จบแล้วค่า ใครมีคำถามเกี่ยวกับการใช้ชีตก็เมนชันหรือ dm มาได้ค่ะ แต่เราไม่สามารถตอบได้นะคะว่านิยายคุณควรตั้งราคาเท่าไรหรืออะไรควรนำมาคิดบ้าง นักเขียนน่าจะรู้ดีที่สุดว่าผลงานเราควรขายเท่าไร อันนี้แค่ตัวช่วยสำหรับคนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคับ 🫶🏻

📖 ต่อ
Word Count คือราคาต่อคำ ใครอยากคิดเป็นคำละ 0.004 ก็ปรับแก้ได้ ใครอยากให้เงินเดือนตัวเองมากกว่าเล่มละ 5 บาทก็แก้ที่ Time Taken (Month)
ส่วนAdditional Price ก็ปรับตามชอบได้เหมือนกันค่ะ ใส่ค่าติดลบหรือค่าบวกก็ได้ แต่แนะนำให้จากน้อยไปมากนะคะจะได้สมเหตุสมผล

📖 เพิ่มเติม การกำหนดการคำนวณตัวแปรต่าง ๆ ใน Master Data ช่องสีเขียวคือช่องที่แก้ได้นะคะ
67.20% คือส่วนแบ่งที่เราได้หลังเว็บหัก ใครขายที่อื่นนอกจาก Meb ก็มาปรับตรงนี้เอาได้ค่ะ หรือถ้าอยากเอาไปปรับใช้กับรูปเล่ม ปรับเป็น 100% = ได้เต็มไม่ถูกหักก็ได้ ใครทำกับ arn ก็ใส่ 65% เอา

📖 อยากคำนวณจากยอดโหลด ทำยังไง?
เผื่อใครมียอดโหลดในใจว่าขายได้เท่านี้โหลด หลังจากนั้นจะต้องได้กำไรแล้ว ก็มากรอกช่องสีม่วงได้ค่ะ ใส่ส่วนลดได้เหมือนเดิม อันนี้จะเอาไว้หา Full Price นะคะว่าควนตั้งไว้เท่าไรกับส่วนลดนี้เพื่อให้คืนทุนด้วยจำนวนโหลดเท่านี้

📖 อยากกำหนดราคาเอง ทำยังไง?
เผื่อใครมีเลขมงคล ราคาขายที่ถูกใจ สามารถกรอกในตารางเพื่อคำนวณเองได้ค่ะ ตามตัวอย่างเรากรอก Full Price เป็นราคาในดวงใจ คิดไปเองว่าลงท้ายเลข 9 แล้วมงคล กรอกส่วนลดราคาเปิดตัวแล้วก็จะได้ return กลับมาว่าจุดคุ้มทุนเท่ากับกี่โหลดในราคาเต็มกับส่วนลดที่ต้องการ

📖 BEP หรือจุดคุ้มทุนมี 2 แบบคือ กรณีราคาเต็มและกรณีราคาโปร จะเห็นได้ว่าตามตัวอย่างถ้าขายราคาเต็มต้องขาย 29 โหลดถึงจะคืนทุน แต่ถ้าทำราคาโปร ลดถึง 45% ก็จะต้องขายให้ได้ 52 โหลดค่ะ ตามตัวอย่างเราลองปรับส่วนลดลงเหลือ 30% ยอดที่จะต้องขายได้เพื่อให้คืนทุนเลยลดลงเหลือ 41 โหลด

📖 วิธีดูผลการคำนวณและจุดคุ้มทุน
ในตารางสีเขียว Selling Price คือราคาขายที่คำนวณมาจาก +Price ที่ติ๊กถูกทุกช่องรวมกันนะคะ ทีนี้เราก็จะได้ราคาขายที่เหมาะสม
แต่ใครอยากทำโปรเปิดตัวก็กรอกช่อง Discount ได้ค่ะ (อย่าลืมใส่ %) จะได้ราคาโปรเปิดตัวออกมา คำนวณจากราคาเต็มในตอนแรก

📖 สามารถเพิ่มอย่างอื่นได้เองนะคะ สองช่องแรกกรอกเป็น free text ส่วนช่อง +Price คือราคาที่อยากเพิ่มต่อเล่มค่ะ
สามารถเลือกได้ว่าจะเอามาคำนวณหรือไม่เอา สมมติว่าอยากเห็นกรณีไม่เอาระยะเวลามาคำนวณแล้วก็ uncheck บรรทัดนั้นได้ แต่ไม่แนะนำให้ uncheck จำนวนคำน้า

📖 หากอยากแก้ค่าที่ไว้คำนวณ เช่น ความยากระดับ nightmare +20 อยากแก้เป็น +50 บาทอะไรแบบนี้ หรืออยากคำนวณเป็นจำนวนคำx0.004แทน ตรงนี้แก้ได้เองใน Master Data นะคะ แต่เราขออธิบายทีหลัง อันนี้เป็นค่าที่เราตั้งต้นไว้ให้ค่ะ

📖 วิธีกรอกตัวแปรคำนวณราคาขาย (Section ขวา)
หลัก ๆ ที่เราเอามาคำนวณ
- จำนวนคำ x 0.003
- ความยากง่ายในการเขียน บวกลบนิดหน่อย ยากมากก็ขอบวกเล่มละ 20 ง่ายสุด ๆ เหมือนเสกก็ลดราคาลง -20
- ระยะเวลาที่ใช้นับเป็นเดือน เราให้เดือนละ 5฿ ต่อเล่ม

📖 วิธีกรอกต้นทุน
- List เป็น free text กรอกเป็นรายการไปว่ามันคือค่าอะไร
- Cost เป็นค่าใช้จ่ายของรายการนั้น ๆ
- Included ตั้งต้นไว้เป็น True แต่ถ้ามีรายจ่ายอันไหนที่ไม่อยากรวมคิดในต้นทุนก็ uncheck ออกได้ค่ะ ไว้เผื่อตัดสินใจว่าจะลงทุนกับตรงนี้หรือไม่เอาดี

📖 ในชีตมี 3 section
- ซ้าย คือ ผลการคำนวณราคาขายและจุดคุ้มทุน
- ตรงกลาง คือ ต้นทุน
- ขวา คือ การคำนวณราคาขายจากตัวแปร
แต่ข้อมูลทั้งหมดจะเริ่มต้นจากการกรอกต้นทุน(ตรงกลาง)ค่ะ แล้วจะไปต่อซ้ายหรือขวาก็แล้วแต่จะศรัทธา

📖 วิธีมีชีตเป็นของตัวเอง
เข้าไปแก้ไขที่ชีต template โดยตรงไม่ได้นะคะ ต้องทำสำเนาเป็นของตัวเองก่อน
คลิกที่ File มุมบนซ้าย > เลือก Make a copy > เปลี่ยนชื่อตามใจชอบ > เลือก Folder เป็น Drive ของตัวเองแล้วเลือก Make a copy เพื่อทำสำเนาค่ะ

⚠️ Disclaimer
เป็นวิธีคิดในแบบฉบับของเรา อาจ 'ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องที่สุด' อยากแชร์เพราะเห็นวันก่อนมีนักเขียนที่ struggle เรื่องนี้ค่ะ เหมาะสำหรับนักเขียนใหม่ที่ไม่รู้จะตั้งต้นอย่างไร ใครมีแนวทางเป็นของตัวเองแล้วชีตนี้อาจไม่มีประโยชน์เท่าไรค่ะ 🙏🏻

ขมไม่คายอ่านไปคืออินไม่ไหว www.readawrite.com/a/9faed1739d...

แง โอบกอดนะคับ คิดราคางานเท่าที่เราโอเคดีที่สุดเป็นการเซฟใจตัวเองด้วยส่วนหนึ่งค่ะ จะได้ภูมิใจในตัวเองได้เต็มที่ ขอให้คุณนักเขียนขายงานได้ปัง ๆ ได้ป้ายแดงเร็ว ๆ นะค้าบ 🥹

ย้ำนะส่วนตัวอีกที เราเคยได้ป้ายแดงสองเรื่อง คิดว่าป้ายแดงไม่ได้กระตุ้นยอดขายขนาดนั้น ถ้าอยากได้ไว้เป็นความภาคภูมิใจก็อีกเรื่อง แต่เราเป็นคน self esteem ต่ำ ไม่อยากมี self doubt ไปมากกว่านี้ว่าการได้ป้ายแดงนั้นมันได้มาเพราะคนชอบงานเรา หรือคนชอบของถูกกันแน่ ทุกวันนี้เลยลดราคาแรง ๆ แค่ตอนเปิดตัว ตามเทศกาลก็ 10-20% มีแฟลชเซลก็ 30% ไม่มากกว่านี้ 👍🏻👍🏻

ประเด็นสำคัญคือ มันจะเกิดการซื้อซ้ำและนับว่าเป็นการโปรโมตตัวเองก็ต่อเมื่อมีการอ่านและบอกต่อเท่านั้น นิยายราคาถูกเสียจนซื้อทิ้งขว้างได้ มันสร้างพฤติกรรมซื้อดะ คือซื้อไว้ก่อน ไม่อ่านก็ไม่เสียดายตังค์เท่าไร นิยายราคาหลักหน่วย หรือหลักสิบ ขายได้ แต่คนอ่านและรีวิวหรือบอกต่อน้อยมาก ส่วนตัวคิดว่าไม่มีประโยชน์ในระยะยาวเลย ถ้าอยากโปรโมตตัวเอง เปิดให้อ่านฟรีไปก่อนดีกว่า