Profile : https://ayane-profile.notion.site/PROFILE-28a543bb8aaa805c9e06e56274566fb7?source=copy_link
ฝีเท้าของเด็กสาวที่เริ่มล้าจึงค่อย ๆ ชะลอลงอย่างช้า ๆ พลางแขนที่ถูกกอบกุมออกแรงรั้งอีกฝ่ายเอาไว้
“ฉ..ฉันวิ่ง— ไม่ไหวแล้วค่ะ”
เสียงหอบหายใจไม่สม่ำเสมอระงมจนน่าเป็นห่วง สำหรับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายเนี่ย—รู้สึกเหมือนเกือบตายเลยล่ะ
ฝีเท้าของเด็กสาวที่เริ่มล้าจึงค่อย ๆ ชะลอลงอย่างช้า ๆ พลางแขนที่ถูกกอบกุมออกแรงรั้งอีกฝ่ายเอาไว้
“ฉ..ฉันวิ่ง— ไม่ไหวแล้วค่ะ”
เสียงหอบหายใจไม่สม่ำเสมอระงมจนน่าเป็นห่วง สำหรับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายเนี่ย—รู้สึกเหมือนเกือบตายเลยล่ะ
แม้จะเป็นจังหวะความเร็วที่ไม่ปกติสำหรับเด็กสาว แถมในชุดประโปรงแล้วด้วย— คงไม่สามารถข้ามขีดจำกัดไปมากกว่านี้ได้
แต่เพราะเริ่มออกจากซอกซอยเปล่าเปลี่ยวมาสู่ถนนคนเดินที่มีฝูงชนจำนวนหนึ่ง ทำให้ภัยคุกคามด้านหลังนั้นส่งเสียงไม่พอใจออกมาก่อนจะล่าถอยไปในเงามืด
.
.
+
แม้จะเป็นจังหวะความเร็วที่ไม่ปกติสำหรับเด็กสาว แถมในชุดประโปรงแล้วด้วย— คงไม่สามารถข้ามขีดจำกัดไปมากกว่านี้ได้
แต่เพราะเริ่มออกจากซอกซอยเปล่าเปลี่ยวมาสู่ถนนคนเดินที่มีฝูงชนจำนวนหนึ่ง ทำให้ภัยคุกคามด้านหลังนั้นส่งเสียงไม่พอใจออกมาก่อนจะล่าถอยไปในเงามืด
.
.
+
ใบหน้านั้นหันสบมองเจ้าของเรื่องราวด้วยความสนใจ
“น่ารักดีนะคะ”
ไม่รู้ว่าประโยคเอ่ยชมจากปากนั่นหมายถึงใคร —หรืออะไรกันแน่
“ถ้างั้นไปหมุนกาชาปองโมเดลคุณสัตว์กันเถอะค่ะ”
“อินุอิคุงมีโมเดลเยอะแค่ไหนงั้นเหรอคะ ? แล้วมีตัวอะไรบ้างคะ ?”
เพราะเหตุผลบางอย่าง จู่ ๆ ก็ตั้งคำถามรัว ๆ
ใบหน้านั้นหันสบมองเจ้าของเรื่องราวด้วยความสนใจ
“น่ารักดีนะคะ”
ไม่รู้ว่าประโยคเอ่ยชมจากปากนั่นหมายถึงใคร —หรืออะไรกันแน่
“ถ้างั้นไปหมุนกาชาปองโมเดลคุณสัตว์กันเถอะค่ะ”
“อินุอิคุงมีโมเดลเยอะแค่ไหนงั้นเหรอคะ ? แล้วมีตัวอะไรบ้างคะ ?”
เพราะเหตุผลบางอย่าง จู่ ๆ ก็ตั้งคำถามรัว ๆ
”…“
ไม่แม้แต่จะหันกลับไป
ไม่เอ่ยเสวนาต่อความยาวสาวความยืด
ฝ่ามืออีกข้างยกขึ้นมากำแขนเสื้อของคนข้าง ๆ เบา ๆ
“…ไปเถอะค่ะ”
ก่อนสองเท้าจะก้าวเดินต่อโดยไม่สนใจเรียงระงมโวยวายจากด้านหลัง
ดูเหมือนจะไม่ได้มีเพียงแค่เสียงที่ดังตามมา
ทั้งฝีเท้า—ทั้งมือที่เงื้อมเอื้อมมายังลาดไหล่ ก็ใกล้มากขึ้นทุกที
”…“
ไม่แม้แต่จะหันกลับไป
ไม่เอ่ยเสวนาต่อความยาวสาวความยืด
ฝ่ามืออีกข้างยกขึ้นมากำแขนเสื้อของคนข้าง ๆ เบา ๆ
“…ไปเถอะค่ะ”
ก่อนสองเท้าจะก้าวเดินต่อโดยไม่สนใจเรียงระงมโวยวายจากด้านหลัง
ดูเหมือนจะไม่ได้มีเพียงแค่เสียงที่ดังตามมา
ทั้งฝีเท้า—ทั้งมือที่เงื้อมเอื้อมมายังลาดไหล่ ก็ใกล้มากขึ้นทุกที
คุ้นหน้าคุ้นตาจนเริ่มจะตกใจขึ้นมานิดหน่อยซะแล้วสิเนี่ย
“—เห้ย”
เสียงที่โพล่งขึ้นมานั้นแหบพร่า ทุ้มต่ำจนไม่ต้องหันไปมองก็รู้ได้ว่าเป็นหนึ่งในเสียงของเด็กเกเร
“พอดีคุณผู้หญิงคนนั้นมีธุระกับทางนี้”
”ช่วยคืนตัวมาได้ไหม ?”
เสียงเท้าที่ก้าวตามมาสองสามก้าวหลังกล่าวจบประโยคดังสนั่นเต็มสองหู
+
คุ้นหน้าคุ้นตาจนเริ่มจะตกใจขึ้นมานิดหน่อยซะแล้วสิเนี่ย
“—เห้ย”
เสียงที่โพล่งขึ้นมานั้นแหบพร่า ทุ้มต่ำจนไม่ต้องหันไปมองก็รู้ได้ว่าเป็นหนึ่งในเสียงของเด็กเกเร
“พอดีคุณผู้หญิงคนนั้นมีธุระกับทางนี้”
”ช่วยคืนตัวมาได้ไหม ?”
เสียงเท้าที่ก้าวตามมาสองสามก้าวหลังกล่าวจบประโยคดังสนั่นเต็มสองหู
+
"อินุอิคุงกลัวว่าฉันจะทิ้งไปแล้วเหรอคะ ?"
เธอกล่าวออกมาอย่างติดตลก พร้อมส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ ท้ายประโยค
"ฉันไม่ทิ้งหรอกค่ะ"
"เก็บเอาไว้อย่างดีเลย~"
"อินุอิคุงกลัวว่าฉันจะทิ้งไปแล้วเหรอคะ ?"
เธอกล่าวออกมาอย่างติดตลก พร้อมส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ ท้ายประโยค
"ฉันไม่ทิ้งหรอกค่ะ"
"เก็บเอาไว้อย่างดีเลย~"
เหมือนพอได้ยินคำว่ากาชาปองจากอีกฝ่ายขึ้นมาแล้วดวงตาก็เป็นประกายวิบวับเสียอย่างนั้น
“อื้ม ! เอาสิคะ”
แน่นอนว่าเธอเองก็จะหมุนด้วย
“ไปกันเถอะค่ะ”
เธอคว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้หลวม ๆ รอจนกว่าคนข้าง ๆ จะเริ่มก้าวเดิน เธอถึงจะก้ามตามไปอย่างใกล้ชิด
เหมือนพอได้ยินคำว่ากาชาปองจากอีกฝ่ายขึ้นมาแล้วดวงตาก็เป็นประกายวิบวับเสียอย่างนั้น
“อื้ม ! เอาสิคะ”
แน่นอนว่าเธอเองก็จะหมุนด้วย
“ไปกันเถอะค่ะ”
เธอคว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้หลวม ๆ รอจนกว่าคนข้าง ๆ จะเริ่มก้าวเดิน เธอถึงจะก้ามตามไปอย่างใกล้ชิด
“ทางนี้เองก็ขอบคุณเช่นกันนะคะที่คอยดูแลเด็ก ๆ เหล่านี้มาตลอด”
ก่อนจะโค้งศีรษะให้ และเงยหน้าขึ้นมาโบกมือลาเจ้าแมวเหมียวในอ้อมกอดอีกฝ่าย
“ไว้เจอกันนะฮารุ“
สุดท้ายแล้วรอยยิ้มละไมบนใบหน้าก็ถูกส่งต่อให้เด็กสาวข้าง ๆ ที่คอยช่วยเหลือเธออีกทีมาตลอด
( ไม่เป็นไรเลยคับ ลูบปุ ๆ )
“ทางนี้เองก็ขอบคุณเช่นกันนะคะที่คอยดูแลเด็ก ๆ เหล่านี้มาตลอด”
ก่อนจะโค้งศีรษะให้ และเงยหน้าขึ้นมาโบกมือลาเจ้าแมวเหมียวในอ้อมกอดอีกฝ่าย
“ไว้เจอกันนะฮารุ“
สุดท้ายแล้วรอยยิ้มละไมบนใบหน้าก็ถูกส่งต่อให้เด็กสาวข้าง ๆ ที่คอยช่วยเหลือเธออีกทีมาตลอด
( ไม่เป็นไรเลยคับ ลูบปุ ๆ )
"แปลว่ามีที่ในใจอยู่สินะคะ ?"
ไม่งั้นอีกฝ่ายคงไม่พูดแบบนี้ออกมา
"แปลว่ามีที่ในใจอยู่สินะคะ ?"
ไม่งั้นอีกฝ่ายคงไม่พูดแบบนี้ออกมา
พอได้ยินคำว่าไม่เป็นไรก็โล่งใจขึ้นมา
"โล่งอกไปที หลังจากนี้ต้องเดินระวังด้วยนะครับ"
ว่าจบก็ช่วยประคองคนในอ้อมแขนให้กลับมายืนทรงตัวดี ๆ เหมือนเดิม
พอได้ยินคำว่าไม่เป็นไรก็โล่งใจขึ้นมา
"โล่งอกไปที หลังจากนี้ต้องเดินระวังด้วยนะครับ"
ว่าจบก็ช่วยประคองคนในอ้อมแขนให้กลับมายืนทรงตัวดี ๆ เหมือนเดิม
กระเป๋าสะพายใบเล็กถูกหยิบขึ้นมาพาดบนไหล่ ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปรอแถวประตูทางออกด้วยท่าทีที่ไม่รีบร้อน
ไว้รออีกฝ่ายจ่ายเงินเสร็จสรรพ จนถึงตอนนั้นไว้ขอหยิกสักทีกับหน้าสุดทะเล้นนั่นก็ไม่เสียหาย
กระเป๋าสะพายใบเล็กถูกหยิบขึ้นมาพาดบนไหล่ ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปรอแถวประตูทางออกด้วยท่าทีที่ไม่รีบร้อน
ไว้รออีกฝ่ายจ่ายเงินเสร็จสรรพ จนถึงตอนนั้นไว้ขอหยิกสักทีกับหน้าสุดทะเล้นนั่นก็ไม่เสียหาย
"อินุอิคุงเนี่ย ดูชอบพูดอะไรที่เป็นไปได้ยากจังเลยนะคะ"
สิ้นประโยคเธอส่งเสียงหัวเราะคลอตามไปเบา ๆ
การที่อีกฝ่ายจะมาหวั่นไหวกับเธอเนี่ย
นึกภาพไม่ออกเท่าไหร่
"อินุอิคุงเนี่ย ดูชอบพูดอะไรที่เป็นไปได้ยากจังเลยนะคะ"
สิ้นประโยคเธอส่งเสียงหัวเราะคลอตามไปเบา ๆ
การที่อีกฝ่ายจะมาหวั่นไหวกับเธอเนี่ย
นึกภาพไม่ออกเท่าไหร่
ดวงตาจับจ้องคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยนชอบกล
"ก็คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะมั้งคะ ?"
"ฉันอาจจะติดใจอินุอิคุงก็ได้"
ไม่รู้เลยว่าเป็นการเย้าหยอกคืนกลับไป หรือกล่าสออกมาด้วยความจริงใจอย่างเต็มอก
คนที่รู้ตัวเองดีก็มีแค่ตัวหญิงสาวเท่านั้นแหละ
ดวงตาจับจ้องคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยนชอบกล
"ก็คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะมั้งคะ ?"
"ฉันอาจจะติดใจอินุอิคุงก็ได้"
ไม่รู้เลยว่าเป็นการเย้าหยอกคืนกลับไป หรือกล่าสออกมาด้วยความจริงใจอย่างเต็มอก
คนที่รู้ตัวเองดีก็มีแค่ตัวหญิงสาวเท่านั้นแหละ
"ไม่มีอะไรค่ะ"
เธอจะำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่เคยพูดถึงก็แล้วกัน
"เราจะไปไหนกันต่อไหมคะ ?"
เหมือนคราวที่แล้ว
"ไม่มีอะไรค่ะ"
เธอจะำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่เคยพูดถึงก็แล้วกัน
"เราจะไปไหนกันต่อไหมคะ ?"
เหมือนคราวที่แล้ว
กระทั่งเค้กคำสุดท้ายหมดลง เธอจึงค่อย ๆ สบตามองอีกฝ่ายเหมือนอย่างเคย
"ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้บอกจะเบี้ยวฉันอยู่เลยนี่คะ ?"
เสียงหัวเราะดังตามหลังขึ้นมา พลางหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดริมฝีปากสีสวยเบา ๆ
กระทั่งเค้กคำสุดท้ายหมดลง เธอจึงค่อย ๆ สบตามองอีกฝ่ายเหมือนอย่างเคย
"ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้บอกจะเบี้ยวฉันอยู่เลยนี่คะ ?"
เสียงหัวเราะดังตามหลังขึ้นมา พลางหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดริมฝีปากสีสวยเบา ๆ
เพียงแค่ระบายยิ้ม
—ก็เท่านั้น
“น่าเสียดายนะคะที่ฉันเองก็ชอบตามใจคนอื่นมากกว่าเหมือนกัน”
เพราะงั้นเราสองถึงได้เถียงกันไปมาอยู่บ่อย ๆ กระมัง
“ไว้เย็นนี้ฉันจะส่งให้นะคะ”
แก้วน้ำชาถูกยกดื่มไปพลาง ตามด้วยของหวานที่ถูกลิ้มรสไปแล้วครึ่งหนึ่ง
เพียงแค่ระบายยิ้ม
—ก็เท่านั้น
“น่าเสียดายนะคะที่ฉันเองก็ชอบตามใจคนอื่นมากกว่าเหมือนกัน”
เพราะงั้นเราสองถึงได้เถียงกันไปมาอยู่บ่อย ๆ กระมัง
“ไว้เย็นนี้ฉันจะส่งให้นะคะ”
แก้วน้ำชาถูกยกดื่มไปพลาง ตามด้วยของหวานที่ถูกลิ้มรสไปแล้วครึ่งหนึ่ง
กล่าวไปแบบนั้นพร้อมทั้งยกแขนขึ้นมากอดออกเอาไว้
ความเงียบเกาะกินไปชั่วอึดใจ ก่อนเสียงใสจะเอื้อนเอ่ยขึ้นอีกครา
"Perfect"
"เอาเพลงนี้ก็แล้วกันค่ะ"
หนึ่งในเพลงสากลที่สุดแสนจะยอดนิยมตลอดกาลล่ะนะ ถึงจะดูเหงาแต่กลับโรแมนติกเกินจะบรรยาย
กล่าวไปแบบนั้นพร้อมทั้งยกแขนขึ้นมากอดออกเอาไว้
ความเงียบเกาะกินไปชั่วอึดใจ ก่อนเสียงใสจะเอื้อนเอ่ยขึ้นอีกครา
"Perfect"
"เอาเพลงนี้ก็แล้วกันค่ะ"
หนึ่งในเพลงสากลที่สุดแสนจะยอดนิยมตลอดกาลล่ะนะ ถึงจะดูเหงาแต่กลับโรแมนติกเกินจะบรรยาย
เธอวางแก้วน้ำชาลงอย่างเบามือ เธอเริ่มตัดเนื้อเค้กอีกครา ทว่ายังไม่ได้ลิ้มรสมันเหมืนก่อนหน้า
"อินุอิคุงมีเพลงที่อยากเล่น หรืออยากฟังเป็นพิเศษไหมคะ ?"
"ถ้าเป็นสิ่งที่อยากเล่นหรืออยากฟังเองอยู่แล้ว มันจะทำได้ดีกว่านะคะ"
เธอเกริ่นขึ้นมา ราวกับว่าจะให้อีกฝ่ายเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง
เธอวางแก้วน้ำชาลงอย่างเบามือ เธอเริ่มตัดเนื้อเค้กอีกครา ทว่ายังไม่ได้ลิ้มรสมันเหมืนก่อนหน้า
"อินุอิคุงมีเพลงที่อยากเล่น หรืออยากฟังเป็นพิเศษไหมคะ ?"
"ถ้าเป็นสิ่งที่อยากเล่นหรืออยากฟังเองอยู่แล้ว มันจะทำได้ดีกว่านะคะ"
เธอเกริ่นขึ้นมา ราวกับว่าจะให้อีกฝ่ายเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง
เธอว่าพลางหยิบน้ำชาขึ้นมาดื่ม ดวงตาสีสวยมองเงาสะท้อนในแก้วเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมามองคนตรงหน้า
"ฉันอยากฟังอินุอิคุงเล่นกีตาร์ในวันที่พร้อมที่สุดเหมือนกัน"
เพราะอย่างนั้นต่อให้จะนานแค่ไหน ยืดยาวเท่าไหร่ เธอก็จะรอเสมอ
เธอว่าพลางหยิบน้ำชาขึ้นมาดื่ม ดวงตาสีสวยมองเงาสะท้อนในแก้วเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมามองคนตรงหน้า
"ฉันอยากฟังอินุอิคุงเล่นกีตาร์ในวันที่พร้อมที่สุดเหมือนกัน"
เพราะอย่างนั้นต่อให้จะนานแค่ไหน ยืดยาวเท่าไหร่ เธอก็จะรอเสมอ
เธอยื่นมือออกไปหาอีกฝ่าย เกี่ยวก้อยสัญญาเอาไว้เป็นพันธะ
“ฉันจะตั้งตารอนะคะ”
ดันเผลอหลุดพูดอะไรที่อาจเป็นการกดดันอีกฝ่ายออกไปจนได้
กระนั้นเธอก็ไม่ทันได้นึกถึงจุดนั้น กระทั่งเป็นฝ่ายค่อย ๆ ละมือออกช้า ๆ
เธอยื่นมือออกไปหาอีกฝ่าย เกี่ยวก้อยสัญญาเอาไว้เป็นพันธะ
“ฉันจะตั้งตารอนะคะ”
ดันเผลอหลุดพูดอะไรที่อาจเป็นการกดดันอีกฝ่ายออกไปจนได้
กระนั้นเธอก็ไม่ทันได้นึกถึงจุดนั้น กระทั่งเป็นฝ่ายค่อย ๆ ละมือออกช้า ๆ
เธอกล่าวพร้อม ๆ กับจิ้มเค้กส่วนหนึ่งเข้าปากไป โดยที่ยังจ้องอีกฝ่ายตาใส
"แค่เราได้ร้องได้เล่นด้วยกันก็พอแล้วนี่คะ"
เธอไม่คิดเรื่องอะไรพวกนี่ให้ยุงยากหรอก
"เพราะงั้นถ้าอยากฟังล่ะก็ อินุอิคุงต้งเป็นคนเล่นใก้ฉันร้องนะคะ"
เธอเผลอผูกพันธะไว้กับอีกฝ่ายอีกแล้ว
แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนตรงหน้าเลือกที่จะทำไหมล่ะนะ
เธอกล่าวพร้อม ๆ กับจิ้มเค้กส่วนหนึ่งเข้าปากไป โดยที่ยังจ้องอีกฝ่ายตาใส
"แค่เราได้ร้องได้เล่นด้วยกันก็พอแล้วนี่คะ"
เธอไม่คิดเรื่องอะไรพวกนี่ให้ยุงยากหรอก
"เพราะงั้นถ้าอยากฟังล่ะก็ อินุอิคุงต้งเป็นคนเล่นใก้ฉันร้องนะคะ"
เธอเผลอผูกพันธะไว้กับอีกฝ่ายอีกแล้ว
แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนตรงหน้าเลือกที่จะทำไหมล่ะนะ
พร้อมทั้งระบายยิ้มละไมที่ไม่เคยเลือนหายจากใบหน้าให้อีกฝ่าย
ไม่รู้ว่าทำไม แต่ทุก ๆ ครั้งที่ช่วงเวลาเหล่านี้ดำเนินไป
เธอก็แทบไม่ใช่ตุ๊กตาไร้อารมณ์เหมือนอย่างเคย
"ถ้างั้นมาแลกกันไหมคะ"
"คุณเล่นกีตาร์ ส่วนฉันจะร้องให้ฟัง"
พร้อมทั้งระบายยิ้มละไมที่ไม่เคยเลือนหายจากใบหน้าให้อีกฝ่าย
ไม่รู้ว่าทำไม แต่ทุก ๆ ครั้งที่ช่วงเวลาเหล่านี้ดำเนินไป
เธอก็แทบไม่ใช่ตุ๊กตาไร้อารมณ์เหมือนอย่างเคย
"ถ้างั้นมาแลกกันไหมคะ"
"คุณเล่นกีตาร์ ส่วนฉันจะร้องให้ฟัง"
ยุ้กกี้จังเนี่ย ได้ยินมาสองครั้งแล้วสิ
แอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเธอจะได้รู้จักอีกฝ่ายเมื่อไหร่
แต่ความสนใจของเธอนั้นอยู่ที่เรื่องของคนตรงหน้ามากว่าในเวลาเช่นนี้
+
ยุ้กกี้จังเนี่ย ได้ยินมาสองครั้งแล้วสิ
แอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเธอจะได้รู้จักอีกฝ่ายเมื่อไหร่
แต่ความสนใจของเธอนั้นอยู่ที่เรื่องของคนตรงหน้ามากว่าในเวลาเช่นนี้
+
เธอครุ่นคิดอยู่สักพัก พลางมองของหวานบนโต๊ะไปด้วย สุดท้ายจึงเคลื่อนสายตากลับมาสบมองคนตรงหน้าดังเดิม
“ฉันชอบเล่นเปียโน”
“แล้วก็… ชอบร้องเพลงด้วยค่ะ”
เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยใครรู้มากมายขยาดนั้น เพราะมาดเธอมันไม่ให้นี่นะ
เธอครุ่นคิดอยู่สักพัก พลางมองของหวานบนโต๊ะไปด้วย สุดท้ายจึงเคลื่อนสายตากลับมาสบมองคนตรงหน้าดังเดิม
“ฉันชอบเล่นเปียโน”
“แล้วก็… ชอบร้องเพลงด้วยค่ะ”
เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยใครรู้มากมายขยาดนั้น เพราะมาดเธอมันไม่ให้นี่นะ