NPC | เจ้าของร้านยืม/ซื้อหนังสือ “โทวะ” | ย่านอิเอะ เมืองคูเมอิ
pfp&header (c) D_NeaR
doc : http://bit.ly/4fi1kIO
#KMI_commu
“พอได้มาอ่านตอนนี้ ความรู้สึกที่ได้หลังจากปิดหนังสือต่างจากตอนเด็กไปเยอะเลยล่ะครับ”
คงเพราะตอนเด็กๆ ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันลึกซึ้งมากล่ะมั้ง
“พอได้มาอ่านตอนนี้ ความรู้สึกที่ได้หลังจากปิดหนังสือต่างจากตอนเด็กไปเยอะเลยล่ะครับ”
คงเพราะตอนเด็กๆ ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันลึกซึ้งมากล่ะมั้ง
เขายิ้ม ถึงแม้ซลอนทีจะเป็นร้านที่ดีมากแล้วในสายตาเขา แต่การรีโนเวทก็ถือเป็นไอเดียที่ดี
”จะรีโนเวททั้งร้านเลยเหรอครับ หรือว่ามีส่วนไหนที่อยากเปลี่ยนก่อน“
นางิกระพริบตาปริบกับหนังสือที่คุณหยิบออกมา
”เจ้าชายแสนสุขสินะครับ~“
”ผมชอบเล่มนั้นนะ เป็นเรื่องที่ไม่ยาวมาก แต่ทิ้งอะไรให้คิดเยอะเลย“
+
เขายิ้ม ถึงแม้ซลอนทีจะเป็นร้านที่ดีมากแล้วในสายตาเขา แต่การรีโนเวทก็ถือเป็นไอเดียที่ดี
”จะรีโนเวททั้งร้านเลยเหรอครับ หรือว่ามีส่วนไหนที่อยากเปลี่ยนก่อน“
นางิกระพริบตาปริบกับหนังสือที่คุณหยิบออกมา
”เจ้าชายแสนสุขสินะครับ~“
”ผมชอบเล่มนั้นนะ เป็นเรื่องที่ไม่ยาวมาก แต่ทิ้งอะไรให้คิดเยอะเลย“
+
第3話 ー ท่ามกลางแมกไม้สีเหลืองทอง
สตอรี่ของอามามิยะ นางิ พาร์ทที่ 3
⚠️CW : Family issue, Domestic violence, Verbal abuse
⚠️ไม่เหมาะที่จะอ่านตอนสภาพจิตใจอ่อนแอ
*แนะนำให้อ่านด้วย Print Layout
**มีการใช้พื้นหลังสีดำ และตัวอักษรสี, สีแดงในการพิมพ์ กรุณาอ่านในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ
docs.google.com/document/d/1...
第2話 ー เบื้องหลังผู้ใหญ่ คือเด็กหนุ่มที่ยังคงโกรธเกรี้ยว
สตอรี่ของอามามิยะ นางิ พาร์ทที่ 2
⚠️CW : Family issue, Physical abuse
⚠️ไม่เหมาะที่จะอ่านตอนสภาพจิตใจอ่อนแอ
>> แนะนำให้อ่านด้วย Print Layout
docs.google.com/document/d/1...
ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของนางิดูพอใจกับคำตอบไม่น้อย
เขาสบตากับคู่สนทนาแวบหนึ่ง...คล้ายอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ขยับสายตาออกไปมองกลีบซากุระที่ค่อยๆปลิวลงมาแทน
เพราะรู้สึกว่า บางอย่างให้คุณเป็นคนได้เจอคำตอบกับตัวเองจะดีกว่า
“เดี๋ยวผมคงกลับไปที่ร้านแล้วล่ะ ต้องจัดการอะไรอีกหน่อย~”
“อาราตะจังจะอยู่แถวนี้อีกนิดไหมหนา~?“
ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของนางิดูพอใจกับคำตอบไม่น้อย
เขาสบตากับคู่สนทนาแวบหนึ่ง...คล้ายอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ขยับสายตาออกไปมองกลีบซากุระที่ค่อยๆปลิวลงมาแทน
เพราะรู้สึกว่า บางอย่างให้คุณเป็นคนได้เจอคำตอบกับตัวเองจะดีกว่า
“เดี๋ยวผมคงกลับไปที่ร้านแล้วล่ะ ต้องจัดการอะไรอีกหน่อย~”
“อาราตะจังจะอยู่แถวนี้อีกนิดไหมหนา~?“
"คิก...."
"งั้นให้ผมยืนเป็นเพื่อนเธอซักพักดีมั้ย"
"คิก...."
"งั้นให้ผมยืนเป็นเพื่อนเธอซักพักดีมั้ย"
“โดยรวมก็ดูมีอะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่บรรยากาศโดยรวมก็เหมือนเดิมนะ“
”…ซึ่งผมชอบที่ที่นี่เป็นแบบนั้น“
เขามองภาพรวมของโรงเรียนจากนอกรั้ว เงียบไปซักพัก ก่อนจะหันมาหาเด็กหนุ่มข้างตัว
“อาราตะจัง เรียนมา 1 ปี หาเพื่อนได้กี่คนแล้วหนา~?”
“โดยรวมก็ดูมีอะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่บรรยากาศโดยรวมก็เหมือนเดิมนะ“
”…ซึ่งผมชอบที่ที่นี่เป็นแบบนั้น“
เขามองภาพรวมของโรงเรียนจากนอกรั้ว เงียบไปซักพัก ก่อนจะหันมาหาเด็กหนุ่มข้างตัว
“อาราตะจัง เรียนมา 1 ปี หาเพื่อนได้กี่คนแล้วหนา~?”
…ก็ว่าไป
…ก็ว่าไป
จะมีอะไรดีไปกว่าเครื่องดื่มอุ่นๆที่มาสู้กับอากาศหนาวอีก
เขาพยักหน้าตอบรับให้กับคุณที่บอกว่าจะเดินดูก่อน แต่กลับเงียบลงไปเมื่อคุณพูดประโยคถัดมา นางิส่งเสียงในลำคอที่ฟังดูลังเล
“รีโนเวตร้านใหม่ น่าจะใกล้เคียงสุดครับ”
แล้วก็หัวเราะ
“คิดว่า~…ถึงเวลาของมันซักทีน่ะครับ“
”แล้วก็คิดไว้ว่าจะสับเปลี่ยนเอาหนังสือบางเล่มขึ้นมาวางบนชั้นแทนบ้าง +
จะมีอะไรดีไปกว่าเครื่องดื่มอุ่นๆที่มาสู้กับอากาศหนาวอีก
เขาพยักหน้าตอบรับให้กับคุณที่บอกว่าจะเดินดูก่อน แต่กลับเงียบลงไปเมื่อคุณพูดประโยคถัดมา นางิส่งเสียงในลำคอที่ฟังดูลังเล
“รีโนเวตร้านใหม่ น่าจะใกล้เคียงสุดครับ”
แล้วก็หัวเราะ
“คิดว่า~…ถึงเวลาของมันซักทีน่ะครับ“
”แล้วก็คิดไว้ว่าจะสับเปลี่ยนเอาหนังสือบางเล่มขึ้นมาวางบนชั้นแทนบ้าง +
หิมะที่ร่วงหล่นลงมาตัดกับท้องฟ้าสีชาดจนไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นช่วงเวลาใด เมืองอันคุ้นเคยกลับดูเปลี่ยวเหงาและเต็มไปด้วยกองหิมะอันสูงชันราวกับความหนาวเย็นไม่เคยเลือนหายไปแม้กาลเวลาไหลผ่าน
เสียงกระซิบที่ลอยมาพร้อมสายลมได้กระทบข้างหู
“ดวงตะวันมิเคยทอแสงในที่แห่งนี้”
ลงชื่อ : forms.gle/kCiihykujA9N...
หมดเขตวันนี้เวลา 23.59 น.
หิมะที่ร่วงหล่นลงมาตัดกับท้องฟ้าสีชาดจนไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นช่วงเวลาใด เมืองอันคุ้นเคยกลับดูเปลี่ยวเหงาและเต็มไปด้วยกองหิมะอันสูงชันราวกับความหนาวเย็นไม่เคยเลือนหายไปแม้กาลเวลาไหลผ่าน
เสียงกระซิบที่ลอยมาพร้อมสายลมได้กระทบข้างหู
“ดวงตะวันมิเคยทอแสงในที่แห่งนี้”
ลงชื่อ : forms.gle/kCiihykujA9N...
หมดเขตวันนี้เวลา 23.59 น.
“ บอกอะไร.. ก็ได้เลยหรอ "
ทวนคำนั้นซ้ำ ยื่นกลีบดอกไม้ที่จับได้ให้คุณไป
“ แล้วถ้าฉันบอกว่า “
เว้นไปซักพัก มองใบหน้าของคุณที่ดูจะชะงักค้างไป
“ ฉันจะไปจากที่นี้ล่ะ “
พูดจบแค่นั้น มองหน้านายต่อเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง
“ ว่าไปนั้น.. ไม่มีอะไรหรอก “
“ บอกอะไร.. ก็ได้เลยหรอ "
ทวนคำนั้นซ้ำ ยื่นกลีบดอกไม้ที่จับได้ให้คุณไป
“ แล้วถ้าฉันบอกว่า “
เว้นไปซักพัก มองใบหน้าของคุณที่ดูจะชะงักค้างไป
“ ฉันจะไปจากที่นี้ล่ะ “
พูดจบแค่นั้น มองหน้านายต่อเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง
“ ว่าไปนั้น.. ไม่มีอะไรหรอก “