ยิ่งได้ยินในสิ่งที่มินาโตะพูดออกมาเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้รอยยิ้มของคุชินะดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
"ถ้าอย่างนั้นในช่วงที่นารุจังกับซาสึเกะคุงไม่อยู่ พวกเรามาช่วยกันกำจัดตัวแปรที่จะทำให้พวกเราเกิดการสูญเสียขึ้นมาดีกว่ามินาโตะ~" (677)
ยิ่งได้ยินในสิ่งที่มินาโตะพูดออกมาเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้รอยยิ้มของคุชินะดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
"ถ้าอย่างนั้นในช่วงที่นารุจังกับซาสึเกะคุงไม่อยู่ พวกเรามาช่วยกันกำจัดตัวแปรที่จะทำให้พวกเราเกิดการสูญเสียขึ้นมาดีกว่ามินาโตะ~" (677)
'สุคุนะ! เอาแต่ว่ากันอยู่ได้ ก็ถ้าแกให้ฉันได้เตรียมตัวสักนิดฉันก็คงไม่มานั่งงงอยู่แบบนี้หรอก!' ยูจิเถียงกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
[หึ คนโง่ก็ย่อมเป็นคนโง่อยู่วันยันค่ำ แต่ข้าจะช่วยบอกให้เอาบุญก็แล้วกันว่า เกะโท สุงุรุ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าในตอนนี้คือตัวจริง] (20)
'สุคุนะ! เอาแต่ว่ากันอยู่ได้ ก็ถ้าแกให้ฉันได้เตรียมตัวสักนิดฉันก็คงไม่มานั่งงงอยู่แบบนี้หรอก!' ยูจิเถียงกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
[หึ คนโง่ก็ย่อมเป็นคนโง่อยู่วันยันค่ำ แต่ข้าจะช่วยบอกให้เอาบุญก็แล้วกันว่า เกะโท สุงุรุ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าในตอนนี้คือตัวจริง] (20)
'ขอโทษนะที่โกหกพวกนาย แต่ฉันไม่อยากไปประเมินคลาสใหม่จริง ๆ ฉันอยากอยู่อย่างสงบสุขแบบนี้ไปจนตายเลย' (50)
'ขอโทษนะที่โกหกพวกนาย แต่ฉันไม่อยากไปประเมินคลาสใหม่จริง ๆ ฉันอยากอยู่อย่างสงบสุขแบบนี้ไปจนตายเลย' (50)
[มาสิ มาหากันให้เจอ ถ้าหากันไม่เจอ มันตาย!!!]
.
.
.
.
.
.
.
"แล้วภาพในกล้องวงจรปิดล่ะ ไม่มีเลยรึไง?" เป็นเสียงของเอโกะที่ดังขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด จากนั้นนายตำรวจตรงหน้าก็พูดตอบออกไปว่า (3)
[มาสิ มาหากันให้เจอ ถ้าหากันไม่เจอ มันตาย!!!]
.
.
.
.
.
.
.
"แล้วภาพในกล้องวงจรปิดล่ะ ไม่มีเลยรึไง?" เป็นเสียงของเอโกะที่ดังขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด จากนั้นนายตำรวจตรงหน้าก็พูดตอบออกไปว่า (3)
"มีอยู่แล้วแน่นอน พี่ไม่ลืมหรอกน่าว่าตัวเล็กชอบอะไร"
หลังจากนั้นอิซางิก็กดถ่ายรูปวิวนอกหน้าต่างรถยนต์ แล้วก็กดอัปลงใน SNS ส่วนตัวไป พร้อมกับเขียนแคปชั่นเอาไว้ว่า
[สบายจัง มีคนมาขับรถให้นั่งด้วย ><] (69)
"มีอยู่แล้วแน่นอน พี่ไม่ลืมหรอกน่าว่าตัวเล็กชอบอะไร"
หลังจากนั้นอิซางิก็กดถ่ายรูปวิวนอกหน้าต่างรถยนต์ แล้วก็กดอัปลงใน SNS ส่วนตัวไป พร้อมกับเขียนแคปชั่นเอาไว้ว่า
[สบายจัง มีคนมาขับรถให้นั่งด้วย ><] (69)
ไปเก็บของเลย มาอยู่ด้วยกันที่ห้องพักของฉันดีกว่า เพราะฉันจะได้เริ่มจีบแฟนตัวเองได้อย่างเต็มที่สักที"
นารุมิพูดแทรกคาฟก้าขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะจับมือคาฟก้าขึ้นมาจุมพิตลงไปเบา ๆ ให้คนแก่กว่ามีริ้วสีแดงจาง ๆ ขึ้นมาพาดผ่านอยู่บนใบหน้าเล่น ๆ (77)
ไปเก็บของเลย มาอยู่ด้วยกันที่ห้องพักของฉันดีกว่า เพราะฉันจะได้เริ่มจีบแฟนตัวเองได้อย่างเต็มที่สักที"
นารุมิพูดแทรกคาฟก้าขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะจับมือคาฟก้าขึ้นมาจุมพิตลงไปเบา ๆ ให้คนแก่กว่ามีริ้วสีแดงจาง ๆ ขึ้นมาพาดผ่านอยู่บนใบหน้าเล่น ๆ (77)
"ได้มาอยู่ด้วยกันแบบถูกที่ถูกเวลาแล้วนะคะทันจิโร่คุง" (2:545)
THE END.
"ได้มาอยู่ด้วยกันแบบถูกที่ถูกเวลาแล้วนะคะทันจิโร่คุง" (2:545)
THE END.
ก็จะโดนโทษห้ามพูดคำหยาบอีก 30 วันต่อ 1 คำหยาบที่พูดออกมา
น่าสนุกจริง ๆ เลย ฮ่าฮ่าฮ่า" (63)
ก็จะโดนโทษห้ามพูดคำหยาบอีก 30 วันต่อ 1 คำหยาบที่พูดออกมา
น่าสนุกจริง ๆ เลย ฮ่าฮ่าฮ่า" (63)
ถ้านารูโตะคิดที่จะทรยศ---
"หยุดนะเท็นโซ!!! นารูโตะไม่มีทางคิดแบบนั้นแน่นอน นายเองก็เคยนำทีมพานารูโตะไปทำภารกิจไม่ใช่หรือไง! แล้วทำไมนายถึงยังคิดแบบนี้ออกมาอีก!" (983)
ถ้านารูโตะคิดที่จะทรยศ---
"หยุดนะเท็นโซ!!! นารูโตะไม่มีทางคิดแบบนั้นแน่นอน นายเองก็เคยนำทีมพานารูโตะไปทำภารกิจไม่ใช่หรือไง! แล้วทำไมนายถึงยังคิดแบบนี้ออกมาอีก!" (983)
"ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ ทันจิโร่ก็น่าจะเริ่มนึกอะไรในชาตินี้ออกบ้างแล้วนะคะ เพราะดูเหมือนว่าความทรงจำที่ถูกลบไป มันถูกกระตุ้นจนเริ่มกลับมาแล้วค่ะ" (253)
"ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ ทันจิโร่ก็น่าจะเริ่มนึกอะไรในชาตินี้ออกบ้างแล้วนะคะ เพราะดูเหมือนว่าความทรงจำที่ถูกลบไป มันถูกกระตุ้นจนเริ่มกลับมาแล้วค่ะ" (253)
ความผูกพันระหว่างนารุมิกับคาฟก้านั้น มันได้เริ่มถักทอขึ้นมาเป็นรูปร่างตั้งแต่วันแรกที่คาฟก้าถูกย้ายเข้ามาอยู่ในหน่วยที่ 1 แล้ว (3)
ความผูกพันระหว่างนารุมิกับคาฟก้านั้น มันได้เริ่มถักทอขึ้นมาเป็นรูปร่างตั้งแต่วันแรกที่คาฟก้าถูกย้ายเข้ามาอยู่ในหน่วยที่ 1 แล้ว (3)
แต่โอเปร่าที่เป็นหัวข้อหลักในการนินทากลับยังมีสีหน้าที่เป็นปกติอยู่ อิรุมะจึงอดที่จะถามออกมาอย่างเสียไม่ได้ว่า
"โอเปร่าซังไม่รู้สึกเขินบ้างเหรอครับ?"
"ไม่นะครับท่านอิรุมะ ก็มันคือเรื่องจริงนี่นาที่ผมดูดี แล้วทำไมผมถึงจะต้องเขินด่วยล่ะครับ" (275)
แต่โอเปร่าที่เป็นหัวข้อหลักในการนินทากลับยังมีสีหน้าที่เป็นปกติอยู่ อิรุมะจึงอดที่จะถามออกมาอย่างเสียไม่ได้ว่า
"โอเปร่าซังไม่รู้สึกเขินบ้างเหรอครับ?"
"ไม่นะครับท่านอิรุมะ ก็มันคือเรื่องจริงนี่นาที่ผมดูดี แล้วทำไมผมถึงจะต้องเขินด่วยล่ะครับ" (275)