|ปกติผปค เป็นคนพิมพ์ไวค่ะ ตอบช้าคือติดงานไม่เห็นแชทบลาๆ|
ก็คงไม่แย่เท่าไหร่แหะ เขาคิดกับตัวเอง
“เช่นกันนะครับ”
ยิ้มอย่างสุภาพ ก่อนทั้งคู่จะแยกย้ายกันกลับไป
(เช่นกันค่ะ ขอบคุณที่มาโรลด้วยกันนะคะสนุกมากเลยค่ะ🤍🤍💪💪 เจอกันหากมีโอกาสใหม่นะคะน้องส้มคุง🤍)
ก็คงไม่แย่เท่าไหร่แหะ เขาคิดกับตัวเอง
“เช่นกันนะครับ”
ยิ้มอย่างสุภาพ ก่อนทั้งคู่จะแยกย้ายกันกลับไป
(เช่นกันค่ะ ขอบคุณที่มาโรลด้วยกันนะคะสนุกมากเลยค่ะ🤍🤍💪💪 เจอกันหากมีโอกาสใหม่นะคะน้องส้มคุง🤍)
…
ตัวเขาที่ต้องรีบเดินเสียอย่างงั้น เพราะออกตัวช้ากว่าอีกฝ่าย
พอเดินมาใกล้ถึงทางลงเขาก็เอื้อมปลายนิ้วไปแตะหลังอีกคนเบาๆ ยังกับว่าถึงตัวแล้ว ก่อนจะค่อยๆลดมือลง พร้อมเริ่มยิ้มแปลกๆให้อีกคน
“ขอบคุณที่มาส่ง(?)นะครับ”
ท่าทีที่ดูแปลกไปก็เริ่มค่อยๆกลับมาดั่งเดิม
.
.
.
“โชคดีนะครับคุณอุวาซะ~“
โบกมือลาอย่างเป็นมิตร
…
ตัวเขาที่ต้องรีบเดินเสียอย่างงั้น เพราะออกตัวช้ากว่าอีกฝ่าย
พอเดินมาใกล้ถึงทางลงเขาก็เอื้อมปลายนิ้วไปแตะหลังอีกคนเบาๆ ยังกับว่าถึงตัวแล้ว ก่อนจะค่อยๆลดมือลง พร้อมเริ่มยิ้มแปลกๆให้อีกคน
“ขอบคุณที่มาส่ง(?)นะครับ”
ท่าทีที่ดูแปลกไปก็เริ่มค่อยๆกลับมาดั่งเดิม
.
.
.
“โชคดีนะครับคุณอุวาซะ~“
โบกมือลาอย่างเป็นมิตร
คงเพราะการถูกสัมผัสที่เพียงปลายคอ ราวกับถูกบางอย่างจ่อเข้ามา มันทำให้เขาถึงกับต้องหยุดหายใจ
หลังมือนั้นจากไป คนตรงหน้ากลับเริ่มดูไม่คุ้นเคย ขณะที่อีกคนยิ้มออกมา ตัวของเขาก็ลืมที่จะต้องยิ้มตอบให้ไปแล้ว
สองเนตรก้มมองมือที่ถูกยื่นให้อีกครา ก่อนจะเริ่มยิ้มอีกครั้งอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
‘อะไรน่ะ’
ปลายผมนั้นพัดผ่านไปตามแรงลมเล็กน้อย
คงเพราะการถูกสัมผัสที่เพียงปลายคอ ราวกับถูกบางอย่างจ่อเข้ามา มันทำให้เขาถึงกับต้องหยุดหายใจ
หลังมือนั้นจากไป คนตรงหน้ากลับเริ่มดูไม่คุ้นเคย ขณะที่อีกคนยิ้มออกมา ตัวของเขาก็ลืมที่จะต้องยิ้มตอบให้ไปแล้ว
สองเนตรก้มมองมือที่ถูกยื่นให้อีกครา ก่อนจะเริ่มยิ้มอีกครั้งอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
‘อะไรน่ะ’
ปลายผมนั้นพัดผ่านไปตามแรงลมเล็กน้อย
“เราทั้งคู่จะโดนผีลักซ่อนเลยนะครับ”
การเย้าแหย่จากปากของคนนึกสนุก ที่พูดอะไรไม่มงคลเช่นนี้ราวกับสาปแช่งให้เรานั้นหายไปเสียอย่างนั้น
สิ้นเสียง ใบหน้าก็โงเงนกลับมาหาคนตรงหน้าอีกครา ดวงแก้วสีแดงนั้นยังคงสั่นไหว อย่างเช่นทุกครั้ง
เขาอ้าปากเล็กน้อย หากแต่ไร้ซึ่งเสียง
.
.
.
” หมดเวลาสนุกแล้วสิครับ “
นี่คงเป็นคำตอบ เวลาร่วงโรยมากไปเสียแล้ว
“เราทั้งคู่จะโดนผีลักซ่อนเลยนะครับ”
การเย้าแหย่จากปากของคนนึกสนุก ที่พูดอะไรไม่มงคลเช่นนี้ราวกับสาปแช่งให้เรานั้นหายไปเสียอย่างนั้น
สิ้นเสียง ใบหน้าก็โงเงนกลับมาหาคนตรงหน้าอีกครา ดวงแก้วสีแดงนั้นยังคงสั่นไหว อย่างเช่นทุกครั้ง
เขาอ้าปากเล็กน้อย หากแต่ไร้ซึ่งเสียง
.
.
.
” หมดเวลาสนุกแล้วสิครับ “
นี่คงเป็นคำตอบ เวลาร่วงโรยมากไปเสียแล้ว
“—”
มือทัดใบหู พลางสบตาอย่างสนใจในบุคคลตรงหน้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
“อา—”
“ยอดเยี่ยมสุดๆไปเลยหล่ะครับ”
เสียงรื่นเริงที่ขาดหายไปจากการลากเสียงหายใจ จบลงด้วยการพูดชม เช่นเดียวกันนั้นใบหน้าหลังพูดเสร็จก็เบือนเข้าหาทิวทัศน์แทน
“—”
มือทัดใบหู พลางสบตาอย่างสนใจในบุคคลตรงหน้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
“อา—”
“ยอดเยี่ยมสุดๆไปเลยหล่ะครับ”
เสียงรื่นเริงที่ขาดหายไปจากการลากเสียงหายใจ จบลงด้วยการพูดชม เช่นเดียวกันนั้นใบหน้าหลังพูดเสร็จก็เบือนเข้าหาทิวทัศน์แทน
ความนิ่งถูกหยุดลง ด้วยเสียงจากรอยยิ้มของคนทั้งคู่ เขากล่าวเชิญนำพลางก้าวออกไปก่อน อย่างไม่รู้ทิศ
“ เป็นดวงตาที่สวยดีนะครับ ”
เขากล่าวชมเชย นัยตาแห่งความอดสู ที่ฉายแสงอันน้อยนิดเพียงช่วงยิบตา ก่อนจะมอดดับไป
‘ เป็นดวงตาที่แปลกดีนะครับ ’
ความนิ่งถูกหยุดลง ด้วยเสียงจากรอยยิ้มของคนทั้งคู่ เขากล่าวเชิญนำพลางก้าวออกไปก่อน อย่างไม่รู้ทิศ
“ เป็นดวงตาที่สวยดีนะครับ ”
เขากล่าวชมเชย นัยตาแห่งความอดสู ที่ฉายแสงอันน้อยนิดเพียงช่วงยิบตา ก่อนจะมอดดับไป
‘ เป็นดวงตาที่แปลกดีนะครับ ’
แต่เขารู้ ว่าคำพูดเหล่านั้นจากคนตรงหน้ามันมีอะไรที่มากกว่าแค่คำชมหรือคำด่า
ช่างเป็นคำที่ว่างเปล่าเสียจริง
ผมไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใดๆ
แต่เขารู้ ว่าคำพูดเหล่านั้นจากคนตรงหน้ามันมีอะไรที่มากกว่าแค่คำชมหรือคำด่า
ช่างเป็นคำที่ว่างเปล่าเสียจริง
ผมไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใดๆ
ตามองค้างอยู่คู่กับอีกฝ่าย
"คุณเองนี่ก็ไม่กังวลเลยนะครับ"
หยุดนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ร่างกายจะเริ่มขยับอีกครั้ง ตาหลบใน ภายใต้รอยยิ้มที่ส่งรับให้
"ถ้าผมเป็นผีขึ้นมาจะทำยังไงล่ะครับนั่น"
"ฮ่าฮ่า"
เสียงหัวเราะอารมณ์ดีอย่างสุภาพชนลอยออกไปกับชั้นบรรยากาศอันอ้างว้าง
'ต่อให้จะมองไม่เห็นน่ะหรอ'
ม่านตาสีแดงตกกระทบแสงสีของอาทิตย์
ใบมือข้างหนึ่งนั้นเพียงคว่ำลงวางปลายนิ้วบนฝ่ามืออีกฝ่าย
ตามองค้างอยู่คู่กับอีกฝ่าย
"คุณเองนี่ก็ไม่กังวลเลยนะครับ"
หยุดนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ร่างกายจะเริ่มขยับอีกครั้ง ตาหลบใน ภายใต้รอยยิ้มที่ส่งรับให้
"ถ้าผมเป็นผีขึ้นมาจะทำยังไงล่ะครับนั่น"
"ฮ่าฮ่า"
เสียงหัวเราะอารมณ์ดีอย่างสุภาพชนลอยออกไปกับชั้นบรรยากาศอันอ้างว้าง
'ต่อให้จะมองไม่เห็นน่ะหรอ'
ม่านตาสีแดงตกกระทบแสงสีของอาทิตย์
ใบมือข้างหนึ่งนั้นเพียงคว่ำลงวางปลายนิ้วบนฝ่ามืออีกฝ่าย
" ริโอะ เอย์ชินสิครับ "
เขาค่อนข้างแปลกใจนิดหน่อย นอกจากจะเรียกเขาด้วยชื่อจริง แทนนามสกุล แล้วยังทวนชื่อผิดแปลกอีก คนที่เขาเคยรู้จักมาไม่มีใครทำแบบนี้กับคนที่พึ่งเจอแน่ๆ
"ปีนเขาสินะครับ ก็ดีนะครับ"
ถึงจะคิดว่าคนตรงหน้าเนี่ยช่างพูดไม่รู้เรื่องเสีย แต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกไปกลับเมินเฉยต่อมันแทน
ลำตัวขยับตามสายตามองไล่ตามนิ้วไปบนเขา
"หวังว่าจะไม่กลับมืดเกินไปนะครับ"
" ริโอะ เอย์ชินสิครับ "
เขาค่อนข้างแปลกใจนิดหน่อย นอกจากจะเรียกเขาด้วยชื่อจริง แทนนามสกุล แล้วยังทวนชื่อผิดแปลกอีก คนที่เขาเคยรู้จักมาไม่มีใครทำแบบนี้กับคนที่พึ่งเจอแน่ๆ
"ปีนเขาสินะครับ ก็ดีนะครับ"
ถึงจะคิดว่าคนตรงหน้าเนี่ยช่างพูดไม่รู้เรื่องเสีย แต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกไปกลับเมินเฉยต่อมันแทน
ลำตัวขยับตามสายตามองไล่ตามนิ้วไปบนเขา
"หวังว่าจะไม่กลับมืดเกินไปนะครับ"
ใกล้จังแหะ
”ดินติด?“
” ติดดินแล้วกันนะครับคุณอุวาซะ “
คนๆนี้จะเล่นคำงั้นหรอ จากวิธีการพูดแล้วดูเป็นคนติดเล่นพอตัวหรือเปล่านะ
” ขออภัยลืมมารยาทพื้นฐานเสียดาย “
พออีกฝ่ายถามขึ้นมาเขาก็นึกขึ้นได้
”ผมชื่อว่า ริโอะ เอย์ชิน ครับ”
ใจจริงก็อยากจะโค้งตัวตามมารยาทให้อยู่หรอก ทว่า ความห่างของระยะอันสั้นนี้ เกรงว่าน่าจะชนกันเสีย
ใกล้จังแหะ
”ดินติด?“
” ติดดินแล้วกันนะครับคุณอุวาซะ “
คนๆนี้จะเล่นคำงั้นหรอ จากวิธีการพูดแล้วดูเป็นคนติดเล่นพอตัวหรือเปล่านะ
” ขออภัยลืมมารยาทพื้นฐานเสียดาย “
พออีกฝ่ายถามขึ้นมาเขาก็นึกขึ้นได้
”ผมชื่อว่า ริโอะ เอย์ชิน ครับ”
ใจจริงก็อยากจะโค้งตัวตามมารยาทให้อยู่หรอก ทว่า ความห่างของระยะอันสั้นนี้ เกรงว่าน่าจะชนกันเสีย
เอียงหัวเล็กน้อย จากการสงสัยว่าอีกฝ่าย มองเห็นเขาหรือเปล่า
แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรไร เอาแต่มองตาไม่วาง
“อุวาซะ ยูซุรุ“
”…“
เสียงทวนชื่อบางลงเรื่อยจนมีแต่ปากขยับ
” ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับคุณอุวาซะ “
”คือว่า ช่วยแนะนำสถานที่ที่ในเกาะที่น่าสนใจจะได้ไหมครับคุณอุวาซะ “
ศีรษะเอียงลงเล็กน้อยตามองเอื้อมไปที่ใบหน้าที่ถูกลดลงมาระดับใกล้ๆเขา พลางขณะที่ยักไหล่เบาๆ
เอียงหัวเล็กน้อย จากการสงสัยว่าอีกฝ่าย มองเห็นเขาหรือเปล่า
แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรไร เอาแต่มองตาไม่วาง
“อุวาซะ ยูซุรุ“
”…“
เสียงทวนชื่อบางลงเรื่อยจนมีแต่ปากขยับ
” ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับคุณอุวาซะ “
”คือว่า ช่วยแนะนำสถานที่ที่ในเกาะที่น่าสนใจจะได้ไหมครับคุณอุวาซะ “
ศีรษะเอียงลงเล็กน้อยตามองเอื้อมไปที่ใบหน้าที่ถูกลดลงมาระดับใกล้ๆเขา พลางขณะที่ยักไหล่เบาๆ
สองมือเขาผสานกันเอง พร้อมยืนห่างอีกฝ่ายเพียงก้าวเดียว
" ดีใจมากๆเลยหล่ะครับ "
แล้วดวงแก้วสองใบนั้นก็เปิดม่านขึ้นมาสบตา
"อา "
พรางเดินก้าวถอยคนตรงหน้าลงมาอีกสองก้าว เพื่อลดระยะ ที่เขาเผลอตัวใกล้
" ผมคือ คนที่เกิดที่นี่นะครับ "
ตาไล่ตาม รอบตัวอีกฝ่ายเพื่อสำรวจ
" คุณคือ ? "
มือป้องปากข้างหนึ่ง พรางทิศทางการมองล็อคเป้ามาที่ใบหน้าคนเบื้องหน้าตน
สองมือเขาผสานกันเอง พร้อมยืนห่างอีกฝ่ายเพียงก้าวเดียว
" ดีใจมากๆเลยหล่ะครับ "
แล้วดวงแก้วสองใบนั้นก็เปิดม่านขึ้นมาสบตา
"อา "
พรางเดินก้าวถอยคนตรงหน้าลงมาอีกสองก้าว เพื่อลดระยะ ที่เขาเผลอตัวใกล้
" ผมคือ คนที่เกิดที่นี่นะครับ "
ตาไล่ตาม รอบตัวอีกฝ่ายเพื่อสำรวจ
" คุณคือ ? "
มือป้องปากข้างหนึ่ง พรางทิศทางการมองล็อคเป้ามาที่ใบหน้าคนเบื้องหน้าตน
คงไม่เป็นไรถ้าจะโลภมากสักนิดใช่ไหม
สายตายิ้มหลบเงาดำอันน่าพิศวาสสำหรับตน
แต่ที่แบบนั้นจะมีอยู่จริงๆน่ะหรือ ?
เขายิ้มยกอยู่สักพัก แต่ก็ดันไม่มั่นใจขึ้นมา จนเริ่มที่จะหัวเราะออกมาแทน
" ฮ่าฮ่า "
...
คงไม่เป็นไรถ้าจะโลภมากสักนิดใช่ไหม
สายตายิ้มหลบเงาดำอันน่าพิศวาสสำหรับตน
แต่ที่แบบนั้นจะมีอยู่จริงๆน่ะหรือ ?
เขายิ้มยกอยู่สักพัก แต่ก็ดันไม่มั่นใจขึ้นมา จนเริ่มที่จะหัวเราะออกมาแทน
" ฮ่าฮ่า "
...
เพื่อที่จะได้คิดอะไรมากขึ้น
ที่จริงเขามองเห็นอะไรแปลกๆจากคนๆนี้มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ช่างกลืนกินกับอาภรณ์ของเธอนั้นเหลือเกิน
ที่สำหรับเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย
ที่สำหรับหนีไปจากความวุ่นวาย
หรือที่สามารถเดินไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องคิดอะไร
สำหรับคนอย่างคุณ
ที่ขุ่นมัว และอย่างกับน้ำที่เต็มไปด้วยทราย
" คำตอบของคำถามก่อนหน้านี้น่ะ "
เพื่อที่จะได้คิดอะไรมากขึ้น
ที่จริงเขามองเห็นอะไรแปลกๆจากคนๆนี้มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ช่างกลืนกินกับอาภรณ์ของเธอนั้นเหลือเกิน
ที่สำหรับเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย
ที่สำหรับหนีไปจากความวุ่นวาย
หรือที่สามารถเดินไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องคิดอะไร
สำหรับคนอย่างคุณ
ที่ขุ่นมัว และอย่างกับน้ำที่เต็มไปด้วยทราย
" คำตอบของคำถามก่อนหน้านี้น่ะ "
ของจากคนอย่างคุณ นั่นแหละคือของที่คนอย่างผมน่ะ อยากจะได้มันสะจริง
ฝ่ามือทัดใบหู อย่างอ่อนน้อม ดวงตาไล่ตามมือนั้นไป
ก่อนที่ใบหน้าที่ยิ้มค้างนั้น จะมีเส้นผมปรกลงมาเล็กน้อยในขณะที่ไม่หยุดก้าวต่อไป
‘คำตอบมันจะเป็นที่ไหนกันนะ’
แน่นอนว่าความเป็นจริงแล้วโอกาสที่จะตอบถูกนั้นแทบจะเป็นศูนย์ ยิ่งกับเขาที่ไม่รู้ทางเสียด้วย
” คุณน่ะ อยากที่จะถูกผมถามอะไรหน่อยไหมครับ “
ของจากคนอย่างคุณ นั่นแหละคือของที่คนอย่างผมน่ะ อยากจะได้มันสะจริง
ฝ่ามือทัดใบหู อย่างอ่อนน้อม ดวงตาไล่ตามมือนั้นไป
ก่อนที่ใบหน้าที่ยิ้มค้างนั้น จะมีเส้นผมปรกลงมาเล็กน้อยในขณะที่ไม่หยุดก้าวต่อไป
‘คำตอบมันจะเป็นที่ไหนกันนะ’
แน่นอนว่าความเป็นจริงแล้วโอกาสที่จะตอบถูกนั้นแทบจะเป็นศูนย์ ยิ่งกับเขาที่ไม่รู้ทางเสียด้วย
” คุณน่ะ อยากที่จะถูกผมถามอะไรหน่อยไหมครับ “
“คงเพราะว่าจำทางไม่ได้มั้งครับ ถึงจะเกิดที่นี่แต่ก็โตที่อื่นน่ะครับ “
เศษส่วนของความทรงจำที่เจือจางนั้น ทำให้เขาไม่อาจจำเส้นทางได้มากนัก เว้นไว้เพียงสายที่นำทางสู่บ้าน
และเมื่อพลาดสายตาจากผู้หญิงในชุดสีงานศพนี้ ตรงหน้าของเขาเองก็ปรากฏ บ้านของผู้คนมากมาย ที่พวกเขาเดินผ่าน
ครั้นเสียงเพรียกนั้นก็ได้ความสนใจของเขากับมาที่ตัวเธอ
“คงเพราะว่าจำทางไม่ได้มั้งครับ ถึงจะเกิดที่นี่แต่ก็โตที่อื่นน่ะครับ “
เศษส่วนของความทรงจำที่เจือจางนั้น ทำให้เขาไม่อาจจำเส้นทางได้มากนัก เว้นไว้เพียงสายที่นำทางสู่บ้าน
และเมื่อพลาดสายตาจากผู้หญิงในชุดสีงานศพนี้ ตรงหน้าของเขาเองก็ปรากฏ บ้านของผู้คนมากมาย ที่พวกเขาเดินผ่าน
ครั้นเสียงเพรียกนั้นก็ได้ความสนใจของเขากับมาที่ตัวเธอ
ไม่ได้มีคำพูดใดที่แสดงถึงความผิดแปลก แค่เรารับรู้ได้ถึงมันเอง
’คนๆนี้แปลกดีแหะ‘
ความอ่อนแรงจากกล้ามเนื้อตาที่ทำให้ตานั้นกระตุก ในขณะที่เขาเอ่ยปากพูด
” เห ยากจังเลยนะครับกับคนอย่างคุณเนี่ย ถ้าทายถูกผมจะได้อะไรหรือเปล่านะ ว่าไปนั่น“
คำพูดที่ลอยตามเส้นทางสายลม แต่หน้าแปลกที่ไม่มีใครส่งเสียงเดินออกมา
ไม่ได้มีคำพูดใดที่แสดงถึงความผิดแปลก แค่เรารับรู้ได้ถึงมันเอง
’คนๆนี้แปลกดีแหะ‘
ความอ่อนแรงจากกล้ามเนื้อตาที่ทำให้ตานั้นกระตุก ในขณะที่เขาเอ่ยปากพูด
” เห ยากจังเลยนะครับกับคนอย่างคุณเนี่ย ถ้าทายถูกผมจะได้อะไรหรือเปล่านะ ว่าไปนั่น“
คำพูดที่ลอยตามเส้นทางสายลม แต่หน้าแปลกที่ไม่มีใครส่งเสียงเดินออกมา
ยืนนิ่งเงียบอยู่นานเขาก็หัวเราะให้กับคำพูดของคำถามจากคนช่างสงสัย ที่ถูกตบท้ายด้วยคำว่าล้อเล่นเช่นเดียวกัน ราวกับเป็นคำพูดตอบตกลงของการละเล่นที่ไร้สาระ
.
.
” แค่กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดนะครับ “
“เอ ผมเองก็ปี2เหมือนกันครับ เหมือนว่าเราจะรุ่นเดียวกันเลยนะครับ”
เป็นคนช่างถามเสียจริง แต่เขาเองก็เป็นคนช่างพูดเสียด้วย แม้แทบไม่รู้อะไรจากคนแปลกหน้านี้เลยจนถูกล่วงรู้ไปฝ่ายเดียว
ยืนนิ่งเงียบอยู่นานเขาก็หัวเราะให้กับคำพูดของคำถามจากคนช่างสงสัย ที่ถูกตบท้ายด้วยคำว่าล้อเล่นเช่นเดียวกัน ราวกับเป็นคำพูดตอบตกลงของการละเล่นที่ไร้สาระ
.
.
” แค่กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดนะครับ “
“เอ ผมเองก็ปี2เหมือนกันครับ เหมือนว่าเราจะรุ่นเดียวกันเลยนะครับ”
เป็นคนช่างถามเสียจริง แต่เขาเองก็เป็นคนช่างพูดเสียด้วย แม้แทบไม่รู้อะไรจากคนแปลกหน้านี้เลยจนถูกล่วงรู้ไปฝ่ายเดียว
“แล้วถ้าเป็นคุณล่ะครับ คุณจะเลือกอะไรหรอครับ?”
เขาเดินออกไปก่อนสองก้าวแล้วส่งเสียงถามคนด้านหลัง
“เพราะว่าผมคงจะสนใจเส้นทางที่คุณอยากจะนำไป”
“แล้วถ้าเป็นคุณล่ะครับ คุณจะเลือกอะไรหรอครับ?”
เขาเดินออกไปก่อนสองก้าวแล้วส่งเสียงถามคนด้านหลัง
“เพราะว่าผมคงจะสนใจเส้นทางที่คุณอยากจะนำไป”
ยิ้มรับพรางโบกมือไม้บางๆตาม
“บางทีคุณอาจะเจอ ด็อพเพิลเก็งเงอร์ ก็ได้มั้งครับ “
” แค่ล้อเล่นน่ะครับ “
“ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมเรียนในเมืองน่ะครับ แต่ช่วงนี้โรงเรียนมันปิดปรับปรุงใหญ่น่ะครับ ไอ้นั่นไงครับ เรียนออนไลน์ชั่วคราวน่ะ “
ยิ้มรับพรางโบกมือไม้บางๆตาม
“บางทีคุณอาจะเจอ ด็อพเพิลเก็งเงอร์ ก็ได้มั้งครับ “
” แค่ล้อเล่นน่ะครับ “
“ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมเรียนในเมืองน่ะครับ แต่ช่วงนี้โรงเรียนมันปิดปรับปรุงใหญ่น่ะครับ ไอ้นั่นไงครับ เรียนออนไลน์ชั่วคราวน่ะ “
สายตาของเขาเองก็จับจ้องคนตรงหน้าไม่พัก
คนที่เดินอย่างเบาบาง
คนที่มีตัวตนอย่างเบาบางเมื่อครู่ แต่ดวงตาสีแดงนั่นจากอีกฝ่ายมันทำให้ที่นี่ดูหนักขึ้นผิดกับเมื่อกี้
" ฮ่าฮ่า ผมไม่เคยเรียนที่ไทเฮย์หรอกนะครับคุณผู้หญิง "
ดวงตาสีแดงของเขาเองก็ถูกเปลือกตานั้นกลืนไปพร้อมกับรอยยิ้ม
.
.
.
ช่างเป็นการพบกันที่พิลึกจริงๆของตัวตนสีเลือดนี้
" งั้นคุณอยากจะแนะนำผมเป็นที่ไหนดีครับ "
พูดอย่างอ่อนน้อม
สายตาของเขาเองก็จับจ้องคนตรงหน้าไม่พัก
คนที่เดินอย่างเบาบาง
คนที่มีตัวตนอย่างเบาบางเมื่อครู่ แต่ดวงตาสีแดงนั่นจากอีกฝ่ายมันทำให้ที่นี่ดูหนักขึ้นผิดกับเมื่อกี้
" ฮ่าฮ่า ผมไม่เคยเรียนที่ไทเฮย์หรอกนะครับคุณผู้หญิง "
ดวงตาสีแดงของเขาเองก็ถูกเปลือกตานั้นกลืนไปพร้อมกับรอยยิ้ม
.
.
.
ช่างเป็นการพบกันที่พิลึกจริงๆของตัวตนสีเลือดนี้
" งั้นคุณอยากจะแนะนำผมเป็นที่ไหนดีครับ "
พูดอย่างอ่อนน้อม
ได้เพียงแต่ไม่เอ่ยคำใดๆอีก เพราะว่าในเวลานี้พวกเขาได้แยกออกจากกันเป็นที่เรียบร้อย
(ขอบคุณสำหรับการโรลที่ยาวนานหลายชั่วโมงนะคะสนุกมากเลยค่ะ5555)
ได้เพียงแต่ไม่เอ่ยคำใดๆอีก เพราะว่าในเวลานี้พวกเขาได้แยกออกจากกันเป็นที่เรียบร้อย
(ขอบคุณสำหรับการโรลที่ยาวนานหลายชั่วโมงนะคะสนุกมากเลยค่ะ5555)
" ก็กลับไปหาบ้านตัวเองได้ตลอดนั่นแหละ "
•
•
•
" คุณเองก็ระวังตัวนะครับ อาจะมีผีก็ได้นะครับ "
พูดส่งเสียงอย่างเป็นมิตร
"ผมเองก็หวังว่าคุณโอโตะวะจะกลับไปอย่างปลอดภัยนะครับ"
คนแปลกหน้า ไม่สิตอนนี้ ต้องเรียกอะไรนะ คนรู้จักสินะ อย่างไรเสียในเมื่อได้รู้จักกันครั้งแล้วเราก็อาจะได้พบกันที่ไหนสักที่อีก เพราะเส้นทางที่มันได้เคยมาบรรจบกันแล้ว
" ก็กลับไปหาบ้านตัวเองได้ตลอดนั่นแหละ "
•
•
•
" คุณเองก็ระวังตัวนะครับ อาจะมีผีก็ได้นะครับ "
พูดส่งเสียงอย่างเป็นมิตร
"ผมเองก็หวังว่าคุณโอโตะวะจะกลับไปอย่างปลอดภัยนะครับ"
คนแปลกหน้า ไม่สิตอนนี้ ต้องเรียกอะไรนะ คนรู้จักสินะ อย่างไรเสียในเมื่อได้รู้จักกันครั้งแล้วเราก็อาจะได้พบกันที่ไหนสักที่อีก เพราะเส้นทางที่มันได้เคยมาบรรจบกันแล้ว
ขณะกำลังทวนชื่ออีกฝ่ายอยู่นามนั้นก็ถูกกลืนลงคอไป อันด้วยความตะลึงที่อีกคนเอ่ยปากออกมาอีกครั้ง
แต่คราวนี้บรรยากาศมันต่างไปกับตอนแรกเลยหล่ะ ที่เขาได้ยินคำที่ไม่คิดว่าจะได้ยินออกมา
" ห๊ะ "
" ฉันโตพอที่จะไปไหนเองต่างหากล่ะ "
ทำเอาสรรพนามคำว่าผมที่ดูเป็นผู้น้อยตะกี้หล่นหายไปเลยแหะ
"อะหึ้ม–"
"โอโตะวะ ซัทสึกิ"
"โอโตะวะ ซัทสึกิ"
"ผมจำชื่อคุณไว้แล้วหล่ะครับคุณโอโตะวะ"
ขณะกำลังทวนชื่ออีกฝ่ายอยู่นามนั้นก็ถูกกลืนลงคอไป อันด้วยความตะลึงที่อีกคนเอ่ยปากออกมาอีกครั้ง
แต่คราวนี้บรรยากาศมันต่างไปกับตอนแรกเลยหล่ะ ที่เขาได้ยินคำที่ไม่คิดว่าจะได้ยินออกมา
" ห๊ะ "
" ฉันโตพอที่จะไปไหนเองต่างหากล่ะ "
ทำเอาสรรพนามคำว่าผมที่ดูเป็นผู้น้อยตะกี้หล่นหายไปเลยแหะ
"อะหึ้ม–"
"โอโตะวะ ซัทสึกิ"
"โอโตะวะ ซัทสึกิ"
"ผมจำชื่อคุณไว้แล้วหล่ะครับคุณโอโตะวะ"
หันสายหันขวา
" ริโอะ เอย์ชิน ครับ "
เขาเอามือป้องปากพลางบอกด้วยความสนุก
" คุณล่ะครับ ? "
การแลกเปลี่ยน แม้เป็นเพียงแค่นาม แต่นี่คงเป็นจุดพูดคุยเล็กๆที่ทำให้บรรยากาศหนักๆของทั้งคู่ดูบางลง จะอะไรก็ตาม อย่างน้อยก็คงมีเขาคนหนึ่งที่คิดว่าการได้พูดคุยกับคนตรงหน้านั้นแตกต่างจากคนที่เมือง เกาะไทเฮย์เนี่ยแปลกจริงๆ คนตรงหน้าเขาเองก็แปลกหน่อยๆ แต่เขาชอบที่มันเป็นแบบนั้นนะ
หันสายหันขวา
" ริโอะ เอย์ชิน ครับ "
เขาเอามือป้องปากพลางบอกด้วยความสนุก
" คุณล่ะครับ ? "
การแลกเปลี่ยน แม้เป็นเพียงแค่นาม แต่นี่คงเป็นจุดพูดคุยเล็กๆที่ทำให้บรรยากาศหนักๆของทั้งคู่ดูบางลง จะอะไรก็ตาม อย่างน้อยก็คงมีเขาคนหนึ่งที่คิดว่าการได้พูดคุยกับคนตรงหน้านั้นแตกต่างจากคนที่เมือง เกาะไทเฮย์เนี่ยแปลกจริงๆ คนตรงหน้าเขาเองก็แปลกหน่อยๆ แต่เขาชอบที่มันเป็นแบบนั้นนะ