DOC : https://bit.ly/4hVaBY8
“แค่คิดว่าา ....ริงโกะแต่งอะไรก็ดูดีไปหมดเลย แฮะ-”
หันไปหลบสายตาอีกคน จริงๆเขาก็ไม่ได้เก่งเริ่องแฟชั่นนัก แต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบสะทีเดียว
“อ่า ยังไงก็ขอบคุณที่มาด้วยนะ-”
ดีใจไม่น้อยที่อีกคนมาจริงๆ
“แค่คิดว่าา ....ริงโกะแต่งอะไรก็ดูดีไปหมดเลย แฮะ-”
หันไปหลบสายตาอีกคน จริงๆเขาก็ไม่ได้เก่งเริ่องแฟชั่นนัก แต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบสะทีเดียว
“อ่า ยังไงก็ขอบคุณที่มาด้วยนะ-”
ดีใจไม่น้อยที่อีกคนมาจริงๆ
เพียงแค่อีกคนพูดกลับมาแบบนั้น กลับทำให้เขาดีใจจนยิ้มค่อยๆออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
”อื้ม-“
”ฉันจะรออยู่หน้าหอพักเวลา5โมงนะ”
สีหน้ายิ้มระรื่นดีใจจนพูดทั้งที่ยิ้มอยู่แบบนั้น
เพียงแค่อีกคนพูดกลับมาแบบนั้น กลับทำให้เขาดีใจจนยิ้มค่อยๆออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
”อื้ม-“
”ฉันจะรออยู่หน้าหอพักเวลา5โมงนะ”
สีหน้ายิ้มระรื่นดีใจจนพูดทั้งที่ยิ้มอยู่แบบนั้น
หันหน้ากลับมาก่อนจะมองพินิจจารณาอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า
”รู้ไหมว่าฉันกับนายจบไปนานแล้ว..“
ปั่ก -!
ก่อนจะกระทืบเท้าอีกคนไปแรงๆก่อนเอามือมาบังหน้าปกปิดใบหน้าขึ้นสีที่ไม่สบอารมณ์ของตน
”…ต แต่ฉันจะไปงานนั้นอยู่แล้ว—!!“
”ไม่ต้องมาชวนก็ไปอยู่แล้ว ก ก็อาจจะบังเอิญเจอ—“
พูดไม่เป็นศัพท์ก่อนรีบหันหลังกลับก่อนจะพูดทิ้งท้าย
+
หันหน้ากลับมาก่อนจะมองพินิจจารณาอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า
”รู้ไหมว่าฉันกับนายจบไปนานแล้ว..“
ปั่ก -!
ก่อนจะกระทืบเท้าอีกคนไปแรงๆก่อนเอามือมาบังหน้าปกปิดใบหน้าขึ้นสีที่ไม่สบอารมณ์ของตน
”…ต แต่ฉันจะไปงานนั้นอยู่แล้ว—!!“
”ไม่ต้องมาชวนก็ไปอยู่แล้ว ก ก็อาจจะบังเอิญเจอ—“
พูดไม่เป็นศัพท์ก่อนรีบหันหลังกลับก่อนจะพูดทิ้งท้าย
+
”อึก“ กลืนน้ำลายเสียงดังก่อนจะทำใจถามไป
”ดอกไม้ไฟนี้...“
”ไปกับฉันได้มั้ย“
สายตาลงไปมองแต่พื้น ใบหน้าสีขาวโพลนกับมีแต้มสีแดงบางๆค่อยๆขึ้นมา
”อึก“ กลืนน้ำลายเสียงดังก่อนจะทำใจถามไป
”ดอกไม้ไฟนี้...“
”ไปกับฉันได้มั้ย“
สายตาลงไปมองแต่พื้น ใบหน้าสีขาวโพลนกับมีแต้มสีแดงบางๆค่อยๆขึ้นมา
เขาค่อยๆปล่อยคนตัวเล็กกว่าลงช้า ค่อยๆปล่อยขาทีละข้าง
“เดินกลับห้องดีๆนะ” ยังคงห่วงว่าอีกคนจะไปล้มอีก
“...”
“...”
ปล่อยอีกคนเดินกลับ
“เอ่อ... ริงโกะ!”
เขาค่อยๆปล่อยคนตัวเล็กกว่าลงช้า ค่อยๆปล่อยขาทีละข้าง
“เดินกลับห้องดีๆนะ” ยังคงห่วงว่าอีกคนจะไปล้มอีก
“...”
“...”
ปล่อยอีกคนเดินกลับ
“เอ่อ... ริงโกะ!”
”ไม่แน่ใจหรอก...“
”มีแต่ต้องพยายามเท่านั้นแหละ....เพราะถ้าไม่พยายามให้รู้ก็ไม่รู้ใช่มั้ยล่ะ...“
คำพูดที่ดูเรียบเฉยแต่ออกมาจากใจจริง เขาเองก็ไม่ใช่คนชอบพูดโกหกอยู่แล้ว ทุกคำพูดจึงมีน้ำหนักเสมอ
”ถ้ากลับมาก็คงจะดี...“
”ไม่แน่ใจหรอก...“
”มีแต่ต้องพยายามเท่านั้นแหละ....เพราะถ้าไม่พยายามให้รู้ก็ไม่รู้ใช่มั้ยล่ะ...“
คำพูดที่ดูเรียบเฉยแต่ออกมาจากใจจริง เขาเองก็ไม่ใช่คนชอบพูดโกหกอยู่แล้ว ทุกคำพูดจึงมีน้ำหนักเสมอ
”ถ้ากลับมาก็คงจะดี...“
สิ่งอยากให้กลับมาจริงๆก็อยู่ไม่ไกลแล้ว แค่อยากให้กลับมาแล้วไม่กลับไปเป็นแบบเดิม
‘เอ๊ะ-?‘
“...ร...รู้หรอว่าหมายถึงอะไร” สีหน้าตกใจเล็กน้อยแค่อยากให้แน่ใจว่าเข้าใจถูกมั้ย
สิ่งอยากให้กลับมาจริงๆก็อยู่ไม่ไกลแล้ว แค่อยากให้กลับมาแล้วไม่กลับไปเป็นแบบเดิม
‘เอ๊ะ-?‘
“...ร...รู้หรอว่าหมายถึงอะไร” สีหน้าตกใจเล็กน้อยแค่อยากให้แน่ใจว่าเข้าใจถูกมั้ย
ได้เพียงรับฟังไว้ดีกว่าเยอะ
”อ้ย-” โดนสับหัวเข้าให้
“ขอโทษครับ แฮะๆ-” ถ้ามือไม่ได้อุ้มอีกคนอยู่คงจะเกาหลังคออยู่
‘อยากได้อะไรกลับมา’ทวนคำที่อีกคนพูดในใจครู่เดียว
“เอ๊ะ-!?”
ต้องทวนถึงจะนึกขึ้นได้ ในสีที่ดำและขาวกลับมีสีแดงปรากฏขึ้น ตรงปลายหู
“ก็-...ก็--เอ่อว่าไงดี...--”
“...พวกสิ่งที่รักมั้ง-”
กำกวมสุดๆ
ได้เพียงรับฟังไว้ดีกว่าเยอะ
”อ้ย-” โดนสับหัวเข้าให้
“ขอโทษครับ แฮะๆ-” ถ้ามือไม่ได้อุ้มอีกคนอยู่คงจะเกาหลังคออยู่
‘อยากได้อะไรกลับมา’ทวนคำที่อีกคนพูดในใจครู่เดียว
“เอ๊ะ-!?”
ต้องทวนถึงจะนึกขึ้นได้ ในสีที่ดำและขาวกลับมีสีแดงปรากฏขึ้น ตรงปลายหู
“ก็-...ก็--เอ่อว่าไงดี...--”
“...พวกสิ่งที่รักมั้ง-”
กำกวมสุดๆ
เขาจับขาเธอแน่นจับให้กระชับไม่อยากให้เธอต้องล่วงหรือบาดเจ็บอีกครั้ง
“จับไว้แน่นๆนะ...”
ถึงจะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนแต่กลับรู้สึกคิดถึงอย่างบอกไม่ถูก
เขารู้สึกเหมือนได้รับรางวัลเลย
“...”
“นี่-... ทำไมถึงมาคนเดียวหล่ะ”
เขาจับขาเธอแน่นจับให้กระชับไม่อยากให้เธอต้องล่วงหรือบาดเจ็บอีกครั้ง
“จับไว้แน่นๆนะ...”
ถึงจะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนแต่กลับรู้สึกคิดถึงอย่างบอกไม่ถูก
เขารู้สึกเหมือนได้รับรางวัลเลย
“...”
“นี่-... ทำไมถึงมาคนเดียวหล่ะ”
”เอ้า-”
ยื่นช็อกโกแลตรสแอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาฃให้อีกคน เขาพกเป็นปกติ
“ขึ้นหลังมั้ย?”
เดินไปย่อตรงหน้าอีกคนแล้วหันหน้ามาถาม
ท่าทีแบบนั้นทำไมกลับยิ่งทำให้รู้สึกเป็นห่วง
”เอ้า-”
ยื่นช็อกโกแลตรสแอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาฃให้อีกคน เขาพกเป็นปกติ
“ขึ้นหลังมั้ย?”
เดินไปย่อตรงหน้าอีกคนแล้วหันหน้ามาถาม
ท่าทีแบบนั้นทำไมกลับยิ่งทำให้รู้สึกเป็นห่วง
ตอบไปก็คงดีกว่าเก็บเงียบ
“นั่นสิ..ไม่สมเป็นฉันเลย....”
ยังยืนอยู่ข้างๆม้านั่ง ไม่ไกลจากอีกคน
“คงจะไม่อยากพลาดอีกรอบมั้ง-”
พอเห็นท้าล้มอีกคนก็เอาแต่ภาพซ้อนเรื่องเก่าขึ้นมา
”แค่รู้สึกว่า ไม่อยากทิ้งไป..มั้ง....“
เป็นความรู้สึกที่ยากจะเกิดขึ้นกับเขา แต่เพราะอะไรถึงเกิดขึ้นกัน
ตอบไปก็คงดีกว่าเก็บเงียบ
“นั่นสิ..ไม่สมเป็นฉันเลย....”
ยังยืนอยู่ข้างๆม้านั่ง ไม่ไกลจากอีกคน
“คงจะไม่อยากพลาดอีกรอบมั้ง-”
พอเห็นท้าล้มอีกคนก็เอาแต่ภาพซ้อนเรื่องเก่าขึ้นมา
”แค่รู้สึกว่า ไม่อยากทิ้งไป..มั้ง....“
เป็นความรู้สึกที่ยากจะเกิดขึ้นกับเขา แต่เพราะอะไรถึงเกิดขึ้นกัน
ระหว่างอีกคนพูดก็ไม่ได้ตอบอะไรเพียงรับฟังจนกระทั่งอีกคนเริ่มดิ้น
เขาแค่ไม่อยากให้ตัวเองทำให้วันนี้เป็นวันที่แย่ของอีกคน
ก่อนจะมาหยุดที่ตรงม้านั่งเล็กใกล้ๆ คนไม่ได้น้อยมากแต่ก็โล่งกว่าข้างใน
”ก็...เล่นล้มขนาดนั้นจะเดินไหวได้ไงเล่า”
“และก็เหตุผลส่วนตัวด้วย...“
”ให้แบกขึ้นหลังกลับมั้ยล่ะ?“ เปลี่ยนเริ่องทันที
สีหน้ายังคงเป็นห่วง
ระหว่างอีกคนพูดก็ไม่ได้ตอบอะไรเพียงรับฟังจนกระทั่งอีกคนเริ่มดิ้น
เขาแค่ไม่อยากให้ตัวเองทำให้วันนี้เป็นวันที่แย่ของอีกคน
ก่อนจะมาหยุดที่ตรงม้านั่งเล็กใกล้ๆ คนไม่ได้น้อยมากแต่ก็โล่งกว่าข้างใน
”ก็...เล่นล้มขนาดนั้นจะเดินไหวได้ไงเล่า”
“และก็เหตุผลส่วนตัวด้วย...“
”ให้แบกขึ้นหลังกลับมั้ยล่ะ?“ เปลี่ยนเริ่องทันที
สีหน้ายังคงเป็นห่วง
ถึงแรงผลักจะไม่ทำให้เจ็บแต่กลับสะเทือนใจเขา
ถ้าให้คิดได้อีกครั้งว่าเขาทั้งคู่จบกันไปแล้ว
??!!
ก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าเหตุการณ์มันคุ้น พอเขาเห็นคนตรงหน้าล้มอีกรอบ เขาก็พุ่งตัวไปหาทันที
“พอได้แล้วน่าา-”
ก่อนจะอุ้มอีกคนขึ้นเพื่อเดินออกจากฝูงชนไปหาที่นั่งพักใกล้
ถึงแรงผลักจะไม่ทำให้เจ็บแต่กลับสะเทือนใจเขา
ถ้าให้คิดได้อีกครั้งว่าเขาทั้งคู่จบกันไปแล้ว
??!!
ก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าเหตุการณ์มันคุ้น พอเขาเห็นคนตรงหน้าล้มอีกรอบ เขาก็พุ่งตัวไปหาทันที
“พอได้แล้วน่าา-”
ก่อนจะอุ้มอีกคนขึ้นเพื่อเดินออกจากฝูงชนไปหาที่นั่งพักใกล้
?!!
ไม่ทันขาดคำเขาอีกคนก็ล้มไป ก่อนจะรีบไปรอประคองอีกคน แต่เพราะไม่ทันตั้งตัวอีกคนล้มไปก่อน
”ลุกไหวมั้ยเนี่ย?-“
เขายื่นมือไปรอรับอีกคนเพื่อรอดึงขึ้น
?!!
ไม่ทันขาดคำเขาอีกคนก็ล้มไป ก่อนจะรีบไปรอประคองอีกคน แต่เพราะไม่ทันตั้งตัวอีกคนล้มไปก่อน
”ลุกไหวมั้ยเนี่ย?-“
เขายื่นมือไปรอรับอีกคนเพื่อรอดึงขึ้น
“เอ่องั้นน กลับเองไหวมั้ยล่ะ..?”
คิดสักสักพักก่อนจะพูดถามไป เขาเกาแก้มเล็กน้อย
เขาอยากจะอยู่กับเธอสักพัก ยังคงห่วงทั้งทางกลับและ’รองเท้า‘ที่เธออาจจะไม่ชิน
“เอ่องั้นน กลับเองไหวมั้ยล่ะ..?”
คิดสักสักพักก่อนจะพูดถามไป เขาเกาแก้มเล็กน้อย
เขาอยากจะอยู่กับเธอสักพัก ยังคงห่วงทั้งทางกลับและ’รองเท้า‘ที่เธออาจจะไม่ชิน
ก่อนจะผูกกับกิ่งไผ่ข้างๆกับอีกคน
“จะกลับเลยมั้ย?...“
ก่อนจะผูกกับกิ่งไผ่ข้างๆกับอีกคน
“จะกลับเลยมั้ย?...“
ตกใจนิดหน่อยแต่ตัวเซไปข้างๆไม่ไกล ลูบๆเอวเล็กน้อย
‘ไม่เปลี่ยนเลยแฮะ‘ นิสัยเข้าใจยากของอีกคนยังคงน่าคิดถึง
“อะ-”
“ขอบคุณคับ” รับกระดาษอีกคนมา ใจเขาชื้นขึ้นทันตา
อีกคนยื่นกระดาษสีเหลืองให้ ถึงจริงเขาจะอยากได้สีขาว แต่ไม่พูดไปจะดีกว่า
+
ตกใจนิดหน่อยแต่ตัวเซไปข้างๆไม่ไกล ลูบๆเอวเล็กน้อย
‘ไม่เปลี่ยนเลยแฮะ‘ นิสัยเข้าใจยากของอีกคนยังคงน่าคิดถึง
“อะ-”
“ขอบคุณคับ” รับกระดาษอีกคนมา ใจเขาชื้นขึ้นทันตา
อีกคนยื่นกระดาษสีเหลืองให้ ถึงจริงเขาจะอยากได้สีขาว แต่ไม่พูดไปจะดีกว่า
+
“งั้นไม่ยุ่งก็ได้...”
น้ำเสียงดูแผ่วเบาลงจากตะกี้นิดหน่อย ถึงจะแอบห่วงเล็กน้อย แต่ก็เดินออกไปช้าๆ เหมือนจะเสียดายที่เข้าไปทัก
‘แล้วจะขยำทำไมนั่น‘ เหลือบไปเห็นอีกคนคลี่กระดาษมาผูกใหม่ก็อดสงสัยไม่ได้
แต่ก็ไม่ได้พูดถึงแต่อย่างใด
เขาเดินไปเหมือนจะมุ่งไปทางที่รับกระดาษ
“งั้นไม่ยุ่งก็ได้...”
น้ำเสียงดูแผ่วเบาลงจากตะกี้นิดหน่อย ถึงจะแอบห่วงเล็กน้อย แต่ก็เดินออกไปช้าๆ เหมือนจะเสียดายที่เข้าไปทัก
‘แล้วจะขยำทำไมนั่น‘ เหลือบไปเห็นอีกคนคลี่กระดาษมาผูกใหม่ก็อดสงสัยไม่ได้
แต่ก็ไม่ได้พูดถึงแต่อย่างใด
เขาเดินไปเหมือนจะมุ่งไปทางที่รับกระดาษ
เขาเอามือมาป้องๆตรงหน้าท่าทีที่เชื่องช้าและเหมือนไม่ได้เจตนาร้าย
“ขอโทษที...แค่บังเอิญผ่านมาน่ะ..”
เขาเกาหลังคอเบาเหมือนพยายามนึกคำพูด
“ว่าแต่วันนี้มากับใครหรอ?”
เขาเอามือมาป้องๆตรงหน้าท่าทีที่เชื่องช้าและเหมือนไม่ได้เจตนาร้าย
“ขอโทษที...แค่บังเอิญผ่านมาน่ะ..”
เขาเกาหลังคอเบาเหมือนพยายามนึกคำพูด
“ว่าแต่วันนี้มากับใครหรอ?”
เขาถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนอีกฝ่ายจะพูดจนจบ เขายังคงคิดว่าเขาควรจะทักมั้ย
’แต่ถ้าไม่ทัก อาจจะไม่ได้เจอเธอแบบนี้อีกก็ได้‘คิดในใจกับสีหน้าที่เรียบเฉย
“...”
“อ่า..” เสียงและลมหายใจแผ่วเบาค่อยๆออกมา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรับรู้มั้ย
เขาถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนอีกฝ่ายจะพูดจนจบ เขายังคงคิดว่าเขาควรจะทักมั้ย
’แต่ถ้าไม่ทัก อาจจะไม่ได้เจอเธอแบบนี้อีกก็ได้‘คิดในใจกับสีหน้าที่เรียบเฉย
“...”
“อ่า..” เสียงและลมหายใจแผ่วเบาค่อยๆออกมา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรับรู้มั้ย
พูดชื่อพรางเอามือปิดหูหนึ่งข้างเหมือนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“...”
เขาถอนหายใจพร้อมลุกขึ้นยืนก่อนจะมองไปอีกทาง
“งั้นไปก็ได้-....”
แต่ยังคงยืนมองโรงเรียนอยู่แบบนั้น
พูดชื่อพรางเอามือปิดหูหนึ่งข้างเหมือนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“...”
เขาถอนหายใจพร้อมลุกขึ้นยืนก่อนจะมองไปอีกทาง
“งั้นไปก็ได้-....”
แต่ยังคงยืนมองโรงเรียนอยู่แบบนั้น
ป้ก-!
เสียงดีดหน้าผากดังขึ้นถึงจะไม่ได้แรงนักแต่คงทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวได้
แต่คาดไว้ว่าคงไม่พ้นโดนบ่นแน่ แต่ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีนัก
ป้ก-!
เสียงดีดหน้าผากดังขึ้นถึงจะไม่ได้แรงนักแต่คงทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวได้
แต่คาดไว้ว่าคงไม่พ้นโดนบ่นแน่ แต่ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีนัก