(บวกได้ทุกโรล เนียนรู้จักได้เฉพาะบางคน)
☁️ : bit.ly/3VqaMST ( อัพเดตเรื่อยๆ ) / Status&main profile
ก่อนจะโค้งหัวให้เล็กน้อย
“ขอบคุณสำหรับรางวัลนะครับ..”
ก่อนจะโค้งหัวให้เล็กน้อย
“ขอบคุณสำหรับรางวัลนะครับ..”
จิ้มหยิบชิ้นที่คุณพนักงานให้มาอย่างช้าๆ ดูและมองสำรวจรอบๆวงกลมของชิ้นนี้ดูก่อน ก่อนจะเป่าเบาๆให้ลงจากนั้นก็เอาเข้าปากก่อนจะค่อย ๆ เคี้ยว
“…..?”
“เป็นรสเนื้อผสมหมูสินะครับ..”
“อร่อยมาก ๆเลยครับ”
จากนั้นก็คลี่ยิ้มเล็ก ๆ
จิ้มหยิบชิ้นที่คุณพนักงานให้มาอย่างช้าๆ ดูและมองสำรวจรอบๆวงกลมของชิ้นนี้ดูก่อน ก่อนจะเป่าเบาๆให้ลงจากนั้นก็เอาเข้าปากก่อนจะค่อย ๆ เคี้ยว
“…..?”
“เป็นรสเนื้อผสมหมูสินะครับ..”
“อร่อยมาก ๆเลยครับ”
จากนั้นก็คลี่ยิ้มเล็ก ๆ
ก็จริงอย่างว่า ว่าถ้าคิดมากไปจะเที่ยวไม่สนุกเอา มาเที่ยวแท้ ๆ เลยนี่นา
อุส่าห์มีโอกาสแบบนี้ทั้งที
"ง่ำ"
ค้อมตัวไปงับลูกชิ้นมาโดยไม่ให้ริมฝีปากสัมผัสโดนปลายตะเกียบ
"ตังเพื่อน.. อร่อยจัง"
มีเสียงหัวเราะรอดออกมาเบา ๆ
ก็จริงอย่างว่า ว่าถ้าคิดมากไปจะเที่ยวไม่สนุกเอา มาเที่ยวแท้ ๆ เลยนี่นา
อุส่าห์มีโอกาสแบบนี้ทั้งที
"ง่ำ"
ค้อมตัวไปงับลูกชิ้นมาโดยไม่ให้ริมฝีปากสัมผัสโดนปลายตะเกียบ
"ตังเพื่อน.. อร่อยจัง"
มีเสียงหัวเราะรอดออกมาเบา ๆ
“งั้น..ผมขอเล่นเกมลอง 1 รอบก่อนก็ได้ครับ..”
ดูตอบไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่แต่ก็อยากลองนะ
“งั้น..ผมขอเล่นเกมลอง 1 รอบก่อนก็ได้ครับ..”
ดูตอบไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่แต่ก็อยากลองนะ
“ไว้คราวหน้าเรามาคุยกันอีกครั้งนะครับ”
“ไว้คราวหน้าเรามาคุยกันอีกครั้งนะครับ”
ท่าทางเหมือนเพิ่งนึกเรื่องสำคัญบางอย่างออก—ไหล่เขากระตุกนิด ๆ
“…อ๊ะ”
เสียงหลุดเบาเหมือนคนเพิ่งจำอะไรได้จริง ๆ
เขาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า รีบแต่ไม่ถึงกับลน ก่อนหันกลับมาหาไคโตะอีกครั้ง
“ผมต้องไปช่วยที่บ้านนิดหน่อยน่ะครับ…”
น้ำเสียงฟังดูเกรงใจเล็กน้อย เหมือนรู้สึกผิดนิด ๆ ที่ต้องตัดบททันที
+
ท่าทางเหมือนเพิ่งนึกเรื่องสำคัญบางอย่างออก—ไหล่เขากระตุกนิด ๆ
“…อ๊ะ”
เสียงหลุดเบาเหมือนคนเพิ่งจำอะไรได้จริง ๆ
เขาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า รีบแต่ไม่ถึงกับลน ก่อนหันกลับมาหาไคโตะอีกครั้ง
“ผมต้องไปช่วยที่บ้านนิดหน่อยน่ะครับ…”
น้ำเสียงฟังดูเกรงใจเล็กน้อย เหมือนรู้สึกผิดนิด ๆ ที่ต้องตัดบททันที
+
จากนั้นเขายืนขึ้นเต็มความสูง ปัดฝุ่นบนกางเกงเล็กน้อยก่อนเอ่ยด้วยท่าทีนุ่มนวลเช่นเดิม
“ถ้าอย่างนั้น…ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
พูดจบจึงโค้งให้เบา ๆ แล้วค่อย ๆ ขยับออกไปอย่างเป็นมารยาท—
จากนั้นเขายืนขึ้นเต็มความสูง ปัดฝุ่นบนกางเกงเล็กน้อยก่อนเอ่ยด้วยท่าทีนุ่มนวลเช่นเดิม
“ถ้าอย่างนั้น…ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
พูดจบจึงโค้งให้เบา ๆ แล้วค่อย ๆ ขยับออกไปอย่างเป็นมารยาท—
เหมือนคำชมทั้งหมดทำให้เขาตั้งตัวไม่ค่อยถูก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ตอนเธอมองเข้าในตาเขาตรง ๆ เขาเลี่ยงสายตาไปชั่วขณะหนึ่ง
ก่อนจะสูดลมหายใจเบา ๆ แล้วเงยหน้ากลับมามองอย่างสุภาพ
“…ครับ”
น้ำเสียงดูเกรงใจ แต่ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
+
เหมือนคำชมทั้งหมดทำให้เขาตั้งตัวไม่ค่อยถูก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ตอนเธอมองเข้าในตาเขาตรง ๆ เขาเลี่ยงสายตาไปชั่วขณะหนึ่ง
ก่อนจะสูดลมหายใจเบา ๆ แล้วเงยหน้ากลับมามองอย่างสุภาพ
“…ครับ”
น้ำเสียงดูเกรงใจ แต่ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
+
“ผมไม่มีอะไรที่แพ้เป็นพิเศษหรอกครับ..”
ส่ายหน้าเบา ๆ
“ผมไม่มีอะไรที่แพ้เป็นพิเศษหรอกครับ..”
ส่ายหน้าเบา ๆ
“ได้รับแล้วครับ..ขอบคุณนะครับ“
จากนั้นก็เก็บมือถือใส่กระเป๋าอย่างเคยแล้วหันไปยิ้มบาง
“ถ้ายังไงมีอะไรให้ช่วยทักมาได้เสมอนะครับ”
“ได้รับแล้วครับ..ขอบคุณนะครับ“
จากนั้นก็เก็บมือถือใส่กระเป๋าอย่างเคยแล้วหันไปยิ้มบาง
“ถ้ายังไงมีอะไรให้ช่วยทักมาได้เสมอนะครับ”
“ดีแล้วครับ…ถ้าล้างสะอาดก็ไม่น่าห่วงแล้วครับ”
พอเธอถามต่อทำเอาเงยหน้าแบบเลิกลั่กเล็กน้อย
“ไม่เลยครับ.. ไม่เสียเวลาเลย ผมแค่เดินเล่นอยู่แถวนี้เหมือนกันน่ะ”
“…ผมดีใจที่ช่วยได้มากกว่าครับ”
“ดีแล้วครับ…ถ้าล้างสะอาดก็ไม่น่าห่วงแล้วครับ”
พอเธอถามต่อทำเอาเงยหน้าแบบเลิกลั่กเล็กน้อย
“ไม่เลยครับ.. ไม่เสียเวลาเลย ผมแค่เดินเล่นอยู่แถวนี้เหมือนกันน่ะ”
“…ผมดีใจที่ช่วยได้มากกว่าครับ”
ดวงตากะพริบหนึ่งครั้งราวกับตั้งตัวไม่ถูก ก่อนจะรีบส่ายหน้าเบา ๆ
“มะ–ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ..”
น้ำเสียงฟังดูตกใจเล็กน้อยแต่จริงใจ
เหมือนจะรีบปฏิเสธเพราะกลัวอีกฝ่ายเข้าใจผิด
“แค่…ยังไม่ค่อยชินเฉย ๆ ครับ ผมไม่ค่อยมีคนเรียกแบบนั้นเท่าไหร่”
พูดจบก็หลุบตาลงเล็กน้อย ท่าทีเหมือนคนเกรงใจมากกว่า
+
ดวงตากะพริบหนึ่งครั้งราวกับตั้งตัวไม่ถูก ก่อนจะรีบส่ายหน้าเบา ๆ
“มะ–ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ..”
น้ำเสียงฟังดูตกใจเล็กน้อยแต่จริงใจ
เหมือนจะรีบปฏิเสธเพราะกลัวอีกฝ่ายเข้าใจผิด
“แค่…ยังไม่ค่อยชินเฉย ๆ ครับ ผมไม่ค่อยมีคนเรียกแบบนั้นเท่าไหร่”
พูดจบก็หลุบตาลงเล็กน้อย ท่าทีเหมือนคนเกรงใจมากกว่า
+
ชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อของตัวเองขึ้นมา
ก่อนจะหันไปหา
“สวัสดีครับฮิกาชิซากุระซัง..”ผงักหัวให้เล็กน้อย พออีกคนชวนก็ทำเอาครุ่นคิดเล็กน้อยอย่างไม่แน่ใจ
“..ผมไม่มั่นใจเท่าไหร่เลยครับ..”
ชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อของตัวเองขึ้นมา
ก่อนจะหันไปหา
“สวัสดีครับฮิกาชิซากุระซัง..”ผงักหัวให้เล็กน้อย พออีกคนชวนก็ทำเอาครุ่นคิดเล็กน้อยอย่างไม่แน่ใจ
“..ผมไม่มั่นใจเท่าไหร่เลยครับ..”
“ดีขึ้นหน่อยไหมครับ…?”
น้ำเสียงฟังดูห่วง แต่ก็ยังสุภาพและเกรงใจตามนิสัยเดิมของเขา
“ดีขึ้นหน่อยไหมครับ…?”
น้ำเสียงฟังดูห่วง แต่ก็ยังสุภาพและเกรงใจตามนิสัยเดิมของเขา
ไม่ใช่เพราะไม่พอใจ—แต่เพราะไม่คุ้นชินมากกว่า
ดวงตาทาคุมิไหวเล็กน้อยเหมือนประหลาดใจเพราะอีกฝ่ายยิ้มใส่มาก—จนเขาเองเผลอขยับท่าทีให้สุภาพขึ้นกว่าเดิมอีกนิด
“ฮิกาชิซากุระ…ซัง”
เขาเรียกชื่ออย่างระวัง กลัวออกเสียงผิด แต่ก็ยังคงน้ำเสียงสุภาพเดิม
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับ”
+
ไม่ใช่เพราะไม่พอใจ—แต่เพราะไม่คุ้นชินมากกว่า
ดวงตาทาคุมิไหวเล็กน้อยเหมือนประหลาดใจเพราะอีกฝ่ายยิ้มใส่มาก—จนเขาเองเผลอขยับท่าทีให้สุภาพขึ้นกว่าเดิมอีกนิด
“ฮิกาชิซากุระ…ซัง”
เขาเรียกชื่ออย่างระวัง กลัวออกเสียงผิด แต่ก็ยังคงน้ำเสียงสุภาพเดิม
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับ”
+