(ทัก/โรล/โค/เวิ่น > DM👌)
(โพสต์ลอยตอบกลับได้)
--------------
千利海 (Chitoshi Kai)
3-J | ชมรมเบสบอล | 5ストライター
หูตึงระดับปานกลาง | ผู้มีสัมผัสพิเศษ
📱SNS. Chitoichan
อย่างเช่นว่าเธออาจจะไม่ชอบดอกซากุระ?
ในฐานะที่เป็นนักเขียนด้วยแล้ว— จำได้ว่าซากุระไม่ใช่แค่หมายถึงการเริ่มต้นใหม่ แต่ก็หมายถึงความงามอันเปราะบาง
ซึ่งความหมายไม่ค่อยดีเลยแหะ
"ถ้าเป็นซากุระไม่ได้.."
เขาหยุดชะงักอย่างครุ่นคิด มองดูสีของดวงตาเธออีกครั้งอย่างพินิจพิจารณาจริงจัง
"งั้นเป็นโบตั๋นไหมล่ะ สวยเหมือนกันด้วย"
อย่างเช่นว่าเธออาจจะไม่ชอบดอกซากุระ?
ในฐานะที่เป็นนักเขียนด้วยแล้ว— จำได้ว่าซากุระไม่ใช่แค่หมายถึงการเริ่มต้นใหม่ แต่ก็หมายถึงความงามอันเปราะบาง
ซึ่งความหมายไม่ค่อยดีเลยแหะ
"ถ้าเป็นซากุระไม่ได้.."
เขาหยุดชะงักอย่างครุ่นคิด มองดูสีของดวงตาเธออีกครั้งอย่างพินิจพิจารณาจริงจัง
"งั้นเป็นโบตั๋นไหมล่ะ สวยเหมือนกันด้วย"
และสำหรับเขาเองก็หาเหตุผลอันแน่นอนมาประกอบการกระทำเมื่อครู่ของตนไม่ได้เช่นกัน ราวกับว่าจิตสำนึกบอกให้ทำอย่างนั้น และเขาก็ไหลตามใจตน
+
และสำหรับเขาเองก็หาเหตุผลอันแน่นอนมาประกอบการกระทำเมื่อครู่ของตนไม่ได้เช่นกัน ราวกับว่าจิตสำนึกบอกให้ทำอย่างนั้น และเขาก็ไหลตามใจตน
+
เสียงพูดนั้นค่อนข้างดังกว่าปกติแต่ก็ไม่ถึงขั้นตะโกน ฟังเผินๆดูเหมือนจะเป็นการถามคำถาม ทว่าการที่เขาช่วยหยิบเอาของใส่ลังและแบกมันทั้งหมดขึ้นบ่าแสดงให้รู้ว่าคำถามนั้นไม่ได้ต้องการคำตอบ
"เสียงดังขนาดนั้นพวกชั้นล่างกร่นสาปแล้วมั้ง.. รีบๆ เข้ามาเร็วสิ"
เขาใช้เท้าดันประตูให้เปิดอ้าค้างไว้
...เชิญคุณเข้าไปในห้องพักที่อาจจะต้องอาศัย 3 ปีหลังจากนี้
เสียงพูดนั้นค่อนข้างดังกว่าปกติแต่ก็ไม่ถึงขั้นตะโกน ฟังเผินๆดูเหมือนจะเป็นการถามคำถาม ทว่าการที่เขาช่วยหยิบเอาของใส่ลังและแบกมันทั้งหมดขึ้นบ่าแสดงให้รู้ว่าคำถามนั้นไม่ได้ต้องการคำตอบ
"เสียงดังขนาดนั้นพวกชั้นล่างกร่นสาปแล้วมั้ง.. รีบๆ เข้ามาเร็วสิ"
เขาใช้เท้าดันประตูให้เปิดอ้าค้างไว้
...เชิญคุณเข้าไปในห้องพักที่อาจจะต้องอาศัย 3 ปีหลังจากนี้
ประตูที่เปิดกว้างออกเผยให้เห็นเด็กหนุ่มผู้โชคร้าย(?) เขาหาวหวอดออกมาอย่างสบายๆ มือเอื้อมไปยีเส้นผมสีดำของคนแปลกหน้าราวสนิทสนมกันมานาน
+
ประตูที่เปิดกว้างออกเผยให้เห็นเด็กหนุ่มผู้โชคร้าย(?) เขาหาวหวอดออกมาอย่างสบายๆ มือเอื้อมไปยีเส้นผมสีดำของคนแปลกหน้าราวสนิทสนมกันมานาน
+
เพราะยังไงเสีย— คนบนเกาะนี้ล้วนมีบางสิ่งให้เอ๊ะใจแบบแปลก ๆ กัน ไม่ก็หนึ่งหรือสองเรื่องอยู่แล้วไม่ใช่หรือ
เพราะยังไงเสีย— คนบนเกาะนี้ล้วนมีบางสิ่งให้เอ๊ะใจแบบแปลก ๆ กัน ไม่ก็หนึ่งหรือสองเรื่องอยู่แล้วไม่ใช่หรือ
"พี่ชายนี่ก็.. บางทีตอนนี้อาจจะมีสาวน้อยน่ารักหลงทางต้องการความช่วยเหลือจากคุณตำรวจอยู่ก็ได้หนา"
น้ำเสียงที่ใช้พูดนั้นไม่ได้แสดงถึงความกังวลใดๆ เขาพูดทุกอย่างออกจากความคิด แต่กลับไม่พูดถึงบ้านเลยแม้แต่น้อยอย่างแปลกประหลาด
+
"พี่ชายนี่ก็.. บางทีตอนนี้อาจจะมีสาวน้อยน่ารักหลงทางต้องการความช่วยเหลือจากคุณตำรวจอยู่ก็ได้หนา"
น้ำเสียงที่ใช้พูดนั้นไม่ได้แสดงถึงความกังวลใดๆ เขาพูดทุกอย่างออกจากความคิด แต่กลับไม่พูดถึงบ้านเลยแม้แต่น้อยอย่างแปลกประหลาด
+
"พี่ชายคนแรกเลยไล่กันไปกินนมเนี่ย รู้ป่ะ! ขนาดแม่แกยังบอกว่าอย่าไปกินนมเชียว เดียวจะสูงกว่าเสาโทริอิ"
สองเท้าเริ่มก้าวเดินต่อไปตามทางที่คุ้นชินอีกครั้ง ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์พร้อมเช่นใครเขา ทำให้ไม่ได้ยินคำพูดเอ่ยทวนที่ดูเหมือนคล้ายจะติดใจแต่ก็ไม่ออกความเห็นเพิ่มนั้น
+
"พี่ชายคนแรกเลยไล่กันไปกินนมเนี่ย รู้ป่ะ! ขนาดแม่แกยังบอกว่าอย่าไปกินนมเชียว เดียวจะสูงกว่าเสาโทริอิ"
สองเท้าเริ่มก้าวเดินต่อไปตามทางที่คุ้นชินอีกครั้ง ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์พร้อมเช่นใครเขา ทำให้ไม่ได้ยินคำพูดเอ่ยทวนที่ดูเหมือนคล้ายจะติดใจแต่ก็ไม่ออกความเห็นเพิ่มนั้น
+
"ก็ต้องสวยสิ... หรือมีคนบอกว่าไม่สวยกัน?"
เสียงแหบทุ้มหัวเราะออกมาอย่างสบายๆ และพูดต่อ
"เดาว่าคนที่บอกว่าไม่สวยคงแพ้เกสรดอกไม้ล่ะมั้ง ออกจะเหมือนดอกซากุระขนาดนี้ สวยจะตาย"
"ก็ต้องสวยสิ... หรือมีคนบอกว่าไม่สวยกัน?"
เสียงแหบทุ้มหัวเราะออกมาอย่างสบายๆ และพูดต่อ
"เดาว่าคนที่บอกว่าไม่สวยคงแพ้เกสรดอกไม้ล่ะมั้ง ออกจะเหมือนดอกซากุระขนาดนี้ สวยจะตาย"
และเสียงคำถามที่ทวนเอ่ยซ้ำนั้น
— ครั้งนี้เขาได้ยินมันชัดเจน
จิโตะชิยกยิ้มขึ้นอย่างเอ็นดูโดยไม่ปิดบัง เพราะด้วยท่าทาง สีผม สีตา และน้ำเสียงแผ่วเบาของคุณนั้น รวมแล้วชวนให้นึกถึงกระต่ายตัวน้อยอย่างอดไม่ได้
+
และเสียงคำถามที่ทวนเอ่ยซ้ำนั้น
— ครั้งนี้เขาได้ยินมันชัดเจน
จิโตะชิยกยิ้มขึ้นอย่างเอ็นดูโดยไม่ปิดบัง เพราะด้วยท่าทาง สีผม สีตา และน้ำเสียงแผ่วเบาของคุณนั้น รวมแล้วชวนให้นึกถึงกระต่ายตัวน้อยอย่างอดไม่ได้
+
น้ำเสียงลากยาวฟังแล้วดูยียวนกวนประสาทชอบกล แต่ไอ้คนพูดนั้นแค่เอ่ยอย่างติดนิสัย ไม่ได้ว่าไม่เชื่อนายตำรวจตรงหน้าแต่อย่างใด แต่ส่วนอีกฝ่ายจะคิดไง นั้นก็เรื่องหนึ่ง
"ยังไม่ดึกเท่าไรหรอกพี่ชาย เดินได้อีกสักพักเลย"
เจ้าตัวว่าอย่างสบายๆ แถมเนียนตีซี้เรียกพี่ชายตามประสาคนอัธยาศัยดี
"ใครจะว่ากัน เกาะนี้มีแต่คนดีๆทั้งนั้น ไม่มีไรให้น่าห่วงสักหน่อย"
น้ำเสียงลากยาวฟังแล้วดูยียวนกวนประสาทชอบกล แต่ไอ้คนพูดนั้นแค่เอ่ยอย่างติดนิสัย ไม่ได้ว่าไม่เชื่อนายตำรวจตรงหน้าแต่อย่างใด แต่ส่วนอีกฝ่ายจะคิดไง นั้นก็เรื่องหนึ่ง
"ยังไม่ดึกเท่าไรหรอกพี่ชาย เดินได้อีกสักพักเลย"
เจ้าตัวว่าอย่างสบายๆ แถมเนียนตีซี้เรียกพี่ชายตามประสาคนอัธยาศัยดี
"ใครจะว่ากัน เกาะนี้มีแต่คนดีๆทั้งนั้น ไม่มีไรให้น่าห่วงสักหน่อย"
เสียงเอ่ยถามกลับนั้นดังกว่าที่คนทั่วไปจะใช้กัน ซึ่งหากเป็นคนช่างสังเกตคงพอเดาได้ไม่ยากว่าเขามีปัญหาทางการได้ยิน
"โทษที.. พอดีฉันหูไม่ค่อยดีน่ะ ถ้าพูดกับฉันก็ทวนให้หน่อยสิ"
เขาเฉลยในทันทีโดยไม่ปล่อยให้ต้องเดา ก่อนจะโน้มตัวลงเข้าหา โดยยกมือขึ้นป้องหูรอฟังเสียงของเธออย่างตั้งใจ
เสียงเอ่ยถามกลับนั้นดังกว่าที่คนทั่วไปจะใช้กัน ซึ่งหากเป็นคนช่างสังเกตคงพอเดาได้ไม่ยากว่าเขามีปัญหาทางการได้ยิน
"โทษที.. พอดีฉันหูไม่ค่อยดีน่ะ ถ้าพูดกับฉันก็ทวนให้หน่อยสิ"
เขาเฉลยในทันทีโดยไม่ปล่อยให้ต้องเดา ก่อนจะโน้มตัวลงเข้าหา โดยยกมือขึ้นป้องหูรอฟังเสียงของเธออย่างตั้งใจ
เขาเห็นว่าริมฝีปากของเธอนั้นขยับเธอ แต่กลับไม่ได้ยินเสียง จะแว่วก็แค่เสียงของสายลมที่ควรจะเบาแต่กลับดังก้องในโสตประสาทอย่างแปลกประหลาด
+
เขาเห็นว่าริมฝีปากของเธอนั้นขยับเธอ แต่กลับไม่ได้ยินเสียง จะแว่วก็แค่เสียงของสายลมที่ควรจะเบาแต่กลับดังก้องในโสตประสาทอย่างแปลกประหลาด
+
ยกเว้นแต่ว่าหูจะแว่วอีกล่ะนะ
@thksazame.bsky.social
ยกเว้นแต่ว่าหูจะแว่วอีกล่ะนะ
@thksazame.bsky.social
สำหรับจิโตะชิแล้วการเดินเล่นเรื่อยเปื่อยเป็นสิ่งที่ทำอยู่ตลอดและคุ้นเคยในสายตาของคนบนเกาะไทเฮดี เขาแวะพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ กลีบดอกไม้ที่โปรยปรายให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
นัยน์ตาสีเทามองนั้นมองนี้ไปอย่างไม่คิดอะไร กระทั่งสายตาดันเผอิญสบเข้ากับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเข้า
"สีตาสวยจังเลยแหะ.." เพราะหูตึงก็เลยไม่รู้ว่าเผลอหลุดพูดออกมาเสียงเบา เขาคิดว่าตัวเองนั้นคิดในใจ
สำหรับจิโตะชิแล้วการเดินเล่นเรื่อยเปื่อยเป็นสิ่งที่ทำอยู่ตลอดและคุ้นเคยในสายตาของคนบนเกาะไทเฮดี เขาแวะพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ กลีบดอกไม้ที่โปรยปรายให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
นัยน์ตาสีเทามองนั้นมองนี้ไปอย่างไม่คิดอะไร กระทั่งสายตาดันเผอิญสบเข้ากับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเข้า
"สีตาสวยจังเลยแหะ.." เพราะหูตึงก็เลยไม่รู้ว่าเผลอหลุดพูดออกมาเสียงเบา เขาคิดว่าตัวเองนั้นคิดในใจ
แทนที่จะตอบคำถาม กลับเลือกถามกลับด้วยความสงสัยเสียงั้น ก็นะ... สำหรับคนที่เดินเล่นไปเรื่อยบนเกาะ จะรู้ว่าไม่ค่อยมีใครขี่จักรยานเข้าซอยแคบที่เข้า-ออกได้ทางเดียวแบบนี้หรอก
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าอีกฝ่ายคงฝึกอะไรสักอย่างอยู่อยู่แหง
แทนที่จะตอบคำถาม กลับเลือกถามกลับด้วยความสงสัยเสียงั้น ก็นะ... สำหรับคนที่เดินเล่นไปเรื่อยบนเกาะ จะรู้ว่าไม่ค่อยมีใครขี่จักรยานเข้าซอยแคบที่เข้า-ออกได้ทางเดียวแบบนี้หรอก
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าอีกฝ่ายคงฝึกอะไรสักอย่างอยู่อยู่แหง
ระหว่างที่ในหัวคิด 'จะหูแว่วอีกรึเปล่าหว่า'
แสงไฟฉายที่ส่องใส่หน้าทำให้ต้องยกมือขึ้นมาบังตาตัวเองไว้ เขาหรี่ตามอง ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงระดับปกติ แต่สำหรับอีกฝ่ายคงเป็นการตะโกนตอบ
+
ระหว่างที่ในหัวคิด 'จะหูแว่วอีกรึเปล่าหว่า'
แสงไฟฉายที่ส่องใส่หน้าทำให้ต้องยกมือขึ้นมาบังตาตัวเองไว้ เขาหรี่ตามอง ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงระดับปกติ แต่สำหรับอีกฝ่ายคงเป็นการตะโกนตอบ
+
สองเท้าเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ไม่สิ-จะเรียกว่าไร้จุดหมายก็ไม่ถูกนัก อันที่จริงแล้วจิโตะชินั้นจะต้องกลับเข้าหอก่อนเวลา3ทุ่มด้วยซ้ำ แต่ดันเดินเล่นเพลินไปหน่อยจนรู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเลยมาปานนี้
และเมื่อกลับหอไม่ได้ยังไงก็คงต้องกลับบ้านแทน เลยเดินตัดซอยเข้ามาที่หมู่บ้านยาดากาอิอย่างคุ้นเคย ตามประสาคนอยู่เกาะไทเฮแต่เกิด
+
สองเท้าเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ไม่สิ-จะเรียกว่าไร้จุดหมายก็ไม่ถูกนัก อันที่จริงแล้วจิโตะชินั้นจะต้องกลับเข้าหอก่อนเวลา3ทุ่มด้วยซ้ำ แต่ดันเดินเล่นเพลินไปหน่อยจนรู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเลยมาปานนี้
และเมื่อกลับหอไม่ได้ยังไงก็คงต้องกลับบ้านแทน เลยเดินตัดซอยเข้ามาที่หมู่บ้านยาดากาอิอย่างคุ้นเคย ตามประสาคนอยู่เกาะไทเฮแต่เกิด
+