โซโยะที่ยกยิ้มให้กับเนื้อเพลงของโทโมริท่อน "The seasons change. Maybe I do too." โทโมริที่อาศัยไออุ่นจากฝ่ามือของโซโยะเป็นสิ่งย้ำเตือนว่าฤดูกาลเปลี่ยนไปแล้ว tmsy...ขอคนเข้าใจ...tmsy......🥹

12화 그거..... 우이사키 (1/3)

วาดเป็นของขวัญแต่งงานให้เพื่อนค่ะ🥺
@./rktr.bsky.social @./ansytkconsultant.bsky.social

โพสอิทที่บรรจุถ้อยคำมากมายเพื่อหวังว่าจะมีสักข้อความที่ความรู้สึกนั้นส่งไปถึง หวังว่าคำกล่าวที่บอกว่าอีกคนมีความหมายแค่ไหนจะย้ำให้เห็นอยู่เสมอเหมือนกับโพสอิทที่ย้ำถึงสิ่งสำคัญไม่ให้ถูกลืม...

ยืมรูปคุณ rktr 😣

ต่อเนื่องจากเรื่อง objet a

ลาก็องตีความคำว่า objet a เอาไว้หลากหลายมาก

เช่น มนุษย์มักใส่ ‘ความปรารถนาที่ไม่มีวันจับต้องได้’ ไว้ในวัตถุอื่น (objet a)

ในทางเทวะวิทยา อาจสื่อถึงความปรารถนาของมนุษย์ที่อุทิศตนแก่พระเจ้า แต่ความรักจากพระเจ้าที่ส่งกลับมานั้นเป็นนามธรรม คนจึงใช้วัตถุอื่นมาแทนที่ความใกล้ชิดกับพระเจ้าแทน (รูปปั้น ไม้กางเขนบนผนัง และอื่นๆ)

อ่านหนังสือแล้วเจอเขายกตัวอย่าง diagram ของมโนทัศน์ objet a ที่ว่าด้วยความปรารถนาเป็นสิ่งที่ ‘ไม่มีวันเติมเต็ม‘ หรือ ’เติมเต็มได้เพียงเสี้ยวขณะเท่านั้น‘

ความย้อนแย้งก็คือ หากต้องการให้ความปรารถนาดำรงอยู่ได้ (ไม่ว่าจะในสิ่งใด) เราจำเป็นต้องรู้สึกขาดพร่องไปด้วย

วงกลมในรูปนี้จึงไม่มีวันสมบูรณ์ตลอดไป หากถูกเติมเต็มเมื่อใด ความปรารถนาก็ต้องจบสิ้นลงในตัวมันเองเมื่อนั้น

เห็นน้องสิรัชพูดถึงอิดีปุสแล้วเห็นคนไต้หวันเขียนสิ่งนี้เกี่ยวกับ Imprisoned XII....

อีกพาร์ทที่อ่านแล้วติดอยู่ในใจดีก็คงเป็นตอนที่ซินแคลร์พยายามจะวาดรูปผู้หญิงคนหนึ่ง แต่รูปที่ได้กลับดูไม่เหมือนใครหรือสิ่งไหนเลย

จนกระทั่ง ‘ฝน‘ ที่ตกลงมาใส่กระดาษทำให้น้ำหมึกเริ่มไหล ภาพเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ทำให้รูปนั้นคล้าย ‘เดเมี่ยน’ ขึ้นมา..

หลังจากนั้นซินแคลร์ก็ตะหนักได้ว่า ตัวเองไม่ได้วาดรูปหญิงสาว เดเมี่ยนหรือใคร แต่รูปที่วาดคือ ’ทุกคน’ ที่หลอมรวมกันเป็นตัวเขาเอง

ก่อนเฮดแคนอนในหัวตุวเองจะกลายเป็นอย่างอื่น เขียนถึง crucifix X ไว้หน่อยดีกว่าค่ะ

เคยมองว่า Imprisoned XII มีสัญญะของตำนาน icarus ใน crucifix X เขาก็ยังคงความหมายเดิมไม่เปลี่ยน นั่นก็คือเป็นตัวแทนของ the fallen angel

ปีกของ icarus เกิดจากฝีมือของมนุษย์ที่บรรจงร้อยขนนกติดกับขี้ผึ้ง ก่อนจะละลายเพราะถูกแผดเผา

น่าสนใจที่ crucifix X เองก็มีภาพคล้ายๆ กัน

🤯🤯🤯

เพิ่งคิดได้ว่าในตอน 12 การสารภาพผิดของฮัทสึเนะ และการที่ซากิยกโทษให้ทั้งหมด มันเหมือน “การสารภาพบาป” ของศาสนาคริสต์

ก็เลยนึกต่อได้ว่ากุหลาบคือสัญลักษณ์ของ ”การเก็บเป็นความลับ“ ซึ่งปรากฏบนตู้สารภาพบาปในโบสถ์

กุหลาบที่กระจัดกระจายแล้วซากิเก็บขึ้นมา ซุ้มกุหลาบ และห้องที่มีกุหลาบประดับ จึงสื่อถึง “การสารภาพบาปต่อพระเจ้า”

🧵