายเลย~”
กระซิบตอบพร้อมกับยื่นมือไปวางไว้ตรงที่วางแขนระหว่างพวกเขาทั้งคู่
“เชิญตามสบายเลย~”
“..เฮ๊ะ?”
เขาหันมามองอีกคนพร้อมกับใช้เวลาประมวลผลคำพูดที่ได้ยินเมื่อกี๊
จับมือ? ทำไมกัน?
ก่อนที่จะเสียงตู้มต้ามจากหนังที่ฉายอยู่จะทำให้เขานึกขึ้นได้
โฮ่!💡 คงจะกลัวฉากจั้มพสแกร์สินะเนี่ย?
น่าเอ็นดูผิดคาดแฮะ คิกๆ♪
+
“..เฮ๊ะ?”
เขาหันมามองอีกคนพร้อมกับใช้เวลาประมวลผลคำพูดที่ได้ยินเมื่อกี๊
จับมือ? ทำไมกัน?
ก่อนที่จะเสียงตู้มต้ามจากหนังที่ฉายอยู่จะทำให้เขานึกขึ้นได้
โฮ่!💡 คงจะกลัวฉากจั้มพสแกร์สินะเนี่ย?
น่าเอ็นดูผิดคาดแฮะ คิกๆ♪
+
ยิ้มรับคำขอบคุณพลางตบไหล่อีกคนไปเบาๆ ก่อนที่จะหันกลับมามองจอตามเดิม
..ถึงอย่างนั้นดูไปได้แค่ครู่เดียว ก็รู้สึกได้ถึงสายตาอีกคนที่จ้องมาอีกครั้ง แถมคราวนี้ดูจะจ้องยาวซะด้วย
แปลกคนจริงเชียว?
“นี่กินจัง..”
“จอน่ะไม่ได้อยู่ทางนี้นา”
กระซิบหยอกอีกคนเบาๆโดยที่สายตาก็ยังคงมองจอฉายหนังอยู่
ยิ้มรับคำขอบคุณพลางตบไหล่อีกคนไปเบาๆ ก่อนที่จะหันกลับมามองจอตามเดิม
..ถึงอย่างนั้นดูไปได้แค่ครู่เดียว ก็รู้สึกได้ถึงสายตาอีกคนที่จ้องมาอีกครั้ง แถมคราวนี้ดูจะจ้องยาวซะด้วย
แปลกคนจริงเชียว?
“นี่กินจัง..”
“จอน่ะไม่ได้อยู่ทางนี้นา”
กระซิบหยอกอีกคนเบาๆโดยที่สายตาก็ยังคงมองจอฉายหนังอยู่
“ถ้าสมมุติพวกผมนั่งอย่างนี้แล้วมันบังจอรึเปล่าครับ?”
ว่าแล้วก็แตะไหล่กินเบาๆ เหมือนจะบอกว่าให้ลองนั่งเต็มส่วนสูงดู
“ถ้าสมมุติพวกผมนั่งอย่างนี้แล้วมันบังจอรึเปล่าครับ?”
ว่าแล้วก็แตะไหล่กินเบาๆ เหมือนจะบอกว่าให้ลองนั่งเต็มส่วนสูงดู
กระซิบตอบอีกคน แต่สายตาก็มองลอดไปที่แถวหลัง
..จากมุมนี้ก็น่าจะเห็นอยู่มั้ง?
เรื่องแบบนี้ถ้าลองถามคนข้างหลังก็น่าจะได้ความ แต่ดูจากนิสัยกินจังแล้วคงจะเกรงใจเกินเหตุตามเคย
ว่าแล้วฟุตาบะเลยเขยิบหันไปถามเสียงเบากับคนที่นั่งข้างหลัง ลองเสี่ยงดวงถามดูไปเลยก็ไม่เสียหาย
+
กระซิบตอบอีกคน แต่สายตาก็มองลอดไปที่แถวหลัง
..จากมุมนี้ก็น่าจะเห็นอยู่มั้ง?
เรื่องแบบนี้ถ้าลองถามคนข้างหลังก็น่าจะได้ความ แต่ดูจากนิสัยกินจังแล้วคงจะเกรงใจเกินเหตุตามเคย
ว่าแล้วฟุตาบะเลยเขยิบหันไปถามเสียงเบากับคนที่นั่งข้างหลัง ลองเสี่ยงดวงถามดูไปเลยก็ไม่เสียหาย
+
ไม่รู้เขาคิดไปเองหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนกำลัง..หดตัวให้เล็กลงอยู่?
เห็นตอนแรกก็ยังไม่พูดอะไร แต่ก็เขยิบตัวเขามาใกล้พร้อมกระซิบถาม
“นี่ เป็นอะไรรึเปล่า?”
“ปวดท้องหรือไง?”
ไหล่เกร็งเชียว
ไม่รู้เขาคิดไปเองหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนกำลัง..หดตัวให้เล็กลงอยู่?
เห็นตอนแรกก็ยังไม่พูดอะไร แต่ก็เขยิบตัวเขามาใกล้พร้อมกระซิบถาม
“นี่ เป็นอะไรรึเปล่า?”
“ปวดท้องหรือไง?”
ไหล่เกร็งเชียว
ตอบรับอีกคนก่อนจะเดินเข้าไปก่อนพร้อมแก้วน้ำในมือ พอถึงที่นั่งที่เลือกไว้ก็วางน้ำแล้วค่อยลงนั่ง
“..แหม แต่คนก็ดูน้อยจริงๆนะเนี่ย“
เจ้าตัวนั่งไปซักพักก็หันมาชวนคุยในช่วงโฆษณาที่แสนยาวนานด้วยน้ำเสียงเบากว่าปกติจากการที่อยู่ในโรงหนัง
“อย่างกับเหมาโรงมาเลย โชคดีจังเนอะ^^♪”
ตอบรับอีกคนก่อนจะเดินเข้าไปก่อนพร้อมแก้วน้ำในมือ พอถึงที่นั่งที่เลือกไว้ก็วางน้ำแล้วค่อยลงนั่ง
“..แหม แต่คนก็ดูน้อยจริงๆนะเนี่ย“
เจ้าตัวนั่งไปซักพักก็หันมาชวนคุยในช่วงโฆษณาที่แสนยาวนานด้วยน้ำเสียงเบากว่าปกติจากการที่อยู่ในโรงหนัง
“อย่างกับเหมาโรงมาเลย โชคดีจังเนอะ^^♪”