華座輝 明仁 | ฮานาซากิ อากิฮิโตะ
智安高校 โรงเรียนมัธยมปลายโทโมยาสึ (ปี 3)
Profile : https://bit.ly/AkihitoHanaProfile_RKM
บวกโรลโคได้เสมอเลยƪ(˘⌣˘)ʃ
3-A
ชิโมมุชิกิ โมโตมุ หัวหน้า
@rkmmotomu.bsky.social
โฮชิคาวะ จิอากิ รองหัวหน้า
@rkm-chiaki.bsky.social
คาเนโกะ มิฟุยุ เหรัญญิก
@mifuyuu-rkm.bsky.social
3-B
คีโต้ ไดอิจิ หัวหน้า
@rkm-daiichi.bsky.social
ฮานาซากิ อากิฮิโตะ รองหัวหน้า
@akihanazaki-rkm.bsky.social
คุโรซาวะ ซาวาโนะ เหรัญญิก
@sawano-rkm.bsky.social
3-A
ชิโมมุชิกิ โมโตมุ หัวหน้า
@rkmmotomu.bsky.social
โฮชิคาวะ จิอากิ รองหัวหน้า
@rkm-chiaki.bsky.social
คาเนโกะ มิฟุยุ เหรัญญิก
@mifuyuu-rkm.bsky.social
3-B
คีโต้ ไดอิจิ หัวหน้า
@rkm-daiichi.bsky.social
ฮานาซากิ อากิฮิโตะ รองหัวหน้า
@akihanazaki-rkm.bsky.social
คุโรซาวะ ซาวาโนะ เหรัญญิก
@sawano-rkm.bsky.social
“— ‘ทว่า หากยังไม่ละทิ้งความหวัง จะได้รับสิ่งที่หายไปคืนมาในฤดูถัดไป’”
“ดูเหมือนดวงของคุณจะใจดีพอสมควรนะครับ”
เขากล่าว ก่อนจะพับกระดาษคืนให้อย่างระมัดระวัง
“สรุปแล้ว…คุณคงไม่ต้องกลับมาขอแก้ปีหน้าหรอก”
รอยยิ้มประดับบนริมฝีปากยังเรียบละเมียด แต่ดวงตาแฝงรอยขำบาง ๆ
“เพราะดูท่าวันนี้…โชคคงยอมคุณไปแล้วหนึ่งครั้ง”
“— ‘ทว่า หากยังไม่ละทิ้งความหวัง จะได้รับสิ่งที่หายไปคืนมาในฤดูถัดไป’”
“ดูเหมือนดวงของคุณจะใจดีพอสมควรนะครับ”
เขากล่าว ก่อนจะพับกระดาษคืนให้อย่างระมัดระวัง
“สรุปแล้ว…คุณคงไม่ต้องกลับมาขอแก้ปีหน้าหรอก”
รอยยิ้มประดับบนริมฝีปากยังเรียบละเมียด แต่ดวงตาแฝงรอยขำบาง ๆ
“เพราะดูท่าวันนี้…โชคคงยอมคุณไปแล้วหนึ่งครั้ง”
“— ‘โชคชะตาผู้ถือใบนี้มักมีภัยจากหญิงสาวแปลกหน้า และอาจถูกหลอกด้วยรอยยิ้ม’ …น่าสนใจดีนะ”
เขาเหลือบตาขึ้นสบเธอ ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์วูบหนึ่ง เหมือนจะล้อโดยไม่พูดตรง ๆ ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ
“แต่เดี๋ยวก่อน ยังไม่หมดนะครับ”
(+)
“— ‘โชคชะตาผู้ถือใบนี้มักมีภัยจากหญิงสาวแปลกหน้า และอาจถูกหลอกด้วยรอยยิ้ม’ …น่าสนใจดีนะ”
เขาเหลือบตาขึ้นสบเธอ ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์วูบหนึ่ง เหมือนจะล้อโดยไม่พูดตรง ๆ ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ
“แต่เดี๋ยวก่อน ยังไม่หมดนะครับ”
(+)
“ฮึม… ดูท่าจะจริงจังกันไม่น้อยนะครับ”
เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
แต่แฝงความนุ่มละมุนในจังหวะเดียวกัน
แววตาสีอ่อนกวาดผ่านอักษรบนแผ่นกระดาษ ก่อนริมฝีปากจะคลี่ยิ้มบาง ๆ ที่ยากจะเดาได้ว่าเพราะอะไร
“เขาว่า…”
(+)
“ฮึม… ดูท่าจะจริงจังกันไม่น้อยนะครับ”
เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
แต่แฝงความนุ่มละมุนในจังหวะเดียวกัน
แววตาสีอ่อนกวาดผ่านอักษรบนแผ่นกระดาษ ก่อนริมฝีปากจะคลี่ยิ้มบาง ๆ ที่ยากจะเดาได้ว่าเพราะอะไร
“เขาว่า…”
(+)
เขาก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พลางพยักหน้ารับคำทักทายอย่างสุภาพ
“สวัสดีครับ… เพลงเมื่อกี้ไพเราะจังเลยนะครับ“
เขาก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พลางพยักหน้ารับคำทักทายอย่างสุภาพ
“สวัสดีครับ… เพลงเมื่อกี้ไพเราะจังเลยนะครับ“
เสียงฟลูตแว่วลอยมากับสายลมยามบ่าย ชายหนุ่มหยุดฝีเท้า รอยยิ้มบาง ๆ ผุดบนริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว
เขาเหลือบตามองชายหนุ่มผมยาวในแว่นหนาเตอะ อยู่ท่ามกลางร่มไม้ เสียงดนตรีคลอไปกับแสงแดดที่สาดกระทบเส้นผมพลิ้ว
“เพราะจังเลยนะะ…”
น้ำเสียงนุ่มละมุน พร่างพราวอบอุ่นราวบทเพลง
เสียงฟลูตแว่วลอยมากับสายลมยามบ่าย ชายหนุ่มหยุดฝีเท้า รอยยิ้มบาง ๆ ผุดบนริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว
เขาเหลือบตามองชายหนุ่มผมยาวในแว่นหนาเตอะ อยู่ท่ามกลางร่มไม้ เสียงดนตรีคลอไปกับแสงแดดที่สาดกระทบเส้นผมพลิ้ว
“เพราะจังเลยนะะ…”
น้ำเสียงนุ่มละมุน พร่างพราวอบอุ่นราวบทเพลง
“หืม… บอลติดซะสูงเลย สูงจังเนอะว่าไหม~”
เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง
อาจะทำให้เธอต้องชะงักเล็กน้อย
ก่อนจะหันไปเห็นชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตแขนพับ
ที่กำลังยืนมองอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
“ให้ช่วยไหมครับ?”
เขาเอ่ยต่อแทบจะทันที น้ำเสียงนั้นเจือแววขำจาง ๆ
“เอาน่า ผมไม่อยากให้วันนี้กลายเป็นวันแรกที่สวนนี้มีข่าวคนติดต้นไม้เหมือนลูกบอลหรอกนะ ฮะๆ”
“หืม… บอลติดซะสูงเลย สูงจังเนอะว่าไหม~”
เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง
อาจะทำให้เธอต้องชะงักเล็กน้อย
ก่อนจะหันไปเห็นชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตแขนพับ
ที่กำลังยืนมองอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
“ให้ช่วยไหมครับ?”
เขาเอ่ยต่อแทบจะทันที น้ำเสียงนั้นเจือแววขำจาง ๆ
“เอาน่า ผมไม่อยากให้วันนี้กลายเป็นวันแรกที่สวนนี้มีข่าวคนติดต้นไม้เหมือนลูกบอลหรอกนะ ฮะๆ”
“ว่าแต่…”
เขากระซิบแผ่ว ก่อนจะหรี่ตาเล็กน้อยอย่างคนตั้งใจแหย่
“อยากให้ผมเป็นคนอ่านให้ไหม? เผื่อโชคจะอ่อนข้อให้คุณ…เพราะคนตีความน่ะน่าสนใจกว่าเซียมซีอีกเยอะเลย”
“ว่าแต่…”
เขากระซิบแผ่ว ก่อนจะหรี่ตาเล็กน้อยอย่างคนตั้งใจแหย่
“อยากให้ผมเป็นคนอ่านให้ไหม? เผื่อโชคจะอ่อนข้อให้คุณ…เพราะคนตีความน่ะน่าสนใจกว่าเซียมซีอีกเยอะเลย”
“แต่วันนี้ก็คงไม่เลวนักหรอกนะ”
เขาว่าพลางหยิบไม้เซียมซีที่ตกอยู่ขึ้นมา
“เพราะผมได้เจอคนที่กล้ายิ้มให้โชคร้าย ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโชคดีรออยู่ตรงหน้า”
(+)
“แต่วันนี้ก็คงไม่เลวนักหรอกนะ”
เขาว่าพลางหยิบไม้เซียมซีที่ตกอยู่ขึ้นมา
“เพราะผมได้เจอคนที่กล้ายิ้มให้โชคร้าย ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโชคดีรออยู่ตรงหน้า”
(+)
“หรือบางที—”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นอีกครั้ง
“ คุณอาจจะเชื่อในโชคร้ายมากจนมันกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวไปแล้วก็ได้”
คำพูดนั้นไม่ใช่การเย้าแหย่ตรงไปตรงมา แต่มีความนุ่มนวลที่ฟังดูเกินกว่าจะเป็นแค่การพูดเล่น
(+)
“หรือบางที—”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นอีกครั้ง
“ คุณอาจจะเชื่อในโชคร้ายมากจนมันกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวไปแล้วก็ได้”
คำพูดนั้นไม่ใช่การเย้าแหย่ตรงไปตรงมา แต่มีความนุ่มนวลที่ฟังดูเกินกว่าจะเป็นแค่การพูดเล่น
(+)
อากิฮิโตะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มผุดบนริมฝีปากก่อนเสียงหัวเราะในลำคอจะตามมาอย่างแผ่วนุ่ม
“พูดแบบนั้น… ฟังดูไม่เหมือนคนสิ้นหวังเลยนะ”
เขาเอนตัวเล็กน้อย สายตาอ่อนโยนแต่แฝงแววขี้เล่น
“กลับดูเหมือนคนที่ยอมรับทุกอย่างได้…แม้แต่โชคร้ายของตัวเอง”
(+)
อากิฮิโตะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มผุดบนริมฝีปากก่อนเสียงหัวเราะในลำคอจะตามมาอย่างแผ่วนุ่ม
“พูดแบบนั้น… ฟังดูไม่เหมือนคนสิ้นหวังเลยนะ”
เขาเอนตัวเล็กน้อย สายตาอ่อนโยนแต่แฝงแววขี้เล่น
“กลับดูเหมือนคนที่ยอมรับทุกอย่างได้…แม้แต่โชคร้ายของตัวเอง”
(+)
“—ต่อให้เซียมซีไม่บอก ผมว่าก็โชคดีอยู่ดีนะ”
เขาหัวเราะเบา ๆ อีกครั้ง ก่อนจะสลับมือให้เธอนั้นเป็นฝ่ายเขย่ากระบอกเซียมซีแทน
“มาเถอะ ลองดูสิ… บางทีโชควันนี้ อาจจะยิ้มให้เราทั้งคู่ก็ได้”
“—ต่อให้เซียมซีไม่บอก ผมว่าก็โชคดีอยู่ดีนะ”
เขาหัวเราะเบา ๆ อีกครั้ง ก่อนจะสลับมือให้เธอนั้นเป็นฝ่ายเขย่ากระบอกเซียมซีแทน
“มาเถอะ ลองดูสิ… บางทีโชควันนี้ อาจจะยิ้มให้เราทั้งคู่ก็ได้”
“อย่าเพิ่งทำหน้าจริงจังสิ”
เขาว่า พร้อมเอนตัวเล็กน้อย ใบหน้าเข้ามาใกล้ในระยะที่สายตาสามารถสบกันได้ชัด
“ผมแค่คิดว่า… ถ้าได้เสี่ยงโชคร่วมกับคนคุ้นหน้าในสถานที่แบบนี้”
(+)
“อย่าเพิ่งทำหน้าจริงจังสิ”
เขาว่า พร้อมเอนตัวเล็กน้อย ใบหน้าเข้ามาใกล้ในระยะที่สายตาสามารถสบกันได้ชัด
“ผมแค่คิดว่า… ถ้าได้เสี่ยงโชคร่วมกับคนคุ้นหน้าในสถานที่แบบนี้”
(+)
เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย เสียงหัวเราะเบา ๆ คล้ายจะกลั่นออกมาจากความเพลิดเพลินในบทสนทนา
“ถ้าเซียมซีบอกว่า โชคร่วมกัน
ซาวาโนะจังจะรับผิดชอบร่วมไหมนะ?”
ปลายประโยคของเขาเต็มไปด้วยชั้นเชิง ทั้งขี้เล่นและแฝงความจริงจังบางเบาในที
สายลมพัดพลิ้วผ่านผมเขา เผยให้เห็นเสี้ยวใบหน้าที่อาบด้วยแสงแดดอุ่นยามสาย
(+)
เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย เสียงหัวเราะเบา ๆ คล้ายจะกลั่นออกมาจากความเพลิดเพลินในบทสนทนา
“ถ้าเซียมซีบอกว่า โชคร่วมกัน
ซาวาโนะจังจะรับผิดชอบร่วมไหมนะ?”
ปลายประโยคของเขาเต็มไปด้วยชั้นเชิง ทั้งขี้เล่นและแฝงความจริงจังบางเบาในที
สายลมพัดพลิ้วผ่านผมเขา เผยให้เห็นเสี้ยวใบหน้าที่อาบด้วยแสงแดดอุ่นยามสาย
(+)
ปลายนิ้วของเขาเคลื่อนไหวช้า ๆ โดยไม่ได้แตะต้อง แต่ใกล้พอให้ลมหายใจอุ่นเฉียดผ่านระยะนั้นอย่างจงใจ
“ใช่แล้วล่ะ…”
เสียงนุ่มละเมียดหล่นออกมาพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนจงใจขีดเส้นระหว่างความหยอกเย้าและความรู้สึกที่เกินคำนิยาม
(+)
ปลายนิ้วของเขาเคลื่อนไหวช้า ๆ โดยไม่ได้แตะต้อง แต่ใกล้พอให้ลมหายใจอุ่นเฉียดผ่านระยะนั้นอย่างจงใจ
“ใช่แล้วล่ะ…”
เสียงนุ่มละเมียดหล่นออกมาพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนจงใจขีดเส้นระหว่างความหยอกเย้าและความรู้สึกที่เกินคำนิยาม
(+)
“แต่ระวังไว้หน่อยล่ะ…ว่ากันว่าเซียมซีของที่นี่น่ะ ทำนายแม่นจนบางคนกลับมาขอแก้ทุกปีเลยนะ”
พูดจบ เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิม เสียงแผ่วลงราวกับจะฝากความลับไว้กับอากาศ
“ถ้ามันออกมาไม่ดี…อย่ามาโทษผมก็แล้วกันะ♪ ”
“แต่ระวังไว้หน่อยล่ะ…ว่ากันว่าเซียมซีของที่นี่น่ะ ทำนายแม่นจนบางคนกลับมาขอแก้ทุกปีเลยนะ”
พูดจบ เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิม เสียงแผ่วลงราวกับจะฝากความลับไว้กับอากาศ
“ถ้ามันออกมาไม่ดี…อย่ามาโทษผมก็แล้วกันะ♪ ”
ดวงตาสีอ่อนฉายแววเจ้าเล่ห์วูบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเอนตัวเล็กน้อย เอามือเท้าโต๊ะไม้เตี้ยข้างศาลด้วยท่วงท่าสบาย ๆ
“ตอนแรกนึกว่าจะทำหน้าไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ซะอีก ฮะๆ”
เขาเอ่ยพลางหัวเราะเบา เสียงนั้นนุ่มราวกับลมพัดต้องกระดิ่งเงินที่แขวนอยู่เหนือศาล
ดวงตาสีอ่อนฉายแววเจ้าเล่ห์วูบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเอนตัวเล็กน้อย เอามือเท้าโต๊ะไม้เตี้ยข้างศาลด้วยท่วงท่าสบาย ๆ
“ตอนแรกนึกว่าจะทำหน้าไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ซะอีก ฮะๆ”
เขาเอ่ยพลางหัวเราะเบา เสียงนั้นนุ่มราวกับลมพัดต้องกระดิ่งเงินที่แขวนอยู่เหนือศาล
เขาเอ่ยด้วยเสียงนุ่ม
“ว่าแต่…อยากลองเสี่ยงเซียมซีด้วยกันไหม?”
ท่าทางชวนเล่นของเขาผสมกับความอบอุ่นราวกับเชื้อเชิญให้คุณเข้ามาแบ่งปันช่วงเวลาสงบนี้
(+ได้ค่า)
เขาเอ่ยด้วยเสียงนุ่ม
“ว่าแต่…อยากลองเสี่ยงเซียมซีด้วยกันไหม?”
ท่าทางชวนเล่นของเขาผสมกับความอบอุ่นราวกับเชื้อเชิญให้คุณเข้ามาแบ่งปันช่วงเวลาสงบนี้
(+ได้ค่า)
เขาพูดพึมพำเบา ๆ พร้อมขยับตัวให้ดูเหมือนจะเชื้อเชิญผู้ที่ผ่านมามาร่วมอยู่ใกล้ พลางสอดสายตาซุกซนไปยังผู้มาเยือน ใบหน้าเรียบสง่าแฝงประกายเจ้าเล่ห์ราวกับกำลังคิดแผนเล็ก ๆ ไว้เล่นกับใครสักคน
เขาพูดพึมพำเบา ๆ พร้อมขยับตัวให้ดูเหมือนจะเชื้อเชิญผู้ที่ผ่านมามาร่วมอยู่ใกล้ พลางสอดสายตาซุกซนไปยังผู้มาเยือน ใบหน้าเรียบสง่าแฝงประกายเจ้าเล่ห์ราวกับกำลังคิดแผนเล็ก ๆ ไว้เล่นกับใครสักคน