ผปค.แอคทีฟช่วงดึก-เช้ามืด (ติดธีสิส)
oc for #SSA_COMMU
Doc : https://docs.google.com/document/d/1FJT4cvbzPsqkAQ3uvzp1QsOKVIH44YvEYtu2ctXmgCc/edit
"ฮ่า ฮ่า... นั่นสินะ... ขอให้โลกนี้ใจดีกับเราบ้าง"
มือข้างขวาถูกยื่นออกไปจับมืออุ่นของน้องชายในความเงียบเชียบ ลมหายใจที่ติดขัดจากการกลั้นน้ำตา เอเวอรี่รู้สึกร้อนที่หัวตาจากน้ำตาที่เอ่อล้น แต่ไม่... เขาไม่ได้ร้องไห้หรอก แค่มีฝนหยดลงมาเท่านั้นเอง
ไร้ซึ่งเสียงพูด มีเพียงความเงียบที่เขามอบให้น้องชายช่วยปลอบเรา
"ฮ่า ฮ่า... นั่นสินะ... ขอให้โลกนี้ใจดีกับเราบ้าง"
มือข้างขวาถูกยื่นออกไปจับมืออุ่นของน้องชายในความเงียบเชียบ ลมหายใจที่ติดขัดจากการกลั้นน้ำตา เอเวอรี่รู้สึกร้อนที่หัวตาจากน้ำตาที่เอ่อล้น แต่ไม่... เขาไม่ได้ร้องไห้หรอก แค่มีฝนหยดลงมาเท่านั้นเอง
ไร้ซึ่งเสียงพูด มีเพียงความเงียบที่เขามอบให้น้องชายช่วยปลอบเรา
"อยากทุกวันเลย"
เขาพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น
"แต่ข้างนอกนั้นพี่ไม่มีอะไรเลย พี่ไม่รู้ว่าถ้าพี่ออกไปแล้ว..."
.
.
.
" พี่ยังจะเป็นอะไรได้อยู่มั้ย"
พูดไปแล้วก็เหมือนพี่ก้อนสะอื้นจุกอยู่ในลำคอ
"อยากทุกวันเลย"
เขาพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น
"แต่ข้างนอกนั้นพี่ไม่มีอะไรเลย พี่ไม่รู้ว่าถ้าพี่ออกไปแล้ว..."
.
.
.
" พี่ยังจะเป็นอะไรได้อยู่มั้ย"
พูดไปแล้วก็เหมือนพี่ก้อนสะอื้นจุกอยู่ในลำคอ
เหมือนให้อินโทรเวิร์ดสองคนมาอยู่ด้วยกัน บทสนทนามันเลยไม่ค่อยคืบหน้าสักเท่าไหร่นัก
เอเวอรี่คิดว่าอาจต้องให้เวลากับน้องชายสักพัก เจ้าตัวเลยย่อตัวลงนั่งข้างๆน้องชายห่างกันหนึ่งระยะแขน ให้วิคเตอร์มีพื้นที่ให้ตัวเอง แต่ก็ให้รู้ว่ายังมีเขาอยู่ข้างๆ
เหมือนให้อินโทรเวิร์ดสองคนมาอยู่ด้วยกัน บทสนทนามันเลยไม่ค่อยคืบหน้าสักเท่าไหร่นัก
เอเวอรี่คิดว่าอาจต้องให้เวลากับน้องชายสักพัก เจ้าตัวเลยย่อตัวลงนั่งข้างๆน้องชายห่างกันหนึ่งระยะแขน ให้วิคเตอร์มีพื้นที่ให้ตัวเอง แต่ก็ให้รู้ว่ายังมีเขาอยู่ข้างๆ
จะปลอบก็ไม่รู้จะปลอบยังไง?
จะช่วยก็ไม่รู้จะสามารถทำได้มั้ย?
กับเขาเองที่ก็ไม่สมประกอบเช่นกันน่ะ
เสื้อนอกนักเรียนสีแดงถูกถอดออกแล้วโยนคลุมหัวอีกฝ่ายลวกๆ
"เจ็บก็ร้อง เมื่อก่อนก็ทำอยู่ตลอดนิ"
แล้วพอร้องเสร็จแล้ว... ช่วยยิ้มให้พี่เห็นหน่อยได้มั้ย?
"ตรงนี้ไม่มีใครเห็นหรอก"
จะปลอบก็ไม่รู้จะปลอบยังไง?
จะช่วยก็ไม่รู้จะสามารถทำได้มั้ย?
กับเขาเองที่ก็ไม่สมประกอบเช่นกันน่ะ
เสื้อนอกนักเรียนสีแดงถูกถอดออกแล้วโยนคลุมหัวอีกฝ่ายลวกๆ
"เจ็บก็ร้อง เมื่อก่อนก็ทำอยู่ตลอดนิ"
แล้วพอร้องเสร็จแล้ว... ช่วยยิ้มให้พี่เห็นหน่อยได้มั้ย?
"ตรงนี้ไม่มีใครเห็นหรอก"
"บุหรี่น่ะ... มันเอาไว้สูบเพื่อลืมนะ"
เขายิ้มเบี้ยว ไม่ได้มีเจตนาเพื่อชี้นำแค่แถลงไข
"แต่ก็อย่าเพิ่งมันจนเกินไปเลย ถึงจะรู้ว่าพี่ไม่ควรพูดแบบนี้"
เขาอ้าปากอีกครั้งเพื่อจะบอก
'แต่พี่เป็นห่วงนายนะ...'
แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกไป
"ช่างเถอะ ทำอะไรก็ทำ"
"บุหรี่น่ะ... มันเอาไว้สูบเพื่อลืมนะ"
เขายิ้มเบี้ยว ไม่ได้มีเจตนาเพื่อชี้นำแค่แถลงไข
"แต่ก็อย่าเพิ่งมันจนเกินไปเลย ถึงจะรู้ว่าพี่ไม่ควรพูดแบบนี้"
เขาอ้าปากอีกครั้งเพื่อจะบอก
'แต่พี่เป็นห่วงนายนะ...'
แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกไป
"ช่างเถอะ ทำอะไรก็ทำ"
"ก็เรื่อยๆ ตามอัตภาพ"
เขาตอบให้เป็นกลางที่สุด
"พี่ไม่ค่อยชอบคุยหยอกเล่นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"
"แต่ถ้าต้องการความเงียบให้พักสมองก็มาหาได้"
เขาจ้องดวงตาของอีกฝ่ายนิ่งๆ หมายความตามที่พูดจริงๆ
"พี่ต้อนรับนายเสมอ"
"ก็เรื่อยๆ ตามอัตภาพ"
เขาตอบให้เป็นกลางที่สุด
"พี่ไม่ค่อยชอบคุยหยอกเล่นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"
"แต่ถ้าต้องการความเงียบให้พักสมองก็มาหาได้"
เขาจ้องดวงตาของอีกฝ่ายนิ่งๆ หมายความตามที่พูดจริงๆ
"พี่ต้อนรับนายเสมอ"
"ก็เจอกันตลอดนั่นแหละในปาร์ตี้ ฉันคงนอนอยู่สักมุม แค่นายไม่เห็นเฉยๆ"
เขาเค้นยิ้มจางๆที่ดูเหนื่อยอ่อน
"เรียนเป็นยังไงบ้าง ทำได้ใช่มั้ย?"
"ก็เจอกันตลอดนั่นแหละในปาร์ตี้ ฉันคงนอนอยู่สักมุม แค่นายไม่เห็นเฉยๆ"
เขาเค้นยิ้มจางๆที่ดูเหนื่อยอ่อน
"เรียนเป็นยังไงบ้าง ทำได้ใช่มั้ย?"
"ถ้าไม่ไหวก็พอ ไม่ต้องฝืน"
เขาบอกแค่นั้นก่อนจะหยิบลูกอมออกมาจากใต้เสื้อเทส่งให้วิคเตอร์ เป็นลูกอมกลิ่นมินต์รสหวานที่เขามักพกไว้ดับกลิ่นบุหรี่นี่แหละ
ควันบุหรี่ถูกเปลี่ยนมาอัดลงปอดของเขาแทนและถูกปล่อยออกมาให้ล่องลอยอยู่ในอากาศ
"ถ้าไม่ไหวก็พอ ไม่ต้องฝืน"
เขาบอกแค่นั้นก่อนจะหยิบลูกอมออกมาจากใต้เสื้อเทส่งให้วิคเตอร์ เป็นลูกอมกลิ่นมินต์รสหวานที่เขามักพกไว้ดับกลิ่นบุหรี่นี่แหละ
ควันบุหรี่ถูกเปลี่ยนมาอัดลงปอดของเขาแทนและถูกปล่อยออกมาให้ล่องลอยอยู่ในอากาศ
ซิปโปสีเงินเรียบถูกเปิดออกดังเป็นเสียงเอกลักษณ์ใส ปลายบุหรี่ค่อยๆถูกเผาไหม้จนเกิดประกายไฟสีแดง
"สูดเข้าเหมือนสูดอากาศทางปากนั่นแหละ แล้วกักไว้ในปอดสักแปปแล้วค่อยหายใจออก"
เขาบอกวิธีการที่คิดว่าเข้าใจง่ายที่สุด
"ค่อยๆล่ะ"
ซิปโปสีเงินเรียบถูกเปิดออกดังเป็นเสียงเอกลักษณ์ใส ปลายบุหรี่ค่อยๆถูกเผาไหม้จนเกิดประกายไฟสีแดง
"สูดเข้าเหมือนสูดอากาศทางปากนั่นแหละ แล้วกักไว้ในปอดสักแปปแล้วค่อยหายใจออก"
เขาบอกวิธีการที่คิดว่าเข้าใจง่ายที่สุด
"ค่อยๆล่ะ"
"มันไม่ดีหรอกนะ"
รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ควรพูดสิ่งนี้ที่สุด แต่เพราะใจลึกๆของเขาที่ยังคงรักน้อง จึงไม่อาจตัดใจไม่สั่งสอนไม่ได้
"..."
เขาอยากจะถามไถ่ว่าเครียดอะไร ไปเจออะไรมา แล้วตอนนี้โอเคมั้ย แต่อีวี่ก็ปากหนักไม่ถามออกไปแม้แต่คำเดียว และทำเพียงแค่ถอนหายใจออกมาก่อนจะคว้าบุหรี่ในมืออีกฝ่ายมาแกะส่งให้คาบ พร้อมหยิบไฟมาจุด
"มันไม่ดีหรอกนะ"
รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ควรพูดสิ่งนี้ที่สุด แต่เพราะใจลึกๆของเขาที่ยังคงรักน้อง จึงไม่อาจตัดใจไม่สั่งสอนไม่ได้
"..."
เขาอยากจะถามไถ่ว่าเครียดอะไร ไปเจออะไรมา แล้วตอนนี้โอเคมั้ย แต่อีวี่ก็ปากหนักไม่ถามออกไปแม้แต่คำเดียว และทำเพียงแค่ถอนหายใจออกมาก่อนจะคว้าบุหรี่ในมืออีกฝ่ายมาแกะส่งให้คาบ พร้อมหยิบไฟมาจุด
"..."
"ไง"
ไม่สามารถสรรหาคำมาพูดคุยเลยทำได้แค่ทักทายสั้นๆ
"ที่เรียกมามีอะไรรึเปล่า?"
เขาถามพลางสายตาก็เสมองบุหรี่ในมืออีกฝ่าย
"..."
"ไง"
ไม่สามารถสรรหาคำมาพูดคุยเลยทำได้แค่ทักทายสั้นๆ
"ที่เรียกมามีอะไรรึเปล่า?"
เขาถามพลางสายตาก็เสมองบุหรี่ในมืออีกฝ่าย
"ต่อยไม่เป็นก็จบแล้ว ให้ตายสิเจ้าน้องนั้น..."
เอเวอรี่ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาวางเงิน 50 ปอนด์ลงกลางโต๊ะ
"ไม่เอาน่าแมท เลือกสักข้างสิ แต่ฉันขอลงพนันข้างฮันส์"
"แต่จะมีคนลงข้างวิกมั้ยเนี่ย?"
"ต่อยไม่เป็นก็จบแล้ว ให้ตายสิเจ้าน้องนั้น..."
เอเวอรี่ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาวางเงิน 50 ปอนด์ลงกลางโต๊ะ
"ไม่เอาน่าแมท เลือกสักข้างสิ แต่ฉันขอลงพนันข้างฮันส์"
"แต่จะมีคนลงข้างวิกมั้ยเนี่ย?"
"ติดหวานชะมัด คราวหลังขอเป็นชาอังกฤษพอนะ"
ขาเรียวเดินก้าวไปหาอีกฝ่าย ยกมือจับแก้วชาของตัวเองในมือฮันเซล
"ขอบใจนะที่หยิบมาให้"
"ติดหวานชะมัด คราวหลังขอเป็นชาอังกฤษพอนะ"
ขาเรียวเดินก้าวไปหาอีกฝ่าย ยกมือจับแก้วชาของตัวเองในมือฮันเซล
"ขอบใจนะที่หยิบมาให้"
"ฉันรู้"
พูดแค่นั้นก่อนจะกระดกจนหมดแก้วพร้อมเช็ดริมฝีปากด้วยแขนเสื้อจนมันเปียกชื้นเล็กน้อย
"ขอบคุณที่เลี้ยง"
"ฉันรู้"
พูดแค่นั้นก่อนจะกระดกจนหมดแก้วพร้อมเช็ดริมฝีปากด้วยแขนเสื้อจนมันเปียกชื้นเล็กน้อย
"ขอบคุณที่เลี้ยง"