安斎 和男 Anzai Kazuo | 3-A | ชมรมวรรณกรรม
doc : https://bit.ly/4e3WVb3
ทัก, โค, เวิ่น 24/7 หาเพื่อนให้คัตจัง
เมื่อเงยหน้ามาก็เห็นนิ้วเรียวสองนิ้วอยู่ตรงหน้า เขาใช้มือตัวเองปัดมันลงก่อนจะว่า
”ค่าสายตาผมปกติ.. หรือว่าสุโดซังเพี้ยนไปแล้วเหรอครับ“
ไม่ได้พูดเพื่อหวังหยอกเหย้า ก็อีกฝ่ายดูมีแนวโน้มที่จะเป็นข้อสรุปแบบหลังได้จริง ๆ
(😋💥)
เมื่อเงยหน้ามาก็เห็นนิ้วเรียวสองนิ้วอยู่ตรงหน้า เขาใช้มือตัวเองปัดมันลงก่อนจะว่า
”ค่าสายตาผมปกติ.. หรือว่าสุโดซังเพี้ยนไปแล้วเหรอครับ“
ไม่ได้พูดเพื่อหวังหยอกเหย้า ก็อีกฝ่ายดูมีแนวโน้มที่จะเป็นข้อสรุปแบบหลังได้จริง ๆ
(😋💥)
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตรงหน้า ทั้งที่เห็นว่าดูงุนงงมาตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเดินมาคว้าหมวกของเขาไปดื้อ ๆ แบบนี้
คาซึโอะขมวดคิ้วมุ่น ตั้งใจจะคว้าสิ่งที่เป็นของเขาคืน แต่ก็ชักมือกลับก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
”สุโดซัง ขอคืนด้วยครับ“
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตรงหน้า ทั้งที่เห็นว่าดูงุนงงมาตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเดินมาคว้าหมวกของเขาไปดื้อ ๆ แบบนี้
คาซึโอะขมวดคิ้วมุ่น ตั้งใจจะคว้าสิ่งที่เป็นของเขาคืน แต่ก็ชักมือกลับก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
”สุโดซัง ขอคืนด้วยครับ“
...
รับโทรศัพท์อีกฝ่ายมาพิมพ์เบอร์ติดต่อของตัวเองให้ ระหว่างที่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดเรื่อยเปื่อยระหว่างที่รอ
" หืม "
จะว่าคิดไปเองก็ไม่ถูก จริงๆก็ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นล่ะนะ ..
" ยังไงก็อย่ามาตีสนิทมากแล้วกัน "
...
เสร็จแล้วจึงยื่นโทรศัพท์คืนให้
" เดี๋ยวจะเดินกลับบ้านเป็นเพื่อนด้วยวิธีนี้ก็แล้วกัน "
...
รับโทรศัพท์อีกฝ่ายมาพิมพ์เบอร์ติดต่อของตัวเองให้ ระหว่างที่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดเรื่อยเปื่อยระหว่างที่รอ
" หืม "
จะว่าคิดไปเองก็ไม่ถูก จริงๆก็ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นล่ะนะ ..
" ยังไงก็อย่ามาตีสนิทมากแล้วกัน "
...
เสร็จแล้วจึงยื่นโทรศัพท์คืนให้
" เดี๋ยวจะเดินกลับบ้านเป็นเพื่อนด้วยวิธีนี้ก็แล้วกัน "
สีหน้าแบบนั้นนั่นมันอะไรกันน่ะ? รู้สึกเหมือนกับถูกกล่าวหาอยู่ในใจ
คาซึโอะผินหน้าหลบเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือทั้งสองถูเข้ากัน ขยุกขยิกอยู่ไม่สุกเมื่อถูกทัก
“คือว่าผมอยากดื่มอันนี้..” ว่าพลางชี้ไปที่กล่องนมรสผลไม้รวม
“แต่ว่าเงินไม่พอน่ะครับ คุณ?”
จะว่าไปแล้วเรายังไม่เคยรู้จักกันเลย
สีหน้าแบบนั้นนั่นมันอะไรกันน่ะ? รู้สึกเหมือนกับถูกกล่าวหาอยู่ในใจ
คาซึโอะผินหน้าหลบเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือทั้งสองถูเข้ากัน ขยุกขยิกอยู่ไม่สุกเมื่อถูกทัก
“คือว่าผมอยากดื่มอันนี้..” ว่าพลางชี้ไปที่กล่องนมรสผลไม้รวม
“แต่ว่าเงินไม่พอน่ะครับ คุณ?”
จะว่าไปแล้วเรายังไม่เคยรู้จักกันเลย
แล้วค้อมตัวลง พร้อมกับยื่นมือออกไปรอรับเงินจากอีกฝ่าย
แล้วค้อมตัวลง พร้อมกับยื่นมือออกไปรอรับเงินจากอีกฝ่าย
คาซึโอะก้มงุดมองฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลาสเตอร์ยา ก่อนจะแบมือที่มีเหรียญสิบและห้าเยนถ้วนให้คนตัวสูงดู
“จริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าเลือกไม่ได้หรอกครับ“
ประโยคหลังเขาพูดมันเบากว่าเดิมแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
“ตอนนี้ไม่ว่าจะกาแฟดำหรืออะไรก็ดีทั้งนั้น ถ้าซื้อได้..“
คาซึโอะก้มงุดมองฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลาสเตอร์ยา ก่อนจะแบมือที่มีเหรียญสิบและห้าเยนถ้วนให้คนตัวสูงดู
“จริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าเลือกไม่ได้หรอกครับ“
ประโยคหลังเขาพูดมันเบากว่าเดิมแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
“ตอนนี้ไม่ว่าจะกาแฟดำหรืออะไรก็ดีทั้งนั้น ถ้าซื้อได้..“
“คือว่าผม..”
ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดอย่างไร จึงแบมือที่มีเหรียญห้าและสิบเยนให้ดู พร้อมกับมืออีกข้างที่ชี้ไปที่ตู้
“คือว่าผม..”
ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดอย่างไร จึงแบมือที่มีเหรียญห้าและสิบเยนให้ดู พร้อมกับมืออีกข้างที่ชี้ไปที่ตู้
ไม่ใช่ว่าเลือกไม่ได้ แต่ไม่มีโอกาสให้เลือกต่างหาก
เจ้าของนามสกุลอันไซกำเหรียญในมือแน่น ก่อนจะพูดเสียงแข็ง
“สุโดซัง ไม่ไปอยู่กับเพื่อนเหรอครับ“
ไม่ใช่ว่าเลือกไม่ได้ แต่ไม่มีโอกาสให้เลือกต่างหาก
เจ้าของนามสกุลอันไซกำเหรียญในมือแน่น ก่อนจะพูดเสียงแข็ง
“สุโดซัง ไม่ไปอยู่กับเพื่อนเหรอครับ“
อีกอย่าง.. ตอนนี้หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว
ยื่นมาออกไปรับก่อนจะกล่าวขอบคุณเบา ๆ
“แล้วกินอะไรหรือยังครับ” เอ่ยถามก่อนจะยกมือขึ้นบังแสงแดดที่นึกจะสาดตอนไหนก็สาดให้กับรุ่นน้องร่วมวง
อีกอย่าง.. ตอนนี้หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว
ยื่นมาออกไปรับก่อนจะกล่าวขอบคุณเบา ๆ
“แล้วกินอะไรหรือยังครับ” เอ่ยถามก่อนจะยกมือขึ้นบังแสงแดดที่นึกจะสาดตอนไหนก็สาดให้กับรุ่นน้องร่วมวง
เป็นช่วงเวลาเหมาะเจาะพอดีกับคาซึโอะที่กำลังหาสถานที่ปลีกวิเวกเพื่อชาร์จพลังก่อนจะไปพบกับขุมนรกที่เลือกเอง
เมื่อเดินเตรดเตร่ไปเรื่อยพลันสายตาเห็นร่าง ๆ หนึ่งกำลังนอนพร้อมกับเอาหมวกบังหน้าอยู่
มานากิซัง.. ?
คาซึโอะค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้แล้วย่อลงนั่งข้าง ๆ อีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยทักเสียงค่อย
“ไม่เข้าเรียนเหรอครับ”
เป็นช่วงเวลาเหมาะเจาะพอดีกับคาซึโอะที่กำลังหาสถานที่ปลีกวิเวกเพื่อชาร์จพลังก่อนจะไปพบกับขุมนรกที่เลือกเอง
เมื่อเดินเตรดเตร่ไปเรื่อยพลันสายตาเห็นร่าง ๆ หนึ่งกำลังนอนพร้อมกับเอาหมวกบังหน้าอยู่
มานากิซัง.. ?
คาซึโอะค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้แล้วย่อลงนั่งข้าง ๆ อีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยทักเสียงค่อย
“ไม่เข้าเรียนเหรอครับ”
คาซึโอะที่กำลังยืนก้มหน้าก้มตาจิ้มโทรศัพท์เพื่อเปลี่ยนเพลงเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับคนคุ้นหน้า สังเกตว่าอีกฝ่ายยืนนิ่งไปจึงยกมือขึ้นโบกแล้วถาม
“เรนโจวซัง.. ? โอเคหรือเปล่าครับ”
คาซึโอะที่กำลังยืนก้มหน้าก้มตาจิ้มโทรศัพท์เพื่อเปลี่ยนเพลงเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับคนคุ้นหน้า สังเกตว่าอีกฝ่ายยืนนิ่งไปจึงยกมือขึ้นโบกแล้วถาม
“เรนโจวซัง.. ? โอเคหรือเปล่าครับ”
หากเป็นคนอื่นคาซึโอะคงจะเมินเฉยและเดินผ่านไปได้อย่างไม่รู้สึกผิด
แต่นี่ดันเป็นรุ่นน้องร่วมวง แถมยังเอ็นดูเธอเสียด้วยสิ
ร่างสูงโปร่งเมื่อเห็นเจ้าของผมสีม่วงล้มหน้าคะมำอยู่ก็เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวเด็กสาวให้ลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงค่อย
”ระวังหน่อยสิครับ.. เจ็บตัวตั้งแต่วันแรกไม่ดีนะ“
ไม่ว่าเปล่ายังชี้นิ้วไปที่ลาดไหล่เล็ก
”ตรงนั้น.. เลอะน่ะ“
หากเป็นคนอื่นคาซึโอะคงจะเมินเฉยและเดินผ่านไปได้อย่างไม่รู้สึกผิด
แต่นี่ดันเป็นรุ่นน้องร่วมวง แถมยังเอ็นดูเธอเสียด้วยสิ
ร่างสูงโปร่งเมื่อเห็นเจ้าของผมสีม่วงล้มหน้าคะมำอยู่ก็เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวเด็กสาวให้ลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงค่อย
”ระวังหน่อยสิครับ.. เจ็บตัวตั้งแต่วันแรกไม่ดีนะ“
ไม่ว่าเปล่ายังชี้นิ้วไปที่ลาดไหล่เล็ก
”ตรงนั้น.. เลอะน่ะ“