คาร์ปากร้าย ไม่สบายใจแจ้งได้ครับ
DOC: https://citly.me/2YbnX
แอคสำหรับ : #KMI_commu
"นั่นมันจำเป็นนิครับ ผมห้ามไม่ได้หรอก"
"แล้วนั่น. ไม่ใช่เรื่องสมมุติใช่มั้ยครับ?"
เราถามออกมามองตรงไปที่อีกคนอยู่อย่างงั้น
"นั่นมันจำเป็นนิครับ ผมห้ามไม่ได้หรอก"
"แล้วนั่น. ไม่ใช่เรื่องสมมุติใช่มั้ยครับ?"
เราถามออกมามองตรงไปที่อีกคนอยู่อย่างงั้น
"..ก็ถ้าจำเป็น ผมก็ต้องโอเคสิ"
เรากล่าวออกมาละยิ้มบางออกมา ไม่รู้ว่านั่น สมมุติจริงๆ หรือ เป็นสิ่งที่อีกคนไม่กล้าบอกตรงๆ กันแน่
"แล้วถ้าสมมุติว่า ผมไม่โอเคมากๆ จะยังย้ายไปมั้ยครับ?"
"..ก็ถ้าจำเป็น ผมก็ต้องโอเคสิ"
เรากล่าวออกมาละยิ้มบางออกมา ไม่รู้ว่านั่น สมมุติจริงๆ หรือ เป็นสิ่งที่อีกคนไม่กล้าบอกตรงๆ กันแน่
"แล้วถ้าสมมุติว่า ผมไม่โอเคมากๆ จะยังย้ายไปมั้ยครับ?"
"ไม่รู้สิ ผมได้ของผมแล้ว"
เราเลือกที่จะไม่ช่วยคิดอะไร ยังไงแรกๆมันก็เขินอยู่แล้วเรียกไปเรียกมาก็ชินเองนี่น่า
"ไม่รู้สิ ผมได้ของผมแล้ว"
เราเลือกที่จะไม่ช่วยคิดอะไร ยังไงแรกๆมันก็เขินอยู่แล้วเรียกไปเรียกมาก็ชินเองนี่น่า
"ฮ่ะๆ"
"แต่ผมอยากเรียกแบบนั้นนะ"
เจ้าตัวกล่าวเสียงอ่อนนุ่ม มือนึงยื่นไปจับมืออีกคนไว้หลวมๆ นิ้วโป้งลูบวนที่หลังมืออีกคนอย่างอ่อนโยน
"ถึงมันจะเขินจนพูดไม่ออก..อืม..."
ดูอารมณ์ดีจังเนอะ
"ฮ่ะๆ"
"แต่ผมอยากเรียกแบบนั้นนะ"
เจ้าตัวกล่าวเสียงอ่อนนุ่ม มือนึงยื่นไปจับมืออีกคนไว้หลวมๆ นิ้วโป้งลูบวนที่หลังมืออีกคนอย่างอ่อนโยน
"ถึงมันจะเขินจนพูดไม่ออก..อืม..."
ดูอารมณ์ดีจังเนอะ
เราตอบกชับไปแบบสุ่มๆ และเหมือนจะนั่งคิดอะไรอยู่จนสติกลับมาเมื่ออีกคนทักถาม นั่นทำเอาเรารีบหันไปมองทางต้นเสียงเลย
"หื้ม--? อะ แล้ว อยากใช้อะไรล่ะ? "
"ผมก็อยากจะใช้คำอื่นดูบ้าง.."
เรากล่าวเสียงเบาสายตามองหลุบไปทางอื่นเล็กน้อย ปกติก็เรียกแบบเดิมๆมาตลอดพออีกคนเริ่มพูดถึงก็สนใจขึ้นมา
เราตอบกชับไปแบบสุ่มๆ และเหมือนจะนั่งคิดอะไรอยู่จนสติกลับมาเมื่ออีกคนทักถาม นั่นทำเอาเรารีบหันไปมองทางต้นเสียงเลย
"หื้ม--? อะ แล้ว อยากใช้อะไรล่ะ? "
"ผมก็อยากจะใช้คำอื่นดูบ้าง.."
เรากล่าวเสียงเบาสายตามองหลุบไปทางอื่นเล็กน้อย ปกติก็เรียกแบบเดิมๆมาตลอดพออีกคนเริ่มพูดถึงก็สนใจขึ้นมา
เราไม่ได้ตอบไปซะเดี๋ยวนั้น เพียงเดินนำไปก่อน ก็สักพักใหญ่ๆจนใกล้ถึงร้านเลยหันไปตอบ
"ทำไงได้ครับ ชีวิตเราไม่ได้เลือกเองไปซะทุกอย่าง"
"นี่ ผมอยากกินร้านนี้"
"ไปครับ~"
เรากล่าวและเร่งเข้าร้านไป นั่งสักที่สุ่มๆเอา
เราไม่ได้ตอบไปซะเดี๋ยวนั้น เพียงเดินนำไปก่อน ก็สักพักใหญ่ๆจนใกล้ถึงร้านเลยหันไปตอบ
"ทำไงได้ครับ ชีวิตเราไม่ได้เลือกเองไปซะทุกอย่าง"
"นี่ ผมอยากกินร้านนี้"
"ไปครับ~"
เรากล่าวและเร่งเข้าร้านไป นั่งสักที่สุ่มๆเอา
"....ไม่เอา ผมอยากกินร้านนู้นมากกว่า"
เราชี้ไปฝั่งซ้ายนู่น ก็ร้านประเภทเดียวกันเลยแค่อยากได้บรรยากาศอีกร้านมากกว่า
"อื้ม ตามใจเลย "
เรายิ้มออกมาละยังคงชี้ไปที่ ที่อยากไปทาน
"....ไม่เอา ผมอยากกินร้านนู้นมากกว่า"
เราชี้ไปฝั่งซ้ายนู่น ก็ร้านประเภทเดียวกันเลยแค่อยากได้บรรยากาศอีกร้านมากกว่า
"อื้ม ตามใจเลย "
เรายิ้มออกมาละยังคงชี้ไปที่ ที่อยากไปทาน
เรายังคงยิ้มตอบอีกคนและพยัหน้าตามไปด้วย อยากกินอะไรก็กินเถอะ ส่วนเราก็คงเป็นอะไรเบาท้องสักหน่อย
เเต่พอเปลี่ยนหัวเรื่องมาเป็นเรื่องนี้ ทำให้อากิระเงียบสักไป ทำตาปริบๆใส่ ครู่นึงเลย
"ก็ทำงานสิ"
เราตอบกว้างๆออกมาและขำๆเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเรื่องเดิม
"ไปเร็ว หิวเเล้วครับ"
เอื้อมไปจับข้อมืออีกคนและบอกให้อีกคนช่วยตามมาที หาสักร้านแล้วคุยกันทีหลังก็ได้
เรายังคงยิ้มตอบอีกคนและพยัหน้าตามไปด้วย อยากกินอะไรก็กินเถอะ ส่วนเราก็คงเป็นอะไรเบาท้องสักหน่อย
เเต่พอเปลี่ยนหัวเรื่องมาเป็นเรื่องนี้ ทำให้อากิระเงียบสักไป ทำตาปริบๆใส่ ครู่นึงเลย
"ก็ทำงานสิ"
เราตอบกว้างๆออกมาและขำๆเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเรื่องเดิม
"ไปเร็ว หิวเเล้วครับ"
เอื้อมไปจับข้อมืออีกคนและบอกให้อีกคนช่วยตามมาที หาสักร้านแล้วคุยกันทีหลังก็ได้
"ได้สิ มีร้านที่อยากทานมั้ย"
ถึงเราจะทานมาแล้วแต่ก็ตอบรับที่จะไปทานอีกเล็กน้อยเป็นเพื่อนอีกคน เหมือนว่าเราจะดูไม่เรื่องมากเอาแต่ใจเท่าก่อนหน้านี้นัก เพราะมีความรักรึเปล่านะ
"ผมเอง..ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน"
"ได้สิ มีร้านที่อยากทานมั้ย"
ถึงเราจะทานมาแล้วแต่ก็ตอบรับที่จะไปทานอีกเล็กน้อยเป็นเพื่อนอีกคน เหมือนว่าเราจะดูไม่เรื่องมากเอาแต่ใจเท่าก่อนหน้านี้นัก เพราะมีความรักรึเปล่านะ
"ผมเอง..ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน"
"อะ...ไม่นานเลยครับ"
เราค่อยๆหันไปหาอีกคนและส่งยิ้มหวานให้ยินดีที่ได้เจออีกคน ก่อนจะเอ่ยถามออกมาเบาๆ
"ทานอะไรมารึยังครับ?"
"อะ...ไม่นานเลยครับ"
เราค่อยๆหันไปหาอีกคนและส่งยิ้มหวานให้ยินดีที่ได้เจออีกคน ก่อนจะเอ่ยถามออกมาเบาๆ
"ทานอะไรมารึยังครับ?"