“โทมิยามะ มารับแล้วล่ะ”
วันนี้เป็นภาพที่แปลกตาสำหรับสมาชิกชิชิโทเร็น...
ทั้งที่เพิ่งจะจบการดวลระหว่างทั้งสองกลุ่มไปไม่นาน แต่ อุเมมิยะ ฮาจิเมะ ก็มารับหัวหน้าของพวกเขาถึงที่
แต่จากท่าทางก็ดูไม่ได้มาคุกคามอะไร ทุกคนจึงเลือกที่จะไม่ถามเรื่องส่วนตัวของทั้งสอง
อีกอย่างพอเห็นโทมิยามะดูตื่นเต้นเสียขนาดนั้น ใครจะกล้าเข้าไปขัดใจกันล่ะ?
+
ช่วงนี้คาเฟ่โปรดกำลังจัดเทศกาลเบอร์รี...
ทำให้ขนมหวานส่วนมาก ถูกตกแต่งไปด้วยเบอร์รี่หลากหลายชนิด ดึงดูดความสนใจมากกว่าที่เคย
โฆษณาเชิญชวนพวกนั้นดึงดูดคนชอบของหวานได้อย่างง่ายดาย
หนึ่งในนั้นก็ไม่พ้นชายหนุ่มจากชิชิโทเร็น ผู้ชอบขนมหวานเช่นกัน...
+
“ไม่ได้หรอก คาเมะจัง เคยบอกว่าเวลาเดทห้ามใจร้อนล่ะ! โดยเฉพาะเรื่องหอมแก้ม! จุ๊บๆ ปากก็ห้ามเร่ง!”
“ไหงงั้นล่ะ?! โทกาเมะไม่ใช่คุณผู้ปกครองของนายสักหน่อย!”
“ไม่รู้แล้ว ปิดหูไม่ฟังอุเมะจังแล้ว!”
“โทมิยามะ— โธ่ อดทนรอก็ได้…”
|
|
𓂃 ࣪˖ ཐིཋྀEND࿐ ࿔*:・゚
“ไม่ได้หรอก คาเมะจัง เคยบอกว่าเวลาเดทห้ามใจร้อนล่ะ! โดยเฉพาะเรื่องหอมแก้ม! จุ๊บๆ ปากก็ห้ามเร่ง!”
“ไหงงั้นล่ะ?! โทกาเมะไม่ใช่คุณผู้ปกครองของนายสักหน่อย!”
“ไม่รู้แล้ว ปิดหูไม่ฟังอุเมะจังแล้ว!”
“โทมิยามะ— โธ่ อดทนรอก็ได้…”
|
|
𓂃 ࣪˖ ཐིཋྀEND࿐ ࿔*:・゚
“ได้สิ ไว้ไปเดทกันนะ รอบนี้ไปที่ที่โทมิยามะชอบบ้างดีมั้ย?”
“ได้เลย! ฉันจะพาไปทัวร์ให้ครบทุกที่เลย~”
ต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กันพลางเกี่ยวก้อยสัญญา หัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น และรอคอยให้ถึงการเดทในครั้งถัดไป รวมไปถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ที่จะพัฒนากันไปอีกขั้นในอนาคตก็ด้วย
+
“ได้สิ ไว้ไปเดทกันนะ รอบนี้ไปที่ที่โทมิยามะชอบบ้างดีมั้ย?”
“ได้เลย! ฉันจะพาไปทัวร์ให้ครบทุกที่เลย~”
ต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กันพลางเกี่ยวก้อยสัญญา หัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น และรอคอยให้ถึงการเดทในครั้งถัดไป รวมไปถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ที่จะพัฒนากันไปอีกขั้นในอนาคตก็ด้วย
+
ต่อให้ปลายทางจะจบแบบอื่นก็ไม่เป็นไร เขาแค่อยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแบบนี้ให้ได้มากที่สุดก็เท่านั้น
“ถ้างั้น…”
เสียงพูดของอีกฝ่ายแผ่วเบา แต่หนักแน่นไปด้วยอารมณ์
“ไว้สุดสัปดาห์นี้ไปเดทกันอีกนะ อุเมะจัง”
+
ต่อให้ปลายทางจะจบแบบอื่นก็ไม่เป็นไร เขาแค่อยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแบบนี้ให้ได้มากที่สุดก็เท่านั้น
“ถ้างั้น…”
เสียงพูดของอีกฝ่ายแผ่วเบา แต่หนักแน่นไปด้วยอารมณ์
“ไว้สุดสัปดาห์นี้ไปเดทกันอีกนะ อุเมะจัง”
+
อยากจะเป็นร่มไม้ใหญ่ให้อีกฝ่ายได้พักพิงยามอ่อนล้า และรู้สึกปลอดภัย แม้ในยามสับสนใจตนเอง ก็จะลืมตาขึ้นมาพบกันเสมอ
ความในใจมีมากมายแต่ไม่ได้เอ่ยออกไปในคราวเดียว ตั้งใจที่จะอดทนรอคอยไปทีละนิด ใช้ทุกนาทีต่อจากนี้ให้คุ้มค่าที่สุด
+
อยากจะเป็นร่มไม้ใหญ่ให้อีกฝ่ายได้พักพิงยามอ่อนล้า และรู้สึกปลอดภัย แม้ในยามสับสนใจตนเอง ก็จะลืมตาขึ้นมาพบกันเสมอ
ความในใจมีมากมายแต่ไม่ได้เอ่ยออกไปในคราวเดียว ตั้งใจที่จะอดทนรอคอยไปทีละนิด ใช้ทุกนาทีต่อจากนี้ให้คุ้มค่าที่สุด
+
ต่อให้จะต้องต่อสู้กับความร้อนอกร้อนใจไปบ้าง ต่อให้จะมีระยะห่างต่างกลุ่ม หรือระยะเวลาที่อาจจะไม่ตรงกันก็ไม่เป็นไร
เขาอยากจะค่อยเป็นค่อยไปกับคนตรงหน้า อยากจะเห็นรอยยิ้มที่สดใสนี้ให้บ่อยที่สุด เท่าที่ตัวเขาจะมีโอกาสได้เห็นไม่แพ้คนอื่น
+
ต่อให้จะต้องต่อสู้กับความร้อนอกร้อนใจไปบ้าง ต่อให้จะมีระยะห่างต่างกลุ่ม หรือระยะเวลาที่อาจจะไม่ตรงกันก็ไม่เป็นไร
เขาอยากจะค่อยเป็นค่อยไปกับคนตรงหน้า อยากจะเห็นรอยยิ้มที่สดใสนี้ให้บ่อยที่สุด เท่าที่ตัวเขาจะมีโอกาสได้เห็นไม่แพ้คนอื่น
+
ต่อให้แสงตะวันจะลับขอบฟ้าไปแล้วก็ตามที แต่เขายังอยากอยู่กับโทมิยามะต่ออีกสักพัก
“ถ้าชอบที่ฉันอ่อนโยนแบบนี้…”
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้มากขึ้น ทาบหน้าผากให้สัมผัสกันช้าๆ สบตามองอย่างจริงจังแต่ก็อ่อนโยนเช่นเคย
+
ต่อให้แสงตะวันจะลับขอบฟ้าไปแล้วก็ตามที แต่เขายังอยากอยู่กับโทมิยามะต่ออีกสักพัก
“ถ้าชอบที่ฉันอ่อนโยนแบบนี้…”
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้มากขึ้น ทาบหน้าผากให้สัมผัสกันช้าๆ สบตามองอย่างจริงจังแต่ก็อ่อนโยนเช่นเคย
+
นึกว่าจะไม่ได้สัมผัสความอ่อนโยนนี้อีกแล้ว แต่ดูท่าทางเขาจะยังโชคดีพอ ที่จะได้รับความเอาใจใส่นี้ จากคนที่ดึงตัวตนของเขาออกมา จากความสับสนในก้นบึ้งของหัวใจที่มืดหม่นนั้น
“อุเมะจัง… อ่อนโยนจังเลย…”
การได้รับคำชมแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขาหรอก
+
นึกว่าจะไม่ได้สัมผัสความอ่อนโยนนี้อีกแล้ว แต่ดูท่าทางเขาจะยังโชคดีพอ ที่จะได้รับความเอาใจใส่นี้ จากคนที่ดึงตัวตนของเขาออกมา จากความสับสนในก้นบึ้งของหัวใจที่มืดหม่นนั้น
“อุเมะจัง… อ่อนโยนจังเลย…”
การได้รับคำชมแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขาหรอก
+
สองมือของร่างสูงเคลื่อนเข้ามาใกล้ และโอบประคองแก้มนุ่มอย่างช้าๆ ท่าทางที่ใกล้เคียงกับเรื่องราวในวันนั้น และความร้อนจากสองฝ่ามือหนา ที่แบ่งปันความอบอุ่นมาให้กัน
ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ถูกคนตรงหน้าสัมผัสแบบนี้ โทมิยามะก็รู้สึกดีเสียจนหัวใจอิ่มเอมไปด้วยความสบายใจ
+
สองมือของร่างสูงเคลื่อนเข้ามาใกล้ และโอบประคองแก้มนุ่มอย่างช้าๆ ท่าทางที่ใกล้เคียงกับเรื่องราวในวันนั้น และความร้อนจากสองฝ่ามือหนา ที่แบ่งปันความอบอุ่นมาให้กัน
ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ถูกคนตรงหน้าสัมผัสแบบนี้ โทมิยามะก็รู้สึกดีเสียจนหัวใจอิ่มเอมไปด้วยความสบายใจ
+
อุเมมิยะอาจจะเป็นพวกพุ่งไปข้างหน้า จนบางครั้งก็ไม่สนอะไรบ้างก็จริง
แต่สำหรับเรื่องความสัมพันธ์แล้ว เขาเป็นคนที่ละเอียดอ่อนมากกว่าที่เห็นจากภายนอกซะอีก
“โทษทีที่แหย่ไปแบบนั้นนะ ฉันอยากให้นายเข้าใจได้ตรงประเด็นขึ้นน่ะ ไม่อยากให้เข้าใจไปว่าแค่ใจดีด้วยตามปกตินิสัย”
อุเมมิยะยิ้มบาง ในตอนที่พูดออกมาแบบนั้น
+
อุเมมิยะอาจจะเป็นพวกพุ่งไปข้างหน้า จนบางครั้งก็ไม่สนอะไรบ้างก็จริง
แต่สำหรับเรื่องความสัมพันธ์แล้ว เขาเป็นคนที่ละเอียดอ่อนมากกว่าที่เห็นจากภายนอกซะอีก
“โทษทีที่แหย่ไปแบบนั้นนะ ฉันอยากให้นายเข้าใจได้ตรงประเด็นขึ้นน่ะ ไม่อยากให้เข้าใจไปว่าแค่ใจดีด้วยตามปกตินิสัย”
อุเมมิยะยิ้มบาง ในตอนที่พูดออกมาแบบนั้น
+
ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนสูงกว่า พร้อมประกายซุกซนในดวงตาสีสว่างคู่นั้น ราวกับกำลังถูกหยอกล้อเข้าให้
แต่กลับไม่รู้สึกโกรธด้วยซ้ำ กลายเป็นว่าหัวใจกำลังเต้นระรัวขึ้นมา นึกว่าจะถูกจูบจริงซะแล้ว
“ไว้ค่อยจูบกันคราวหน้าละกัน…”
+
ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนสูงกว่า พร้อมประกายซุกซนในดวงตาสีสว่างคู่นั้น ราวกับกำลังถูกหยอกล้อเข้าให้
แต่กลับไม่รู้สึกโกรธด้วยซ้ำ กลายเป็นว่าหัวใจกำลังเต้นระรัวขึ้นมา นึกว่าจะถูกจูบจริงซะแล้ว
“ไว้ค่อยจูบกันคราวหน้าละกัน…”
+
เพราะความจริงจังในดวงตาอุเมมิยะ มากพอจะทำให้คนถูกจีบรู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว จนแก้มนุ่มขึ้นสีระเรื่อ แบบเดียวกันกับมะเขือเทศที่กินเข้าไป
“อะ อุเมะจัง… ล้อกันเล่นใช่มั้ย?”
“ถ้าจะให้ฉันจริงจังกว่านี้ ก็คงต้องจูบนายแล้วล่ะ แต่ลองได้นะ ฉันไม่ว่า~”
“ไม่! ไม่ใช่แบบนั้นสิ— อย่าเพิ่งนะ!”
+
เพราะความจริงจังในดวงตาอุเมมิยะ มากพอจะทำให้คนถูกจีบรู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว จนแก้มนุ่มขึ้นสีระเรื่อ แบบเดียวกันกับมะเขือเทศที่กินเข้าไป
“อะ อุเมะจัง… ล้อกันเล่นใช่มั้ย?”
“ถ้าจะให้ฉันจริงจังกว่านี้ ก็คงต้องจูบนายแล้วล่ะ แต่ลองได้นะ ฉันไม่ว่า~”
“ไม่! ไม่ใช่แบบนั้นสิ— อย่าเพิ่งนะ!”
+
เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนคนตัวเล็กกว่าถอยกลับหนึ่งก้าว
พอสบตามองกันในระยะประชิด แต่ไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากทั้งสอง
ความเงียบสงบที่มีเพียงสายลมพัดผ่านร่างกาย ก็ทำให้โทมิยามะได้จมลึกลงไปในความคิดตัวเองมากขึ้นเช่นกัน...
+
เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนคนตัวเล็กกว่าถอยกลับหนึ่งก้าว
พอสบตามองกันในระยะประชิด แต่ไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากทั้งสอง
ความเงียบสงบที่มีเพียงสายลมพัดผ่านร่างกาย ก็ทำให้โทมิยามะได้จมลึกลงไปในความคิดตัวเองมากขึ้นเช่นกัน...
+