⠀⠀⠀⠀ ⠀ ⠀ ⠀⠀⠀⠀ ⠀Multi-fandom / Call me “ มะ “
⠀⠀⠀⠀ ⠀ ⠀ ⠀⠀⠀⠀ ⠀⠀ ⠀⠀⠀⠀ ⠀ ⠀ ⠀⠀⠀⠀ ⠀ ─ ( 20up )
﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏
X : https://x.com/049ints
RAW : https://GoGoQue.readawrite.com
Ask , Request or Talk : https://ngl.link/049ints
*ooc , ฝนดาวตกปีนั้น
ถ้าให้นิยามความรักคงมีมากมาย บางคนก็อยากให้คนรักมีความสุข ได้กินอาหารอร่อยทุก ๆ วัน บ้างก็อยากให้คนรักยิ้มและบางคนก็อยากให้คนรักอยู่รักกันตลอดไป แต่สำหรับนางิเขาไม่ค่อยเข้าใจนิยามนั้นเท่าไรนัก ไม่ว่าจะมีคนรักไปเยอะเพียงใด เขาก็ไม่เคยเข้าใจมันสักครั้ง
และชีวิตนี้คงไม่มีใครทำให้นางิเข้าใจมันได้
ทั้งสองคนรู้จักกันครั้งแรกในวันที่มีฝนดาวตก
จากกันในวันที่มีฝนดาวตก
สุดท้ายก็กลับมาพบกันในวันที่ฝนดาวตก
— end .
ทั้งสองคนรู้จักกันครั้งแรกในวันที่มีฝนดาวตก
จากกันในวันที่มีฝนดาวตก
สุดท้ายก็กลับมาพบกันในวันที่ฝนดาวตก
— end .
อิซางิยื่นมือให้ตามที่นางิขอ
“นี่แหวน ฉันขอหมั้นแบบนี้ไว้ก่อนนะ”
แหวนดอกหญ้าถูกสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของอิซางิ นางิจูบลงที่มือสวยราวกับพิธีแต่งงานไม่มีผิด
“ไว้ฉันจะขอดี ๆ อีกครั้งนะ”
“อื้อ”
หลังจากที่พูดคุยกันจบ ถามไถ่ความเป็นไปตลอดระยะเวลาเจ็ดปีที่ห่างกัน ค่ำคืนนั้นมีบทสนทนามายมายนับไม่ถ้วนระหว่างทั้งคู่ พวกเขาพูดคุยกันและนั่งดูฝนดาวตกไปด้วยตลอดทั้งคืน
อิซางิยื่นมือให้ตามที่นางิขอ
“นี่แหวน ฉันขอหมั้นแบบนี้ไว้ก่อนนะ”
แหวนดอกหญ้าถูกสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของอิซางิ นางิจูบลงที่มือสวยราวกับพิธีแต่งงานไม่มีผิด
“ไว้ฉันจะขอดี ๆ อีกครั้งนะ”
“อื้อ”
หลังจากที่พูดคุยกันจบ ถามไถ่ความเป็นไปตลอดระยะเวลาเจ็ดปีที่ห่างกัน ค่ำคืนนั้นมีบทสนทนามายมายนับไม่ถ้วนระหว่างทั้งคู่ พวกเขาพูดคุยกันและนั่งดูฝนดาวตกไปด้วยตลอดทั้งคืน
และอิซางิเองก็ไม่มั่นใจมากนักว่าจากหลงกลายเป็นรักตั้งแต่เมื่อใด แต่เมื่อรู้ตัวได้ไม่นานก็ได้แยกจากคนที่ชอบเสียแล้ว
อิซางิดีใจเหลือเกินที่นางิไม่ได้เปลี่ยนใจไปรักใคร
และพรปีแรกที่นางิเคยถามว่าอิซางิขออะไรนั้น เขาได้พูดเอาไว้ว่า ‘ขอให้ได้เจอนางิอีก’
บัดนี้มันกลายเป็นจริง พวกเราได้กลับมาเจอกันและรักกันอีกครั้ง
“อิซางิขอมือหน่อยสิ”
และอิซางิเองก็ไม่มั่นใจมากนักว่าจากหลงกลายเป็นรักตั้งแต่เมื่อใด แต่เมื่อรู้ตัวได้ไม่นานก็ได้แยกจากคนที่ชอบเสียแล้ว
อิซางิดีใจเหลือเกินที่นางิไม่ได้เปลี่ยนใจไปรักใคร
และพรปีแรกที่นางิเคยถามว่าอิซางิขออะไรนั้น เขาได้พูดเอาไว้ว่า ‘ขอให้ได้เจอนางิอีก’
บัดนี้มันกลายเป็นจริง พวกเราได้กลับมาเจอกันและรักกันอีกครั้ง
“อิซางิขอมือหน่อยสิ”
อิซางิตกหลุมรักนางิตั้งแต่แรกเห็น ตอนแรกเขาเพียงคิดว่าตัวเองหลงเท่านั้น เมื่อครั้นเป็นเด็กนางิเป็นเพียงเด็กแปลก ๆ ที่นอนไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทั้งที่อิซางิเข้าบ้านมาตั้งนานแล้วแต่กลับไม่ตื่นมาดู หากไฟไหม้คงได้เสียในกองเพลิงแน่แท้ เขายืนจ้องอยู่สักพักก่อนจะเปลี่ยนมานั่งที่พื้นจ้องใบหน้าหล่อ ๆ นั่นแทน อิซางิเฝ้ามองจนกระทั่งเด็กคนนั้นตื่นมาพบและได้พูดคุยกัน
อิซางิตกหลุมรักนางิตั้งแต่แรกเห็น ตอนแรกเขาเพียงคิดว่าตัวเองหลงเท่านั้น เมื่อครั้นเป็นเด็กนางิเป็นเพียงเด็กแปลก ๆ ที่นอนไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทั้งที่อิซางิเข้าบ้านมาตั้งนานแล้วแต่กลับไม่ตื่นมาดู หากไฟไหม้คงได้เสียในกองเพลิงแน่แท้ เขายืนจ้องอยู่สักพักก่อนจะเปลี่ยนมานั่งที่พื้นจ้องใบหน้าหล่อ ๆ นั่นแทน อิซางิเฝ้ามองจนกระทั่งเด็กคนนั้นตื่นมาพบและได้พูดคุยกัน
“ในจดหมายนางิขอฉันเป็นแฟนเป็นล้าบรอบ ฉันเองก็ตอบตกลงเป็นล้านรอบเหมือนกัน”
“คงเหลือแต่แต่งงานแล้วละ”
อิซางิพูดติดตลกแต่ลืมไปว่าเจ้าของไหล่ที่ตนพิงอยู่นั้นเองจริง
“งั้นแต่งเลยไหม”
“ฮ่า ๆ ให้เป็นเรื่องของอนาคตเถอะ ครั้งนี้ฉันไม่หนีไปไหนหรอก” พูดจบอิซางิก็มองหน้านางิพลางนึกถึงอดีต
“ในจดหมายนางิขอฉันเป็นแฟนเป็นล้าบรอบ ฉันเองก็ตอบตกลงเป็นล้านรอบเหมือนกัน”
“คงเหลือแต่แต่งงานแล้วละ”
อิซางิพูดติดตลกแต่ลืมไปว่าเจ้าของไหล่ที่ตนพิงอยู่นั้นเองจริง
“งั้นแต่งเลยไหม”
“ฮ่า ๆ ให้เป็นเรื่องของอนาคตเถอะ ครั้งนี้ฉันไม่หนีไปไหนหรอก” พูดจบอิซางิก็มองหน้านางิพลางนึกถึงอดีต
นางิเลิกจูบอิซางิแล้วอุ้มร่างเล็กมานั่งข้างกายและให้เอนหัวพิงไหล่ของตนเองพลางลูบหัวอิซางิไปด้วยก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“ตอนนี้เราเป็นคู่รักกันหรือยังนะ”
“เพิ่งนึกได้หลังจากที่จูบไปตั้งนานแล้วน่ะเหรอ”
อิซางิหัวเราะร่า นึกเอ็นดูหมาใหญ่ข้าง ๆ ตน
“นางิรู้ไหมว่าฉันรอเวลาที่เราจะได้เป็นคนรักกันมาตลอดเลยนะ”
อิซางิพูดพลางช้อนตามองนางิที่เพิ่งได้ตำแหน่งแฟนหนุ่มป้ายแดงหมาด ๆ
นางิเลิกจูบอิซางิแล้วอุ้มร่างเล็กมานั่งข้างกายและให้เอนหัวพิงไหล่ของตนเองพลางลูบหัวอิซางิไปด้วยก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“ตอนนี้เราเป็นคู่รักกันหรือยังนะ”
“เพิ่งนึกได้หลังจากที่จูบไปตั้งนานแล้วน่ะเหรอ”
อิซางิหัวเราะร่า นึกเอ็นดูหมาใหญ่ข้าง ๆ ตน
“นางิรู้ไหมว่าฉันรอเวลาที่เราจะได้เป็นคนรักกันมาตลอดเลยนะ”
อิซางิพูดพลางช้อนตามองนางิที่เพิ่งได้ตำแหน่งแฟนหนุ่มป้ายแดงหมาด ๆ
ทั้งคู่จูบกันอยู่นาน จากที่ริมฝีปากแตะกันกลายเป็นจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม และจากที่ยืนอยู่ตรงมุมเรือนกระจกก็กลายเป็นว่ามานั่งจูบกันตรงโซฟากลางเรือนกระจกโดยที่นางิเป็นคนที่นั่งตรงโซฟาและอิซางินั่งตักของนางิอีกที
“แฮ่ก.. พอแล้วหิวจูบมาจากไหนกัน” อิซางิท้วง
“ก็ฉันคิดถึงอิซางินี่นา อยากจูบมาตลอดเลย” นางิว่า
ทั้งคู่จูบกันอยู่นาน จากที่ริมฝีปากแตะกันกลายเป็นจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม และจากที่ยืนอยู่ตรงมุมเรือนกระจกก็กลายเป็นว่ามานั่งจูบกันตรงโซฟากลางเรือนกระจกโดยที่นางิเป็นคนที่นั่งตรงโซฟาและอิซางินั่งตักของนางิอีกที
“แฮ่ก.. พอแล้วหิวจูบมาจากไหนกัน” อิซางิท้วง
“ก็ฉันคิดถึงอิซางินี่นา อยากจูบมาตลอดเลย” นางิว่า
อิซางิมองหน้านางิก่อนจะยื่นหน้ามาประทับจูบแผ่วเบาลงที่อวัยวะเดียวกันและผละจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่งราวกับนึกเสียดาย
เมื่อนางิเห็นแบบนั้นก็รั้งต้นคอของคนตรงหน้าให้มารับจูบตน และมืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็เลื่อนไปปิดสวิซต์ไฟ ทั้งคู่จูบกันใต้ความมืดที่มีฝนดาวตกตกอยู่
ราวกับต้องการให้ดาวนับล้านเป็นพยานความรัก
อิซางิมองหน้านางิก่อนจะยื่นหน้ามาประทับจูบแผ่วเบาลงที่อวัยวะเดียวกันและผละจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่งราวกับนึกเสียดาย
เมื่อนางิเห็นแบบนั้นก็รั้งต้นคอของคนตรงหน้าให้มารับจูบตน และมืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็เลื่อนไปปิดสวิซต์ไฟ ทั้งคู่จูบกันใต้ความมืดที่มีฝนดาวตกตกอยู่
ราวกับต้องการให้ดาวนับล้านเป็นพยานความรัก
หากไม่รักก็คงไม่อดทนรอถึง 7 ปี
ถึงแม้อิซางิจะเปลี่ยนใจไปจากเขา เขาก็ยินดีที่จะครองโสดไปตลอดชีวิต เพราะชีวิตนี้นางิคงไม่คิดจะรักใครอีกแล้ว
“ฉันก็รักนางิไม่ต่างกัน ฉันเลยรีบกลับมาให้ไวที่สุด”
“ฉันกลัวนางิจะไปรักคนอื่น”
“ฉันกลัวเพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
นางิลูบกลุ่มผมสีน้ำเงินเบา ๆ
“ฉันเป็นของอิซางิ ไม่มีทางเป็นของใคร”
หากไม่รักก็คงไม่อดทนรอถึง 7 ปี
ถึงแม้อิซางิจะเปลี่ยนใจไปจากเขา เขาก็ยินดีที่จะครองโสดไปตลอดชีวิต เพราะชีวิตนี้นางิคงไม่คิดจะรักใครอีกแล้ว
“ฉันก็รักนางิไม่ต่างกัน ฉันเลยรีบกลับมาให้ไวที่สุด”
“ฉันกลัวนางิจะไปรักคนอื่น”
“ฉันกลัวเพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
นางิลูบกลุ่มผมสีน้ำเงินเบา ๆ
“ฉันเป็นของอิซางิ ไม่มีทางเป็นของใคร”
อิซางิที่กำลังจะถอดกายออกจากอ้อมกอดนั้นก็ถูกดึงกลับเข้าไปอีกครั้ง นางิกอดอิซางิแน่นกว่าตอนที่อิซางิเป็นคนกอดเองเสียอีก
“ฉันรัก.. ฉันรักอิซางิ”
“อย่าทิ้งฉันไปอีกเลยนะ”
“ทั้งหัวใจฉันมีแค่อิซางิคนเดียวตลอดมาเลยนะ”
แม้ว่าจะมีใครสักกี่คนที่พยายามเข้ามาในชีวิตชายหนุ่มตาสีไม้สนคนนี้ เขาก็ปฏิเสธทุกครั้งเพียงเพราะรอคนตรงหน้า ชายหนุ่มที่มีตาสีไพลิน กลุ่มผมสีน้ำเงินคนนี้เท่านั้น
อิซางิที่กำลังจะถอดกายออกจากอ้อมกอดนั้นก็ถูกดึงกลับเข้าไปอีกครั้ง นางิกอดอิซางิแน่นกว่าตอนที่อิซางิเป็นคนกอดเองเสียอีก
“ฉันรัก.. ฉันรักอิซางิ”
“อย่าทิ้งฉันไปอีกเลยนะ”
“ทั้งหัวใจฉันมีแค่อิซางิคนเดียวตลอดมาเลยนะ”
แม้ว่าจะมีใครสักกี่คนที่พยายามเข้ามาในชีวิตชายหนุ่มตาสีไม้สนคนนี้ เขาก็ปฏิเสธทุกครั้งเพียงเพราะรอคนตรงหน้า ชายหนุ่มที่มีตาสีไพลิน กลุ่มผมสีน้ำเงินคนนี้เท่านั้น
“แต่ฉันไม่เคยเอาไปใส่ไว้ตู้จดหมายบ้านอิซางิเลยนะ” นางิปฏิเสธว่าตนไม่ได้เอาไปใส่
“แม่บอกว่าคุณชายผมม่วง” อิซางิพูดเสริม
“เรโอะเหรอ”
“คงอย่างงั้น” อิซางิระบายยิ้มให้นางิอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่สดใสมากจริง ๆ “สรุปยังชอบฉันไหม”
“ไม่แล้ว..”
“อ่า.. งั้นเหรอ”
“แต่ฉันไม่เคยเอาไปใส่ไว้ตู้จดหมายบ้านอิซางิเลยนะ” นางิปฏิเสธว่าตนไม่ได้เอาไปใส่
“แม่บอกว่าคุณชายผมม่วง” อิซางิพูดเสริม
“เรโอะเหรอ”
“คงอย่างงั้น” อิซางิระบายยิ้มให้นางิอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่สดใสมากจริง ๆ “สรุปยังชอบฉันไหม”
“ไม่แล้ว..”
“อ่า.. งั้นเหรอ”
“ยิ้ม..ฮึก... อะไรของอิซา..งิ” นางิพูดไปสะอื้นไป
“ฉันชอบนางิ” จู่ ๆ อิซางิก็พูดโพล่งขึ้นมาทำเอานางิที่สะอื้นไห้อยู่หยุดทันที
“ฮะ?!”
“ฉันบอกว่าชอบนางิไง” อิซางิพูดซ้ำอีกครั้ง “นางิยังชอบฉันอยู่หรือเปล่า”
“ทำไม? ทำไมยังชอบฉันอยู่”
“นางิชอบเขียนจดหมายถึงฉันทิ้งไว้นี่นา เอาไปใส่ที่ตู้จดหมายบ้านฉัน.. ฉันอ่านมันทุกฉบับเลยนะ” นางิทำหน้างงเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่อิซางิพูด
“ยิ้ม..ฮึก... อะไรของอิซา..งิ” นางิพูดไปสะอื้นไป
“ฉันชอบนางิ” จู่ ๆ อิซางิก็พูดโพล่งขึ้นมาทำเอานางิที่สะอื้นไห้อยู่หยุดทันที
“ฮะ?!”
“ฉันบอกว่าชอบนางิไง” อิซางิพูดซ้ำอีกครั้ง “นางิยังชอบฉันอยู่หรือเปล่า”
“ทำไม? ทำไมยังชอบฉันอยู่”
“นางิชอบเขียนจดหมายถึงฉันทิ้งไว้นี่นา เอาไปใส่ที่ตู้จดหมายบ้านฉัน.. ฉันอ่านมันทุกฉบับเลยนะ” นางิทำหน้างงเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่อิซางิพูด
“พร้อมฟังคำตอบของฉันไหม” อิซางิพูดในขณะที่กอดนางิอยู่
“ไม่เอา ฉันไม่อยากฟัง” นางิรีบปฏิเสธ
“นึกว่ารอเวลานี้มาตลอดซะอีก.. คำตอบดีนะฟังไหม” อิซางิลองถามดูอีกครั้ง
อิซางิคลายกอดมาดูสีหน้าของคนตัวโตกว่า และพิจารณาใบหน้านั้นสักพักก่อนจะอมยิ้มคิดอะไรบางอย่างในใจ
‘นางิเองก็โตขึ้นมาก และยังหล่อขึ้นด้วย สาว ๆ คงติดตรึมแน่’
“พร้อมฟังคำตอบของฉันไหม” อิซางิพูดในขณะที่กอดนางิอยู่
“ไม่เอา ฉันไม่อยากฟัง” นางิรีบปฏิเสธ
“นึกว่ารอเวลานี้มาตลอดซะอีก.. คำตอบดีนะฟังไหม” อิซางิลองถามดูอีกครั้ง
อิซางิคลายกอดมาดูสีหน้าของคนตัวโตกว่า และพิจารณาใบหน้านั้นสักพักก่อนจะอมยิ้มคิดอะไรบางอย่างในใจ
‘นางิเองก็โตขึ้นมาก และยังหล่อขึ้นด้วย สาว ๆ คงติดตรึมแน่’