รุ่งอรุณแรกในแอตแลนติสพร่าเลือนใต้แสงมรกต ส่องสะท้อนจากอาทิตย์เหนือมหาสมุทร ราวว่าอะพอลโล่ไม่เคยเห็นดินแดนนี้บนเส้นทางนี้ ดั๊กตื่นจากฝันนิรันดร์อันมีรูปปั้นหลากรูปร่างลอยวนรอบตัว มือและขายังสั่นไหวจากพลังที่ตนไม่เข้าใจ ประทีปนำทางตนออกไปสูดอากาศยามเช้า เส้นทางเปลี่ยนเมื่อเห็นแสงลอดจากประตูห้องสมุดที่แง้มอยู่ ยิ้มเมื่อเห็นพี่ชายแสนลึกลับกำลังเคร่งเครียด
รุ่งอรุณแรกในแอตแลนติสพร่าเลือนใต้แสงมรกต ส่องสะท้อนจากอาทิตย์เหนือมหาสมุทร ราวว่าอะพอลโล่ไม่เคยเห็นดินแดนนี้บนเส้นทางนี้ ดั๊กตื่นจากฝันนิรันดร์อันมีรูปปั้นหลากรูปร่างลอยวนรอบตัว มือและขายังสั่นไหวจากพลังที่ตนไม่เข้าใจ ประทีปนำทางตนออกไปสูดอากาศยามเช้า เส้นทางเปลี่ยนเมื่อเห็นแสงลอดจากประตูห้องสมุดที่แง้มอยู่ ยิ้มเมื่อเห็นพี่ชายแสนลึกลับกำลังเคร่งเครียด
การเดินทางแสนยาวนานเสียจนเหล่าลูกเรือเหนื่อยหน่ายท้องฟ้าสีครามน้ำทะเลสีเขียว หัวเรือมุ่งไปยังเวิ้งทะเลโปรตุเกสเพื่อพักเรือและซื้อเสบียงก่อนเดินทางไปยังช่องแคบระหว่างสเปนและโมร็อคโก ดั๊กลาสหยิบกล้องส่องทางไกลเมื่อเห็นแนวผาสีแดงและปราสาทงามสีสด ต่างจากพวกฝรั่งเศสที่ใช้สีทึบ "ข้าเห็นฝั่งแล้ว" เอ่ยรายงานกัปตันและชี้ยังแผนที่ใต้น้ำเพื่อเลี่ยงหินโสโครก
การเดินทางแสนยาวนานเสียจนเหล่าลูกเรือเหนื่อยหน่ายท้องฟ้าสีครามน้ำทะเลสีเขียว หัวเรือมุ่งไปยังเวิ้งทะเลโปรตุเกสเพื่อพักเรือและซื้อเสบียงก่อนเดินทางไปยังช่องแคบระหว่างสเปนและโมร็อคโก ดั๊กลาสหยิบกล้องส่องทางไกลเมื่อเห็นแนวผาสีแดงและปราสาทงามสีสด ต่างจากพวกฝรั่งเศสที่ใช้สีทึบ "ข้าเห็นฝั่งแล้ว" เอ่ยรายงานกัปตันและชี้ยังแผนที่ใต้น้ำเพื่อเลี่ยงหินโสโครก
"หูเจ้ายังไวเสียงเหมือนเดิมหรือ"
'อา... ข้าเผื่อไว้น่ะ พวกโจรสลัดตะโกนโหวกเหวกเสียด้วย'
"หูเจ้ายังไวเสียงเหมือนเดิมหรือ"
'อา... ข้าเผื่อไว้น่ะ พวกโจรสลัดตะโกนโหวกเหวกเสียด้วย'
"... ดูสิ มือเจ้าชื้นเหงื่อหมดแล้ว" ดั๊กยกมือที่ยังเหลือกรงเล็บขึ้นดูและใช้ชายผ้าสะอาดเช็ดให้ เปลี่ยนเป็นฝ่ายเดินนำมายังเรือนรับรองแขกแดนใต้ซึ่งมีเตาผิงซึ่งใช้ไฟร่วมกับหม้อต้มน้ำร้อนในหน้าหนาว "มาเถิด ให้ข้าชำระกายพวกเจ้า"
"... ดูสิ มือเจ้าชื้นเหงื่อหมดแล้ว" ดั๊กยกมือที่ยังเหลือกรงเล็บขึ้นดูและใช้ชายผ้าสะอาดเช็ดให้ เปลี่ยนเป็นฝ่ายเดินนำมายังเรือนรับรองแขกแดนใต้ซึ่งมีเตาผิงซึ่งใช้ไฟร่วมกับหม้อต้มน้ำร้อนในหน้าหนาว "มาเถิด ให้ข้าชำระกายพวกเจ้า"